ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาตินั้น เป็นสิ่งที่สามารถวัดคุณภาพของสังคมและชุมชนได้เป็นอย่างดี เนื่องจากในยุคปัจจุบันที่มนุษย์จะต้องพึ่งพาอาศัยธรรมชาติในการดำรงชีวิตเป็นหลักนั้น ก็ต้องมีการดูแลรักษาด้วย ไม่ใช่แต่จะใช้งานเพียงอย่างเดียว หากธรรมชาติในพื้นที่นั้นไม่สมบูรณ์ ก็จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตไปด้วย และทะเลก็เป็นแหล่งธรรมชาติสำคัญที่จะต้องทำการอนุรักษ์เช่นกัน โดยที่ผ่านมาจะเห็นในหน้าข่าวบ่อยครั้งเรื่องของผลกระทบที่เกิดขึ้นในทะเล ทั้งเรื่องขยะ น้ำเสีย การปนเปื้อนของน้ำ การสืบพันธุ์ของสัตว์ หรือการถูกทำลายของปะการัง
หลายปัญหาดังกล่าวถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นตัวอย่างให้เกิดแรงขับเคลื่อนในการจะดูแลและอนุรักษ์ทะเลมากขึ้น แต่ก็ต้องทำความเข้าใจว่ามีหลายกลุ่มคนที่ยังไม่เห็นถึงผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นกับธรรมชาติของโลกใบนี้ และใช้ชีวิตเบียดเบียนสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด แม้จะมีหลายเสียงออกมาขอความช่วยเหลือแล้วก็ตาม...
อีกหนึ่งงานที่ออกมาแสดงจุดยืนและเป็นอีกหนึ่งเสียงสำคัญของประเทศไทยในการจะเข้าไปดูแลรักษาพื้นที่ธรรมชาติอย่างทะเล โดยเมื่อล่าสุดกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต (Ocean for Life) โดยการดำเนินการภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นแผนระยะยาว 10 ปี ตั้งแต่ปี 2563-2573 เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ส่งเสริมให้เกิดความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรท้องทะเลไทย และเพิ่มรายได้แก่ชุมชนใน 17 จังหวัดรอบอ่าวไทย
โดยมีแผนการดำเนินงานการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต ซึ่งครอบคลุมการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลหลายด้าน ได้แก่ การบริหารจัดการขยะทะเล การป้องกันขยะลงสู่ทะเลด้วยการสร้างจิตสำนึกให้กับประชาชนทั่วไปให้ตระหนักถึงความสำคัญของทะเล และการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการกำจัดขยะและแปรรูปขยะเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ การปลูกและฟื้นฟูป่าชายเลนให้สามารถเป็นแหล่งอนุบาล สัตว์น้ำ ชายฝั่งและระบบนิเวศที่มีความสมบูรณ์ การพัฒนาศูนย์การเรียนรู้เพาะฟักสัตว์น้ำเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์วิถีประมงชายฝั่งอย่างยั่งยืน และการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ทะเลหายาก
รวมถึงการจัดทำแนวเขตอนุรักษ์และเพิ่มแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลบริเวณชายฝั่ง หรือบ้านปลา เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและปริมาณสัตว์น้ำ และรักษาสมดุลของระบบนิเวศทางทะเล และการสนับสนุนการผลิตและจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูปที่มีคุณภาพและมาตรฐาน รวมถึงการสนับสนุนงานวิจัยเพื่อการตรวจติดตามสุขภาพของมหาสมุทรและความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล
นายโสภณ ทองดี อธิบดี ทช. กล่าวถึงการอนุรักษ์ทะเลเพื่อชีวิต ว่า ภารกิจหลักของ ทช. คือการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง เพื่อความมั่งคั่ง สมดุล และยั่งยืนของทะเลไทย เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ แต่ด้วยพื้นที่ทางทะเลกว่า 202 ล้านไร่ ป่าชายเลนกว่า 2.58 ล้านไร่ เกาะกว่า 533 เกาะ และชายฝั่งความยาวกว่า 3,151 กิโลเมตร จำเป็นต้องหาพันธมิตรที่มีอุดมการณ์ ความพร้อม และมีความตั้งใจที่จะอนุรักษ์ ดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง มาร่วมกันปฏิบัติงาน
ด้าน นายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปตท.สผ. กล่าวว่า ปตท.สผ.มีภารกิจหลักในการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ โดยพื้นที่ปฏิบัติการส่วนใหญ่ของ ปตท.สผ.อยู่ในทะเล ซึ่งเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเราที่ต้องช่วยกันดูแลและปกป้อง ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปตท.สผ.มีการดำเนินกิจกรรมและโครงการต่างๆ ในการอนุรักษ์ท้องทะเลหลายโครงการ โดยได้ร่วมมือกับชุมชน หน่วยงานราชการส่วนกลางและท้องถิ่น และทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ส่งผลให้การดำเนินกิจกรรมประสบผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
การร่วมมือกันมักจะดีกว่าทำคนเดียวเสมอไป และธรรมชาติที่กว้างใหญ่อย่างทะเลไทย หากมีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมมือกันอนุรักษ์และดูแลรักษาตั้งแต่ตอนนี้ เชื่อว่าจะสามารถอยู่คู่กับสังคมเป็นที่พึ่งพาของชาวบ้าน ทั้งสร้างอาชีพ สร้างรายได้ กันต่อไปอีกนานแสนนาน.
ณัฐวัฒน์ หาญกล้า
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |