เปิดศักราชใหม่ปี 2564 หากไม่มีภาวะโควิด-19 ระบาด สภาผู้แทนราษฎรไม่เลื่อนการประชุมออกไป 2 สัปดาห์ ปมประเด็นการเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์ของพรรคร่วมฝ่ายค้านคงจะคึกคักมากกว่านี้

            โดยเฉพาะพรรค "เพื่อไทย" วางแผนงานเบื้องต้น สัปดาห์แรกมกราคมเตรียมนัดประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านมาหารือ วางกรอบการอภิปรายรัฐมนตรีที่จะถูกซักฟอก

            จากนั้นให้แต่ละพรรคไปแบ่งเนื้อหา กำหนดประเด็นแต่ละคนไม่ให้เกิดการซ้ำซ้อนกัน แล้วนำมาประชุมแบ่งงานกันอีกรอบปลายเดือนมกราคม เข้าชื่อเพื่อยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์และคณะ

            การตรวจสอบญัตติ ความถูกต้องอีก 15 วัน คิวอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดในสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ ทันปิดสมัยประชุมสภาในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 

                โควิดมา สภาเลื่อนการประชุม!!!

            ส่งผลต่อแผนงาน "พรรคร่วมฝ่ายค้าน" ด้วย แกนนำพรรค ส.ส.หลายคนอยู่ในพื้นที่ ทำให้การประชุมแบบวงใหญ่พร้อมกันทำไม่ได้ ทำได้เพียงหารือผ่านแอปพลิเคชัน Zoom ไปพลาง พร้อมกับเตรียมข้อมูลที่จะซักฟอกเอาไว้ โดยที่ยังไม่รู้ว่าการเปิดประชุมสภาจะต้องขยายเวลาออกไปหรือไม่

            หากสถานการณ์โควิดยังไม่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น 

            หรือแม้แต่ได้อภิปรายตามเดิม เพื่อไทย นำโดย เฮียพงษ์-นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยและผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และชาวคณะ จะมีข้อมูลเด็ดใบเสร็จมัดสร้างผลสะเทือนรัฐบาลประยุทธ์ได้ขนาดไหน 

            พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เป้าหลักที่จะถูกยื่นอภิปรายแน่นอน พ่วงด้วย 2 พี่ใหญ่ที่เกาะเกี่ยวทางอำนาจมาอย่างยาวนาน ไม่เคยกระเด็นหลุดจากโผ ครม.เลย ทั้งประยุทธ์ 1 ประยุทธ์ 2 คือ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ บิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะโดนอภิปรายอย่างแน่นอน 

            บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร พรรคก้าวไกลขอแก้มือหลังจากปีที่แล้วไม่ได้อภิปราย เจอแท็กติกเรื่องเวลา กลเกมการเมืองจากคนกันเอง

            ส่วน บิ๊กป๊อก-พล.อ.อนุพงษ์ รอบนี้จะโดนเช่นกัน เพียงแต่ทั้งสองคนจะโดนด้วยเรื่องอะไรบ้าง

            เขย่าเก้าอี้ให้สั่นคลอนได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป???

            ทีมงานเบื้องหลังเตรียมทีม เตรียมข้อมูลอภิปราย จนถึงวันนี้ยังอุบเงียบไม่ยอมแพลม ประเด็นล็อกเป้ารัฐมนตรีที่จะถูกซักฟอกมีเพียง โจ้-ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะทำงานเตรียมการการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคเพื่อไทย ออกมาบอกเบื้องต้นโครงการอีอีซี การต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวจะถูกอภิปรายแน่นอน

            เสี่ยหนู-นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ อยู่ในข่ายที่ถูกยื่นอภิปราย ฝ่ายค้านยังไม่ทันโหมโรงอภิปรายมีฉากคั่นเวลาให้ต้องแก้ปัญหาภายในกันโดยด่วน ลบข้อครหาความคลางแคลงใจทางสังคม

                ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคนรับบท ‘ล็อบบี้ยิสต์’ โทรศัพท์ไปถึง ส.ส.ในพรรคหลายคนที่เคยลงชื่อยื่นถอดถอนนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ โดยอ้างว่ารายชื่อที่ลงนามทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคฝ่ายค้านมากเพียงพอแล้ว หากยังยืนยันเข้าชื่อต่อไปอาจถูกฟ้องร้องตามมาได้

            เป็นเหตุให้ ส.ส.ที่ยังไม่เจนในสนามการเมืองส่วนใหญ่เป็น ส.ส.หน้าใหม่ถอนชื่อออก เพราะเกรงว่าจะมีผลทางกฎหมายตามมาจริงๆ แม้ต่อมาแกนนำเพื่อไทยเคลียร์ใจกับพรรคเจ้าของเรื่อง และขอแก้มือรวบรวมรายชื่อหนที่สอง เพื่อนำรายชื่อที่ได้ไปให้พรรคเสรีรวมไทยยื่นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยคุณสมบัติ "สิระ" 

            แต่ไม่ทันการณ์!!!

            ปมประเด็นความสงสัยจากเรื่องเล่าข่าวลือและสิ่งที่ปรากฏ ทำให้แฟนคลับผู้เฝ้าติดตามสถานการณ์การเมืองย่อมอดคิดลบไม่ได้ เพราะเหตุการณ์ลักษณะนี้ปรากฏหลายต่อหลายครั้ง

            ส.ส.ล็อบบี้ และ ส.ส.ที่ไปถอนรายชื่อยังต้องถูกสอบสวนหาความจริงจากทางพรรค ส่วนผลสอบจะเป็นอย่างไร จะมีบทลงโทษตามมาให้หลาบจำ หรือมวยล้ม คงต้องเฝ้าติดตาม แต่ที่แน่ๆ นาทีนี้เครดิตนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เพื่อไทย ถูกบั่นทอนความน่าเชื่อถือลงไปเรื่อยๆ 

            เช่นเดียวกับข้อมูลเนื้อหาอภิปรายที่คนกันเองตั้งแง่กันเอง ภาวนาเวทีโชว์ของ อย่าให้เป็นมหกรรม ‘เคาะกะลา วางบิล ข้อสอบรั่ว ต้มกันเอง’ ให้ต้องช้ำใจเหมือนที่แล้วมา.

                                                ------------