นายกฯ มูห์ยิดดิน ยัสซิน ประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์ 14 วันครอบคลุมกรุงกัวลาลัมเปอร์กับอีก 5 รัฐ และห้ามการเดินทางระหว่างรัฐทั่วประเทศ เพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้นจนเสี่ยงที่จะเกินศักยภาพในการรับมือของระบบดูแลสุขภาพของมาเลเซีย

    รายงานเอเอฟพีและรอยเตอร์เมื่อวันจันทร์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซียแถลงถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ในวันเดียวกันนี้ว่า ระบบการรักษาพยาบาลของมาเลเซียอยู่ในจุดแตกหัก สถานการณ์ในเวลานี้น่าตกใจมาก

    สัปดาห์ที่แล้ว จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่มากกว่าวันละ 3,000 คนเป็นครั้งแรก โดยจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดของมาเลเซียในวันจันทร์มีมากกว่า 138,000 คนแล้ว และมีผู้เสียชีวิต 555 คน

    มาเลเซียเคยเป็นประเทศแรกๆ ที่ใช้มาตรการจำกัดการเคลื่อนย้ายอย่างเข้มงวดเมื่อเดือนมีนาคมปีที่แล้วที่เป็นช่วงเริ่มต้นของการแพร่ระบาด และสามารถควบคุมจำนวนการแพร่เชื้อไว้ได้ แต่ก็ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษในไตรมาสที่ 2 ของปี 2563

    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวกันว่า คลื่นการระบาดรอบนี้ซึ่งเริ่มต้นเมื่อเดือนกันยายน อาจทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงถึงวันละ 8,000 คนภายในเดือนพฤษภาคม หากไม่มีการใช้มาตรการควบคุมอย่างเข้มงวด

    มาตรการใหม่ที่มูห์ยิดดินประกาศนั้นรวมถึงการล็อกดาวน์กรุงกัวลาลัมเปอร์ และอีก 5 รัฐ จาก 13 รัฐของประเทศ ที่ครอบคลุมประชากรประมาณ 20 ล้านคนจากประชากรทั้งประเทศ 32 ล้านคน การล็อกดาวน์นาน 14 วันที่จะเริ่มมีผลเวลาเที่ยงคืนของวันพุธ จะห้ามกิจกรรมทางสังคมทั้งหมด และห้ามการเดินข้ามรัฐทั่วประเทศ

    ธุรกิจที่จำเป็นเช่นซูเปอร์มาร์เก็ตและธนาคารยังเปิดทำการได้ต่อไป แต่ร้านอาหารให้บริการเฉพาะนำกลับบ้าน ส่วนภาคเศรษฐกิจสำคัญ 5 ภาค ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตและการก่อสร้าง ยังดำเนินการได้ แต่ให้ลดกำลังการผลิตลง

    ประชาชนในพื้นที่ล็อกดาวน์จะสามารถออกนอกบ้านเพื่อทำกิจธุระจำเป็นเช่นซื้อข้าวของเครื่องใช้ ได้เพียงครัวเรือนละ 2 คน

    มาเลเซียกำลังรอคอยวัคซีนชุดแรกที่สั่งซื้อจากไฟเซอร์-ไบออนเทคไว้ 12.8 ล้านโดส โดยมูห์ยิดดินกล่าวว่าน่าจะมาถึงก่อนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันมาเลเซียเพิ่งประกาศว่าได้สั่งซื้อวัคซีนของไฟเซอร์-ไบออนเทคเพิ่มอีก 12.2 ล้านโดส และยังจองวัคซีนจากแอสตราเซเนกาและจากโครงการโคแวกซ์ไว้ด้วย นอกจากนั้นมาเลเซียยังอยู่ระหว่างหารือกับบริษัทซิโนแวคและแคนซิโนของจีน และสถาบันกามาเลยาของรัสเซีย เพื่อซื้อวัคซีนเพิ่มเติม

    ทั้งนี้ มาเลเซียตั้งเป้าหมายว่าจะฉีดวัคซีนโควิดให้ประชากร 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันระดับชุมชน