8 ธ.ค. 2564 นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ในประเทศ ซึ่งมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และการระบาดขยายวงกว้างไปหลายจังหวัดทั่วประเทศ จนทำให้รัฐบาลต้องประกาศมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มข้นขึ้นนั้น อาจส่งผลให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยในปี 64 เติบโตเหลือ 2.2% จากที่เคยคาดการณ์ไว้เดิมที่ 2.8%
ทั้งนี้การแพร่ระบาดขณะนี้ ไม่ได้มีผลกระทบแค่เพียงการจับจ่ายใช้สอยในประเทศ แต่กระทบถึงภาคการผลิต และภาคการส่งออก รวมทั้งภาคการท่องเที่ยว ซึ่งศูนย์ ประเมินว่าสถานการณ์ไม่ควรยืดเยื้อนานเกิน 3 เดือน โดยรัฐบาลต้องอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในไตรมาสแรกปีนี้อย่างน้อย 200,000 ล้านบาทขึ้นไป รวมทั้งต้องมีมาตรการเพื่อช่วยลดค่าครองชีพของประชาชนควบคู่ไปกับกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ซึ่งเห็นว่าแนวทางที่ดีที่สุดคือ “มาตรการคนละครึ่ง” เพราะช่วยให้มีเม็ดเงินเข้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อีกอย่างน้อย 2-3 เท่าตัว
“การใช้เงิน 200,000-300,000 ล้านบาทเป็นการช่วยพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ทรุด แต่ถ้าจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ต้องใช้เงิน 400,000-600,000 ล้านบาท ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องกู้เพิ่ม แต่ใช้งบจากการขาดดุลงบประมาณที่มีอยู่ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด หากกระตุ้นเศรษฐกิจได้เร็ว การจัดเก็บรายได้จะเข้ามาตามแผน” นายธนวรรธน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะติดลบหนักได้หากคุมสถานการณ์การระบาดไว้ไม่อยู่ และทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นขึ้น (ฮาร์ด ล็อกดาวน์) ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น คาดว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 1/64 มีโอกาสจะติดลบถึง 11.3% แต่ปัจจุบัน ยังมองว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1 นี้ อาจจะติดลบ 4% และหากสามารถคลี่คลายสถานการณ์ได้ภายในไตรมาส 1 ก็มีโอกาสที่จีดีพีไตรมาส 2 จะพลิกกลับมาขยายตัวได้ 8-10%
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |