13 ม.ค.2564 -  ผู้สื่อข่าวรายงานจากชายแดนไทย-เมียนมา ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ว่าหลังจากที่ทางการเมียนมามีคำสั่งให้ 3 นายทหารระดับผู้บังคับกองพันให้พ้นจากตำแหน่ง ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับชาวต่างชาติ สร้างความเสียหายให้กับประเทศ คือ พ.อ.หม่องชิตตู่ ผู้บังคับกองพัน (ผบ.)กรม 3 กองกำลังพิทักษ์ชายแดน BGF, พ.ต.โม๊ะโต่ง  ผบ กรม 2 และ พ.ต.เส่งวิน รอง ผบ.พันกองกำลังพิทักษ์ชายแดนหรือบีจีเอฟ และ กองกำลังกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมาในอดีต เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลทำให้สถานการณ์ชายแดนในฝั่งเมียนมา ที่ตึงเครียดกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19  อยู่แล้ว ยังสุ่มเสี่ยงเกิดการปะทะกันระหว่างทหารฝ่ายรัฐบาลเมียนมากับกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งภายใต้การนำของ 3 ผู้นำทหารถูกสั่งปลดตำแหน่ง คุมกำลังติดอาวุธนับหมื่นนายสั่งเตรียมพร้อมรบตลอด 24 ชั่วโมง 

ล่าสุดกองกำลังทหารเมียนมาได้เปิดฉากโจมตีกำลังชนกลุ่มน้อยติดอาวุธ ท้ายหมู่บ้านเซอค้อเดอ  เขตกองพล 5 ของรัฐกะเหรี่ยง ในจังหวัดผาอัน ตรงข้าม อ.ท่าสองยาง จ.ตาก ทั้ง 2 ฝ่ายมีการปะทะอย่างดุเดือดใช้อาวุธประจำกายและอาวุธหนักโจมตีระหว่างกัน ส่งผลทำให้ ราษฎร์ชาวกะเหรี่ยงจากหมู่บ้านตาเกวเดย์  หมู่บ้านปาเกวกี  และหมู่บ้านปาเกวตา จำนวนกว่า 80 ครอบครัว  588 คน  หนีออกจากหมู่บ้านของตัวเอง มาอยู่ตามป่าเขา ตามถ้ำ หลบในหลุมหลบภัยจากกระสูนปืน ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งเดินทางมาจ่ออยู่บริเวณใกล้ชายแดนไทยแล้ว 

ขณะที่ พล.ท.อภิเชตฐ์ ซื่อสัตย์ แม่ทัพภาคที่ 3  กล่าวว่า การปลดผู้นำระดับสูงของกองกำลังชนกลุ่มน้อยและอาจนำไปสู่ความรุนแรงนั้น เชื่อว่ายังไม่น่าจะเป็นไปได้ จะยังไม่ส่งผลกระทบกับไทย เนื่องจากเป็นความขัดแย้งด้านผลประโยชน์มากกว่า และถือว่าเป็นเรื่องภายในเมียนมา