7 ม.ค.64 - นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่าถึงการเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี และนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน หาแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการ ประชาชน ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 หลังภาครัฐสั่งปิดสถานประกอบการต่างๆว่า เมื่อเกิดสภาวะที่ย่ำแย่ ในอดีตที่ผ่านมาหากเกิดวิกฤติการณ์ต้องให้รัฐมนตรีทุกคนลงมาช่วยเหลือประชาชนแต่ในปัจจุบัน รัฐมนตรีไม่ทำอะไรเลย นายกฯพูดอะไรไม่รู้ หรือมีคนที่พูดมาก็เหมือนสื่อสารกันไม่ลงตัว กลายเป็นการบริหารจัดการของรัฐบาลยังมั่วอยู่ ในด้านเศรษฐกิจที่เป็นเรื่องใหญ่และเป็นปัญหาของประเทศ

การที่ไม่มีรัฐมนตรีคนไหนออกมาพูดเรื่องอะไรเลยทั้งการช่วยเหลือประชาชน ทิศทางของประเทศในอนาคตจะเป็นอย่างไร เราไม่เคยได้ยินขณะนี้เหมือนอยู่กันไปเรื่อยๆ ประเทศไม่มีทิศทางที่แน่นอนมีแต่จะแย่ลงไป ยิ่งขณะนี้เจอพิษโควิด-19 เศรษฐกิจทรุด 7 กว่าปีนี้ที่ว่าจะโตร้อยละ 3.5 คงไม่โตแล้ว เพราะธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาบอกแล้วว่าเศรษฐกิจคงจะโตไม่ถึงตามที่คาดการณ์เพราะเจอกับโควิด-19  

“เท่าที่เคยเจอนายสุพัฒนพงษ์ ในอดีตเป็นคนที่เก่งและฉลาด จึงไม่แน่ใจว่าทำไมขณะนี้ถึงยังไม่ทำอะไรเลย หรือเพราะอาจจะไม่เคยบริหารประเทศจึงไม่เข้าใจว่าต้องทำอย่างไร ต้องยอมความเป็นจริงว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเศรษฐกิจแต่เป็นหัวหน้าเศรษฐกิจ เพราะมีเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้อง นายสุพัฒนพงษ์ ต้องกลับมาแก้เศรษฐกิจ ดูว่าจะช่วยเอสเอ็มอีและประชาชนอย่างไร เนื่องจากเคยอยู่แบงก์มาก่อน จึงต้องรู้ว่าขณะนี้แบงก์มีปัญหาเยอะเช่น ทั้งหนี้เสีย จึงจะทำอย่างไรให้บริษัทเอสเอ็มอีประคองตัวไปให้ได้และต้องดูว่าจะออกมาตรการเยียวยาอย่างไรเพื่อช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถรอดช่วงนี้ไปได้หากปล่อยให้หนี้ทบไปเรื่อยๆ ก็จะมีแต่เจ๊ง ในฐานะรัฐบาลต้องมองประชาชนเป็นผู้ประสบเคราะห์ ซึ่งไม่ใช่ความผิดของประชาชน” นายพิชัย กล่าว  

เมื่อถามว่า ทีมเศรษฐกิจชุดนี้จะมีชื่อในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ด้วยหรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า นายกฯมีชื่อแน่นอน แต่ในรายละเอียดของคนอื่นไม่ว่าจะเป็นของนายสุพัฒนพงษ์ ตนมองว่า ก็ควรจะต้องมี หากปล่อยให้ประเทศเละเทะขนาดนี้ นอกจากนี้ใครที่ทำไม่ดีก็ควรจะได้รับผลหมด เช่น กระทรวงพาณิชย์ก็หาย อุตสาหกรรมก็หาย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ด้วยเช่นกัน