12ม.ค.64- ในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา โดยเป็นการประชุมออนไลน์ มีวาระติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติงานเร่งรัด (Quick win) เพื่อผลักดันกัญชา-กัญชงสู่พืชเศรษฐกิจ ด้วยการบูรณาการของหน่วยงานต่าง ๆ ในกระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่งานต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ
ดร.ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน อาจารย์ประจำคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ ได้ให้รายละเอียดการประชุมในครั้งนี้ว่า ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้จะทำให้ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับมาตรการรับมือการแพร่ระบาดเป็นหลัก แต่ก็จะทิ้งงานใดไปไม่ได้ ทุกนโยบายยังคงต้องดำเนินต่อ ต้องขอบคุณทุกหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขที่มีความตั้งใจขับเคลื่อนดำเนินการตามแผนงาน จนนำไปสู่การปฏิบัติได้จริง เช่น การลดระยะเวลาและขั้นตอนในกระบวนการขออนุญาตปลูก ผลิต และจำหน่ายให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น การใช้ประโยชน์จากส่วนของกัญชาที่ไม่ใช่ยาเสพติด ในทางเศรษฐกิจ โดยการนำไปเป็นส่วนประกอบในอาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์สุขภาพอื่น ๆ และคลินิกกัญชาทางการแพทย์แบบบูรณาการ เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงยากัญชาได้มากขึ้น
นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่สำคัญอื่น ๆ อาทิ งานต้นน้ำ ได้แก่ การจัดธนาคารเมล็ดพันธุ์และต้นกล้ากัญชา-กัญชง ซึ่งจะต้องเร่งดำเนินการให้ทันกับกฎกระทรวงว่าด้วยกัญชงจะมีผลบังคับใช้ วันที่ 29 มกราคม 2564 เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงเมล็ดพันธุ์และต้นกล้ากัญชงที่มีคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน โดยได้ประสานงานเบื้องต้นไปกับกรมวิชาการเกษตรเพื่อช่วยจัดหาให้ในระยะแรก
สำหรับงานปลายน้ำ ได้แก่ การจัดทำแนวทางการอนุมัติผลิตภัณฑ์กัญชา-กัญชง โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งจากประสบการณ์การใช้ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ การจัดการความเสี่ยงของวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ และการจัดทำแนวทางการจัดบริการคลินิกกัญชาทางการแพทย์แบบบูรณาการ โดยความร่วมมือระหว่าง กรมการแพทย์ กับ กรมแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ซึ่ง นพ.กิตติ โล่สุวรรณรักษ์ ผอ.สถาบัน กัญชาทางการแพทย์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จะดำเนินการตามภารกิจของสถาบัน ฯ ต่อไป
“ประเด็นที่ได้รับความสนใจในการประชุมครั้งนี้คือ การพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อใช้ในการกำกับดูแลและติดตามกัญชา-กัญชง ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์จนถึงมือผู้บริโภค โดยอย. ได้ดำเนินการมาในระดับหนึ่งแล้ว และจะมีการยกระดับให้สามารถประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์ได้ เพื่อให้เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของผู้ประกอบการ และเพื่อให้สามารถวางแผนเชิงนโยบายบนพื้นฐานของข้อมูลจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เช่น การศึกษาในต่างประเทศพบว่า ทิศทางและแรงลมสามารถทำให้เกสรปลิวได้ไกลถึง 10 ไมล์ ดังนั้น ในการขออนุญาตปลูกกัญชา-กัญชง จะต้องมีการกำหนดระยะห่างระหว่างต้น เพื่อไม่ให้เกิดการผสมของเกสร เนื่องจากดอกเพศเมียมีมูลค่าสูงกว่าและเป็นที่ต้องการในตลาดอุตสาหกรรม จากตรงนี้ อย. ก็จะมีข้อมูลให้ผู้ประกอบการพิจารณาในระหว่างที่มาขออนุญาตปลูกกัญชา-กัญชง ซึ่งระบบเรียลไทม์นี้คาดว่าจะเปิดใช้ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้” ดร.ภก.อนันต์ชัย กล่าว
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |