อุทกภัย 4 จังหวัดใต้คลี่คลาย ตัวเมืองปัตตานียังสาหัสที่ ต.จะบังติกอ และ ต.รูสะมิแล ชาวบ้านอ่วม รับน้ำทะลักจากแม่น้ำปัตตานี จมมิดมา 3 วัน ปภ.ระดมเครื่องจักรกล เครื่องสูบน้ำเร่งระบาย เตือนประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
    เมื่อวันที่ 12 ม.ค. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานอิทธิพลมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งสหพันธรัฐมาเลเซีย ทำให้บริเวณภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรง ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.-12 ม.ค. เวลา 06.00 น. มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และดินสไลด์ในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ สงขลา ยะลา นราธิวาส และปัตตานี รวม 32 อำเภอ 193 ตำบล 1,034 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 66,326 ครัวเรือน ส่วนจุดอพยพ 8 จุด ผู้อพยพ 510 คน แบ่งเป็นนราธิวาส 1 จุด ยะลา 6 จุด สงขลา 1 จุด ผู้เสียชีวิต 3 ราย แบ่งเป็นยะลา 2 ราย สงขลา 1 ราย ผู้บาดเจ็บที่สงขลา 2 ราย
    "พื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก 4 จังหวัด รวม 14 อำเภอ 60 ตำบล 213 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 36,779 ครัวเรือน สำหรับนราธิวาสน้ำไหลหลากในพื้นที่ 1 อำเภอ ได้แก่ อ.สุไหงโก-ลก ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,208 ครัวเรือน ยะลา น้ำไหลหลากในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองยะลา อ.รามัน อ.เบตง และ อ.บันนังสตา ประชาชนกระทบ 15,229 ครัวเรือน สงขลา น้ำไหลหลากในอ.สะบ้าย้อย   ปัตตานี น้ำไหลหลากในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองปัตตานี อ.แม่ลาน อ.สายบุรี อ.หนองจิก อ.กะพ้อ อ.ยะรัง อ.ไม้แก่น และ อ.ทุ่งยางแดง ประชาชนได้รับผลกระทบ 18,337 หมู่บ้าน ภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยทั้ง 4 จังหวัดระดับน้ำลดลง" ปภ.ระบุ
    สำหรับพื้นที่ได้รับผลกระทบจากดินสไลด์ 2 จังหวัด ได้แก่ ยะลา และนราธิวาส ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยระดมเครื่องจักรกลและเครื่องสูบน้ำเข้าพื้นที่เพื่อเร่งระบายน้ำ และให้การดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 
    จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน หลายพื้นที่ที่ประสบเหตุน้ำท่วมเอ่อล้นบนถนนหลายสายในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี ระดับน้ำเริ่มลดลงบ้าง เนื่องจากการติดตั้งเครื่องสูบน้ำในเทศบาลเมืองหลายจุด เพื่อเร่งดึงมวลน้ำในเขตเทศบาลเมืองปัตตานีลงสู่แม่น้ำปัตตานี และออกสู่ทะเลอ่าวไทย โดยรถจักรยานยนต์สามารถสัญจรได้ในบางเส้นทาง แต่ยังคงต้องใช้ความระมัดระวังอยู่ ร้านค้าในพื้นที่น้ำเริ่มลดเริ่มเปิดบริการอีกครั้ง
    อย่างไรก็ตาม ในบางพื้นที่ของเขตเทศบาลเมืองปัตตานียังคงมีน้ำท่วมสูงอยู่ เช่น ต.จะบังติกอ และ ต.รูสะมิแล ระดับน้ำยังคงท่วมสูงกว่า 1 เมตร เนื่องจากเป็นพื้นที่รับน้ำที่ทะลักจากแม่น้ำปัตตานี เป็นพื้นที่รับน้ำที่ไหลเทลงมาจากหลายพื้นที่ ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างหนักตลอด 3 วันที่ผ่านมา
    ส่วนถนนเกือบ 20 สายยังคงถูกน้ำท่วม บางสายไม่สามารถใช้การได้ เช่นเดียวกับประตูทางเข้าเมืองปัตตานียังมีระดับน้ำสูง เจ้าหน้าที่นำรถมาจอดปิดเส้นทางไว้ให้สัญจรไปมาเพียงฝั่งเดียว โดยมีเจ้าหน้าที่คอยดูแล ขณะที่จากสะพานเดชาข้ามไปถนนพิพิธน้ำยังคงไม่ลด เจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กกั้นไว้ทั้ง 2 ฝั่งถนน เพื่อไม่ให้รถสัญจรไปมาได้.