จะทำยังไงกับโดนัลด์ ทรัมป์ กับ 12 วันที่เหลือก่อนโจ ไบเดนสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง?
สภาคองเกรสมีมติรับรองไบเดนเป็นประธานาธิบดีตอนก่อนตี 4 วันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุการณ์จลาจลของม็อบที่บุกตึกรัฐสภาจากการปลุกปั่นของทรัมป์
ทันทีทันใดก็มีข่าวจากทำเนียบขาวว่า คนรอบๆ ข้างทรัมป์หลายคนยื่นใบลาออกเพื่อคัดค้านการกระทำของทรัมป์
ช้าไปแล้ว
แต่ก็เป็นการตอกย้ำว่าทรัมป์กำลังจะหมดสภาพ เพราะเมื่อหมดอำนาจ ทุกคนก็กำลังจะกระโดดหนีทันที
แม้แต่รองประธานาธิบดีไมก์ เพนซ์ที่เคยทำตัวเป็นผู้ซื่อสัตย์ต่อทรัมป์มาตลอด ก็แยกตัวออกมาแสดงความเป็นตัวของตัวเองหลังเหตุการณ์วุ่นวายที่ตึกรัฐสภา
ไมก์นั่งบัลลังก์เป็นประธานวุฒิสภาในการประชุมร่วมของสองสภา
ทันทีที่เหตุร้ายที่ตึกรัฐสภาซาลง และบรรดา ส.ส.และ ส.ว.กลับมาประชุมรับรองคะแนนของไบเดนและทรัมป์ใหม่ ไมก์ เพนซ์ประกาศว่า
"ความรุนแรงไม่ชนะ เสรีภาพเท่านั้นที่ชนะ ที่พวกคุณบุกเข้ามาในตึกรัฐสภาไม่ใช่ชัยชนะ..."
เท่ากับว่าเพนซ์ฉีกตัวออกจากทรัมป์แล้วอย่างชัดเจน
ท้ายที่สุดการนับคะแนนของสองสภาก็ดำเนินต่อและจบลงด้วยการรับรอง 306-232 ให้ไบเดนชนะทรัมป์
หลังจากรัฐสภาสรุปการรับรองคะแนน ทรัมป์ออกแถลงการณ์ว่าแม้เขาจะไม่เห็นด้วยกับผลการเลือกตั้ง "แต่จะมีการส่งมอบตำแหน่งอย่างเรียบร้อยและสงบ ณ วันที่ 20 มกราคมนี้"
ไม่มีใครเชื่อว่าทรัมป์ออกแถลงการณ์ด้วยตนเอง คงมีแรงกดดันจากคนรอบข้างที่บังคับให้เขาต้องทำเช่นนั้น
เพราะหาไม่แล้วเขาอาจจะเจอกับมาตรการหนักหน่วงและรุนแรงแน่นอน
เพราะเริ่มมีการพูดกันหนาหูในสภาแล้วว่าจะต้องจับทรัมป์ขึ้นเขียง
อย่างน้อยก็จะต้องมีการเสนอให้เริ่มกระบวนการ impeachment หรือไต่สวนเพื่อถอดถอน เพราะความผิดซ้ำซากและร้ายแรง บ่อนทำลายประชาธิปไตย, ปลุกปั่นให้ประชาชนทำลายระบอบการปกครอง และจงใจขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
แม้เหลือเพียงไม่ถึงสองสัปดาห์เขาก็จะต้องหลุดจากตำแหน่งแล้ว แต่คนอเมริกันจำนวนไม่น้อยต้องการจารึกในประวัติศาสตร์ว่า จะปล่อยให้คนอย่างนี้ลอยนวลไม่ได้
อีกด้านหนึ่ง มีการนำเสนอว่าจะต้องจัดการกับทรัมป์ด้วยบทแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่ 25
นั่นคือการปลดทรัมป์ออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี ก่อนที่เขาจะมีโอกาสก้าวลงเอง
เพราะคนทำผิดขนาดนี้ต้องไม่ควรให้ออกจากตำแหน่งเสมือนหนึ่งไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น
"รัฐธรรมนูญที่ 25" ระบุว่า หากรองประธานาธิบดีและเกินครึ่งของคณะรัฐมนตรีเห็นว่า ประธานาธิบดีไม่อาจจะทำหน้าที่ของตนได้ด้วยเหตุผลใดก็ตาม มีสิทธิ์แจ้งให้ประธานสภาทั้งสองทราบว่ารองประธานาธิบดีจะเข้ารับตำแหน่งแทน
ในกรณีนี้หากเพนซ์กล้าจริงก็จะสามารถปลดทรัมป์ได้ ด้วยเหตุผลคือเป็นผู้ก่อให้เกิดการจลาจลที่ตึกรัฐสภา
รัฐธรรมนูญกำหนดให้ตัวประธานาธิบดีสามารถร้องเรียนไปที่สภาเพื่อไม่ให้ตนถูกปลดได้ แต่ทั้งสองสภาต้องลงมติด้วยเสียง 2 ใน 3 ในอันที่จะให้มีการดำเนินการไปทางใดทางหนึ่ง
สองกรณีนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ยังเป็นเรื่องถกเถียงกันในแวดวงต่างๆ ของอเมริกา
แต่ที่แน่ๆ คือ มีคนไม่น้อยที่เชื่อว่าต้องมีการลงโทษทรัมป์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ความเป็นไปได้อีกทางหนึ่งก็คือ ทรัมป์อาจจะกำลังคิดหาทางออกให้ตัวเอง
นั่นคือลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีทันที ให้เพนซ์รักษาการตำแหน่งนี้เพื่อจะได้ออกคำสั่งนิรโทษกรรมความผิดทั้งหลายทั้งปวงทั้งในอดีตและในอนาคต
ถ้าหากทำเช่นนั้นได้ ทรัมป์ก็ไม่ต้องไปร่วมงานสาบานตนของไบเดนอีกด้วย
ทรัมป์รู้ว่ามีข้อหารอเขาอยู่มากมายก่ายกอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนีภาษี, ผลประโยชน์ทับซ้อน, ขัดขวางกระบวนการยุติธรรม, ให้การเท็จ เป็นต้น
แต่การให้อภัยนั้นจะทำได้ก็แต่เฉพาะความผิดระดับประเทศ ส่วนคดีต่างๆ ในระดับรัฐนั้นยังรอทรัมป์อยู่อีกหลายสิบคดี
ยังไงๆ ทรัมป์ก็ไม่อาจจะรอดพ้นการต้องขึ้นโรงขึ้นศาลไปตลอดชีวิตหลังออกจากทำเนียบขาวเป็นแน่แท้.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |