เปิดหน้าไพ่เต็มสูบ “ประยุทธ์” ดีเดย์ลงสระแก้ว 18 พ.ค.เหยียบถิ่น “ป๋าเหนาะ” เป็นประธานเปิดด่านผ่านแดนถาวร ผู้ว่าฯ ยังมึนไม่รู้ส่วนกลางยังไม่มีคำสั่งลงมา “ไพศาล” ยกตัวอย่างเสนาะยกมือใคร คนนั้นได้บริหารประเทศ แนะจับตาดูให้ดี “สรวงศ์” ลั่นยังศิโรราบเพื่อไทย โต้เหมือนดูดลอดช่อง ไม่ใช่ง่าย “มาร์ค” ถามหาบัญชีละเลงงบ ครม.สัญจร พราหมณ์แดงชี้ “ลุงตู่” ดวงตกวูบหลังไปบุรีรัมย์
เมื่อวันพฤหัสบดี กระแสดูดนักการเมือง โดยเฉพาะกลุ่มวังน้ำเย็นของนายเสนาะ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อมีกำหนดการปฏิบัติหน้าที่ของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งระบุว่าในวันที่ 18 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์จะลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เพื่อเป็นประธานเปิดด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ร่วมกับจังหวัดพระตะบอง ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยจังหวัดได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังมีกำหนดการเดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการใน จ.เชียงใหม่ เป็นลำดับถัดไป โดยคาดว่าจะเป็นในช่วงปลายเดือน พ.ค.นี้
นายพรพจน์ เพ็ญพาส ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.สระแก้ว ว่าได้ประชุมร่วมกับผู้ว่าฯ จ.พระตะบอง ถึงการเปิดด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด ในวันที่ 18 พ.ค. เพราะถือเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี จึงเห็นชอบว่าจะเชิญผู้บริหารระดับสูงจากส่วนกลางมาเป็นประธานเปิดอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ได้ระบุเชิญนายกฯ จึงเป็นไปได้ที่รองนายกฯ รัฐมนตรี ร่วมถึงแม่ทัพภาคจะมาร่วมแทน โดยยังรอคำสั่งจากปลัดกระทรวงมหาดไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ว่าจะมีผู้บริหารจากส่วนกลางท่านใดมาบ้าง หากผู้บริหารจากส่วนกลางไม่สะดวกในวันที่ 18 พ.ค.นี้ อาจเลื่อนเปิดด่านออกไปก่อน หรือหากมีคำสั่งให้เปิดด่านเอง ก็พร้อมดำเนินการต่อไป
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ปฏิเสธตอบคำถามการลงพื้นที่ จ.สระแก้ว เพื่อไปดูดกลุ่มการเมืองของนายเสนาะว่า โอ้ ก่อนเดินขึ้นตึกวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศทันที
ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง อดีต รมช.สาธารณสุข บุตรชายนายเสนาะ ยืนยันถึงกระแสข่าวดูดนักการเมืองตระกูลเทียนทองว่า ไม่มี พวกเรายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) กันหมดทุกคนแล้ว รวมถึงนายเสนาะ ด้วย ซึ่งที่เป็นประเด็นขึ้นมาก็เพราะว่านายไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร มารดน้ำดำหัวคุณพ่อ โดยคุณพ่อได้พูดภาพรวมให้ฟังว่า ประเทศเป็นแบบนี้เลือกตั้งไป แม้มีรัฐบาลก็ทำงานลำบาก เพราะกฎระเบียบรวมถึงรัฐธรรมนูญที่วางเอาไว้ทำให้ทำงานไม่ได้ ถ้าไม่ร่วมกันเพื่อแก้ก็ลำบาก เราผ่านมาแล้วทั้งแผ่นเสียง เทปคาสเซต และเครื่องเล่นเอ็มพี 3 ในเวลาไม่ถึง 10 ปี ดังนั้นทุกวันนี้ต้องมองกันเป็นวินาที ไม่ใช่มองทีละ 20 ปีอย่างยุทธศาสตร์ชาติ
“วันนี้เรื่องดูดไม่ใช่ประเด็น ถึงดูดไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะพวกผมก็ทำงานลำบาก อย่าคิดว่าเป็นเทียนทองแล้วจะลงพรรคไหนในสระแก้วก็ได้หมด ต้องฟังประชาชนด้วย เหมือนสมัยพรรคประชาราช ตอนนั้นก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด เพราะฉะนั้นตอนนี้อย่าคิดเลย ถ้ามาดูดก็เหมือนดูดลอดช่อง ดูดไม่ขึ้นหรอก พวกผมชัดเจนว่าไม่เอานายกฯ คนนอก และไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจแบบนี้อีก” นายสรวงศ์กล่าว
หวังป๋าเหนาะชูมือลุงตู่
ขณะที่นายไพศาลโพสต์เฟซบุ๊กว่า ป๋าเหนาะบอกสื่อว่าพร้อมไปต้อนรับลุงตู่ลงพื้นที่สระแก้วในไม่กี่วันข้างหน้านี้ จะได้ทราบว่าทำไมตลาดโรงเกลือ ซึ่งมีการค้าขายชายแดนแต่ละวัน มีผู้คนไปค้าขายกว่าแสนคน แต่ตอนนี้เงียบเป็นป่าช้า เพื่อจะได้ช่วยเหลือประชาชนได้ตรงตามความต้องการ และถ้าลุงตู่อยากพบประชาชน ก็จะเชิญชวนประชาชนมาต้อนรับ จะเอาสัก 50,000 คนก็ได้ โดยป๋าเหนาะพูดอีกว่า ป้อมกับประยุทธ์นั้นไม่ใช่คนไกล เขาโตมาจากที่นั่น หมายถึงเคยดำรงตำแหน่งสำคัญ ทางทหารจากพื้นที่ปราจีนบุรี สระแก้ว มาตั้งแต่หนุ่มๆ
“น่าสังเกตว่าแนวคิดเรื่องรัฐบาลแห่งชาติที่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน สามัคคีปรองดองกัน กำลังได้รับการขานรับมากขึ้น ปีหนึ่งป๋าเหนาะชูมือ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ว่าจะเป็นนายกฯ คนต่อไป พล.อ.ชาติชายก็เป็นนายกฯ ปีหนึ่งชูมือท่านบรรหาร ศิลปอาชา สนับสนุนเป็นนายกฯ ก็เป็นนายกฯ ปีหนึ่งในวันที่ 1 เม.ย.เป็นวันเกิดป๋าเหนาะ ชูมือนายทักษิณ ชินวัตร ว่าจะเป็นนายกฯ ต่อไป ก็เป็นจริงๆ ปีหนึ่งก็มาชูมือพี่จิ๋ว พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกฯ ก็เป็นจริงๆ จึงน่าจับตาว่าในวันที่ลุงตู่ลงพื้นที่สระแก้ว ป๋าเหนาะจะจับมือลุงตู่ชูเป็นนายกฯ ต่อหรือไม่ แผ่นดินแห้งแล้งมานาน สักวันสายฝนจะฟื้นคืนความเขียวชอุ่มชุ่มชื่น” นายไพศาลโพสต์
ส่วนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงการลงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ของ พล.อ.ประยุทธ์ว่า ถ้าทำให้เกิดประโยชน์ถือว่าดี แต่แนวคิดที่ว่าลงพื้นที่แล้วต้องอนุมัติงบประมาณต้องระมัดระวัง เพราะจะทำให้ระบบการจัดสรรทรัพยากรเสีย ส่วนเรื่องการดูดพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นั้น คิดว่า ภท.จะไม่เปลี่ยนเป็นอื่น และจะมีท่าทีที่ชัดเจนในช่วงเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง โดยได้มีโอกาสคุยแลกเปลี่ยนกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. ซึ่งเวลาพบปะกันนายอนุทิน ค่อนข้างหนักแน่นว่าพรรคของเขาคือพรรคของเขา ส่วนจุดยืนทางการเมืองจะเป็นอย่างไร ให้ว่ากันในช่วงการเลือกตั้ง
“รูปแบบที่ออกมาก็ทำให้คนมีสิทธิ์ตั้งคำถามว่าถ้าจังหวัดอื่นเขาอยากได้งบประมาณแบบนี้บ้าง เขาต้องทำอย่างไร เขาต้องมีอดีต ส.ส. นักการเมืองมาต้อนรับแบบนี้หรืออย่างไร” นายอภิสิทธิ์กล่าว และว่า สมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย เคยสอบถามเกี่ยวกับ ครม.สัญจรเป็นอย่างไร โดยจำได้ว่ามีข้าราชการตอบว่าควรประเมินความคุ้มค่าและค่าใช้จ่าย ซึ่งผลปรากฏว่าไม่คุ้ม คนหนึ่งที่น่าจะรู้ดีคือนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เพราะสมัยนั้นอยู่สำนักเลขาธิการ ครม. วันนี้จึงอยากถามนายวิษณุว่า จำได้หรือไม่ที่เคยมีการประเมินเรื่องนี้ว่าคุ้มหรือไม่คุ้มอย่างไร ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลเปิดเผยค่าใช้จ่ายเวลาจัดประชุมนอกสถานที่
พราหมณ์แดงชี้ตู่ดวงตก
พราหมณ์ศักดิ์ระพี พรหมชาติ พราหมณ์ประจำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ตอนนี้มีดาวเคราะห์มาบดบังชนิดมิดเลย ทำให้ดวงแกตก และคงไปไม่ถึงตามสิ่งที่ตั้งความหวังเอาไว้ ยิ่งการไปเยือน จ.บุรีรัมย์นั้นไม่ใช่เรื่องดีเลย ส่วนดวงชะตานายทักษิณและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ นั้น หลังปีใหม่ไทยหรือช่วงสงกรานต์ไปแล้วดวงดีขึ้นเรื่อยๆ แถมดวงยังดีส่งผลต่อไปถึงพรรคเพื่อไทยด้วย ดูแล้วถึงอย่างไรไม่มีวันเพลี่ยงพล้ำ ถ้าเลือกตั้งก็ชนะวันยังค่ำ
สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่จะมาชุมนุมในวันที่ 22 พ.ค. เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งในเดือน พ.ย.นี้นั้น พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ กล่าวว่า เมื่อเราเข้าใจกติกาแล้วว่าการเลือกตั้งเมื่อมีรัฐธรรมนูญแล้วก็ต้องมีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ และต้องมีความพร้อมของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และประชาชน แล้วถามว่าถ้าไม่เสร็จหรือองค์ประกอบไม่ครบก็เลือกตั้งไม่ได้ ไม่ใช่เปิดปุ๊บติดปั๊บ ต้องให้เวลาดำเนินการตามขั้นตอน มันถึงจะสมบูรณ์ จากนั้นจึงเดินหน้าเลือกตั้ง
เมื่อถามว่า คสช.จำเป็นต้องส่งคนไปทำความเข้าใจกับกลุ่มนี้หรือไม่ พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า เราก็ส่งคนไปดูแลมาตลอด เชื่อว่าความเข้าใจจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้ายังมีคนไม่เข้าใจก็ต้องคุยกัน ต้องสร้างการรับรู้ แต่บางทีจังหวะหรือโอกาสที่จะไปเจอหน้ากันอาจไม่มีโอกาส ก็ต้องใช้ผ่านสื่อ ดังนั้นในการที่เราพยายามจะพูด ประชาสัมพันธ์ ก็อยากจะฝากว่าให้เขาช่วยรับฟังด้วย เมื่อเข้าใจแล้วเราจะได้ร่วมกันเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง
พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ข้อเรียกร้องของกลุ่มคนอยากเลือกนั้น รัฐบาลดำเนินการอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเลือกตั้ง ดังนั้นไม่อยากให้มีการเดินขบวน เพราะจะเป็นการรบกวนประชาชน ส่วนที่นายกรัฐมนตรีตั้งข้อสังเกตอาจมีผู้อยู่เบื้องหลังนั้น สมช.พยายามสอดส่องดูแลอยู่
“มีโอกาส เพราะเมื่อมีการเดินขบวน อาจมีการแทรกแซงได้จากกลุ่มไม่หวังดี รัฐบาลพยายามป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ไม่หวังดีมาฉวยโอกาสจากการเดินขบวนครั้งนี้เป็นเครื่องมือ ยืนยันจะดำเนินการให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้มีการกระทำผิดกฎหมายและรบกวนประชาชนส่วนใหญ่” พล.อ.วัลลภกล่าวตอบข้อถามเรื่องจะมีมือที่สามมาป่วนหรือไม่
นายอภิสิทธิ์ประเมินว่า ไม่ได้มีอะไรสลับซับซ้อน และอยากให้เป็นเรื่องของฝ่ายประชาชน ถ้ามีการเมืองเข้าไป ก็คงถูกกลายเป็นเรื่องความขัดแย้งทางการเมือง กล่าวหากันอีก แต่อย่าให้มันบานปลายไปสู่ความวุ่นวายหรือความรุนแรง เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ที่ประเมินคือ สุดท้ายสิ่งที่เรียกร้องจะไม่ได้ กลับจะยิ่งเป็นข้ออ้างให้ผู้มีอำนาจว่ามันกระทบต่อโรดแมป
"ผู้มีอำนาจเองต้องรักษาสัจจะ ตรงไปตรงมากับความพยายามในการพาบ้านเมืองเดินไปตามสิ่งที่เคยพูดไว้ เพื่อความเชื่อถือของประเทศและรัฐบาลเอง" นายอภิสิทธิ์กล่าว
ลั่นเลือกคนดีที่สุดแล้ว
ส่วนความคืบหน้าในการสรรหา กกต.นั้น นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในฐานะกรรมการสรรหา กกต. กล่าวถึงกรณีนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า อดีตผู้ว่าฯ หลายจังหวัด ที่ไม่ผ่านการสรรหาครั้งที่แล้ว แต่ครั้งนี้ได้รับการสรรหา ว่าเพราะตอนแรกถือหุ้นในบริษัทที่ประกอบกิจการสื่อ แต่ครั้งนี้นายพีระศักดิ์ได้แก้ไขแล้ว ส่วนที่ระบุว่าผู้ผ่านสรรหาส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ ประสบการณ์เกี่ยวกับการเลือกตั้งอาจน้อยนั้น การสรรหาของคณะกรรมการสรรหาฯ พิจารณาจากผู้ที่มีความรู้ความความสามารถเป็นหลัก
“กรรมการสรรหาฯ ดูว่าเขาทำงานมา งานที่เขาทำเป็นประโยชน์กับราชการหรือไม่ ทำด้วยความมุมานะขันแข็งหรือไม่ ทำด้วยความเข้าใจที่จะสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจหรือไม่ ต้องมีความรู้ความสามารถทำในสิ่งที่มันท้าทาย มั่นใจว่าเรื่องของคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของ 5 คนนั้น กรรมการสรรหาฯพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว และได้พิจารณาคนที่ดีที่สุด” นายพรเพชรกล่าว
วันเดียวกัน ยังคงมีความเคลื่อนไหวเรื่องจัดตั้งพรรคใหม่ โดยนายนาม ยิ้มแย้ม อดีตประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าวว่า ได้รับการติดต่อทาบทามจากคนในพรรคพลังธรรมใหม่ให้เข้ามาช่วยงานด้านธรรมาภิบาลของพรรค ซึ่งหลังจากใช้เวลาพิจารณาดูแล้วเห็นว่า หลักเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับพรรคมีหลักเกณฑ์ที่ดี จึงตอบรับเป็นกรรมการธรรมาภิบาลของพรรคพลังธรรมใหม่แล้ว และจะเดินทางไปร่วมประชุมใหญ่ของพรรคในวันจันทร์ที่ 14 พ.ค.นี้ ที่มหาวิทยาลัยรังสิตด้วย
ทั้งนี้ พรรคพลังธรรมใหม่ ปัจจุบันนำโดย นพ.ระวี มาศฉมาดล เป็นผู้ก่อตั้งพรรค ซึ่งยังมีรายงานอีกว่า ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยนโยบายพลังงานและทรัพยากร มหาวิทยาลัยรังสิต ก็ได้ตอบรับจะเข้าร่วมงานกับพรรคพลังธรรมใหม่ด้วย โดยจะเข้าไปเป็นรองหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ หลังก่อนหน้านี้ ม.ล.กรกสิวัฒน์ได้ร่วมเคลื่อนไหวเรื่องพลังงานกับ นพ.ระวี ในนามเครือข่ายปฏิรูปพลังงานมาตลอด
ปัดแดงอีสานตั้งพรรค
ส่วนพราหมณ์ศักดิ์ระพีกล่าวถึงกรณีนายสิระ พิมพ์กลาง แกนนำเสื้อแดงสกลนครมีแนวคิดจัดตั้งพรรคคนเสื้อแดง ว่าตนเองมีอีกสถานะหนึ่งคือ ประธาน นปช.สกลนคร ซึ่งเมื่อฟังคำให้สัมภาษณ์ของนายสิระช่วงแรกๆ ก็ไม่มีอะไร แต่นับวันชักจะเริ่มไปกันใหญ่ โดยคนเสื้อแดงสกลนครโทรศัพท์มาสอบถามมากขึ้น จึงชี้แจงกลับไปว่าไม่เป็นความจริง หากทำพรรคจริง ต้องได้รับการยอมรับจากแกนนำส่วนกลาง ในวันนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ยังถูกคุมขัง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนางธิดา ถาวรเศรษฐ ต่างยืนยันไม่มีแนวคิดทำพรรค ยังยึดมั่นต่อแนวทางของพรรคเพื่อไทย เว้นแต่ว่าวันหนึ่งพรรคเพื่อไทยเบนเข็มไปสนับสนุนเผด็จการ สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ วันนั้นคนเสื้อแดงจะตั้งพรรคทันที
“นายสิระรู้จักแกนนำหลายคน ตอนมาชุมนุมมาจริง แต่มาคนเดียว สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ได้ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งลอยๆ แต่อยู่ได้ 1 เดือน น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ปลดออก เข้าใจว่าแกเป็นคนชอบพูด คนอื่นไม่ได้ถือสาแกอะไร แต่ชักพูดไปเรื่อย เลยต้องขอออกมาชี้แจงให้ข้อมูลอีกด้าน” พราหมณ์ศักดิ์ระพีกล่าว
น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้งโพสต์เฟซบุ๊กพร้อมแสดงจดหมายแจ้งผลการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ได้ยื่นร้องให้ผู้ตรวจการฯ วินิจฉัยคำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยระบุว่า คำวินิจฉัยนี้มีปัญหาอย่างยิ่ง ทั้งในแง่บทบาทหน้าที่ผู้ตรวจการฯ ที่ไม่พึงทำตนเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาวินิจฉัยเสียเอง และในแง่ให้เหตุผล เพราะสิ่งที่เรียกว่ากฎหมายที่จะได้รับการรับรองว่าชอบโดยรัฐธรรมนูญจะขัดกับบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ ซึ่งใหญ่กว่ามิได้ มิฉะนั้นเท่ากับคำสั่งหัวหน้า คสช.ใหญ่กว่ารัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และหัวหน้า คสช.ใหญ่กว่าทุกคนในประเทศไทย
“โบว์จะดำเนินการต่อดังนี้ 1.ยื่นหนังสือยืนยันให้ผู้ตรวจการฯ ปฏิบัติหน้าที่ตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย คือพิจารณาคำร้อง และส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้ตีความตามหน้าที่ และ 2.ยื่นหนังสือผ่านผู้ตรวจการฯ ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า มาตรา 279 ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะทำให้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับไร้ความหมายและมีศักดิ์ต่ำกว่าคำสั่งหัวหน้า คสช.”น.ส.ณัฏฐากล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |