“ประวิตร” ตาสว่างแล้ว รับใน กทม.มีบ่อนแต่ตำรวจต้องทำให้ไม่มี “สมศักดิ์” อวยบิ๊กตู่ตั้งกรรมการ 4 ฝ่ายจริงจังปราบการพนัน “ตำรวจ” ดาหน้าแจงเอาจริง ยอมรับทุกองค์กรมีทั้งคนดีและไม่ดี เตรียมเชือดพวกโลภรับส่วยชดใช้สังคม บช.น.ขึงขังมีข้อมูลนายทุน แต่เป็นข้อมูลลับ ฟันแน่ถ้าหลักฐานสาวถึง!

เมื่อวันพุธที่ 6 มกราคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ชี้แจงถึงกรณีเคยระบุว่าในกรุงเทพมหานครไม่มีบ่อนการพนันว่า เรื่องบ่อนที่บอกว่าไม่มี หมายถึงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจท้องที่ ที่ต้องทำให้บ่อนไม่มี ซึ่งไม่ได้หมายความว่าไม่มี เรื่องบ่อนเราก็รู้ๆ กันอยู่ว่ามี แต่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องทำให้บ่อนไม่มี
    ขณะที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม สั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนบ่อนการพนันว่า คณะกรรมการชุดนี้ประกอบด้วย 4 หน่วยงานคือ ตำรวจที่เป็นหน่วยงานหลัก, คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ที่จะเข้ามาดูเรื่องเส้นทางการเงิน, คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ดูเรื่องการกระทำความผิดที่อาจมีเจ้าหน้าที่ไปเกี่ยวข้อง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่จะช่วยในการสืบสวนสอบสวน ซึ่งการตั้งคณะกรรมการชุดนี้แสดงถึงความเอาจริงเอาจังของนายกฯ ในการกวาดล้างบ่อนการพนัน
ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ระบุว่าเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ ส่วนเรื่องที่มีนักพนันเข้าไปเล่นในบ่อนและนำเชื้อโรคโควิด-19 มาแพร่กระจาย ถือว่าเป็นความผิดพลาดของพื้นที่ที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่ง ผบ.ตร.ได้ให้ทีมงานลงไปสั่งปูพรมตรวจสอบบ่อนทั่วประเทศว่าพื้นที่ใดยังมีบ่อนอยู่อีก หากยังพบว่ามีต้องดำเนินมาตรการทางวินัยและอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้อง และให้ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ขยายผลสืบสวนทั้งกลไกของผู้ลักลอบเล่นพนัน นายทุนที่ให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และตรวจสอบเส้นทางการเงินว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง
    ถามถึงกรณีบ่อนภาคตะวันออกที่สั่งย้ายผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง 4 ราย ผู้บัญชาการต้องรับผิดชอบด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวว่า ผบ.ตร.เคยพูดไว้ว่าต้องพิจารณาเหตุและผลประกอบกัน เรื่องที่สั่งให้ ผบก.ภ.จว.จันทบุรีและตราดมาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 2 นั้น พล.ต.ท.วีระ จิรวีระ ผบช.ภ.2 เป็นผู้สั่งการเอง เนื่องจากเรื่องพอมีมูลอยู่บ้าง จึงเอามาตรวจสอบรายละเอียด ยังไม่ปรากฏว่าตำรวจ 2 ท่านกระทำความผิด เพียงเอามาสืบสวนสอบสวนไม่ให้ประชาชนตั้งข้อสงสัยว่าหากยังอยู่ในพื้นที่ อาจขัดขวางการตรวจสอบข้อเท็จจริง
    “องค์กรทุกองค์กรมีทั้งคนดีและคนไม่ดี คนที่ตั้งใจทำก็ช่วยประคับประคององค์กรได้พอประมาณ แต่คนที่ทำให้องค์กรและประเทศชาติเสียหาย ซึ่งถือว่าเป็นส่วนน้อย แต่ตอนนี้เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงกับสังคมภาพรวม เพราะเป็นเรื่องโรคระบาด เป็นเรื่องที่พวกเราเองเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยที่คนในองค์กรบางส่วนกระทำโดยโลภ เห็นประโยชน์ส่วนตัว คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะไม่เกิดผลอะไร ซึ่งตอนนี้เราจะเร่งแก้ไขเพื่อชดเชยความเสียหาย โดยจะนำคนผิดมาลงโทษ เพื่อชดใช้ให้กับสังคม เพราะ ผบ.ตร.ก็รู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ที่ผ่านมาได้เน้นย้ำนโยบายมาหลายครั้ง แต่ยังเกิดเหตุแบบนี้อีก”
    พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงผลการตรวจสอบบ่อนการพนันย่านปิ่นเกล้าและดอนเมืองว่า ตามนโยบายของ ผบ.ตร. ให้กวดขันจับกุมการลักลอบเล่นการพนันในทุกพื้นที่ ในสัปดาห์ที่แล้ว บช.น.ได้จับกุมบ่อนการพนันที่แจ้งวัฒนะซอย 14 ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 86 คน และส่งศาลดำเนินคดีเรียบร้อยแล้ว และวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมาได้ตรวจสอบพื้นที่ต่างๆ ตามที่ได้รับเบาะแสและการร้องเรียนจากประชาชนเข้าตรวจสอบที่ภูมิเฮ้าส์ ถ.สรงประภา แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กทม. จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดีค้างเก่า 1 ราย และได้ตรวจสอบแหล่งที่เชื่อว่ามีการลักลอบเล่นการพนันจักรกลไฟฟ้าทำการตรวจยึดของกลางจำนวนหนึ่งมาดำเนินคดี
    “อีกพื้นที่หนึ่งที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและโซเชียลฯ ได้จับกุมบริเวณคอนโดฯ ปิ่นเกล้า ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่และได้ตรวจสอบ ผู้ดูแลยืนยันว่าเคยใช้เป็นสถานที่ลักลอบเล่นการพนันจริง แต่ช่วงนี้ได้เลิกไปแล้ว ก่อนหน้าที่จะมีโควิดใช้เป็นสถานที่จัดเลี้ยงสังสรรค์ เจ้าหน้าที่จึงได้บันทึกภาพและสอบปากคำไว้เรียบร้อย” พล.ต.ต.ปิยะระบุ
    ผู้สื่อข่าวถามว่า บ่อนลอยฟ้าย่านปิ่นเกล้าเปิดมานาน ทำไมถึงมาตรวจสอบช่วงนี้ พล.ต.ต.ปิยะตอบว่า จริงๆ แล้วเป็นหน้าที่ในการสืบสวนจับกุมการกระทำผิดทุกประเภท โดยเฉพาะช่วงแพร่ระบาดโควิดที่มีไทม์ไลน์ระบุว่ามีบุคคลไปปฏิสัมพันธ์หรืออ้างไปบ่อนที่หนึ่งที่ใด ซึ่งทั้ง 2 บ่อนการพนันที่กล่าวมา ก่อนหน้านี้ก็มีการจับกุมอยู่สม่ำเสมอทั้งดอนเมืองและปิ่นเกล้า เมื่อปีที่แล้วก็มีการจับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับการพนันที่มีผู้เล่นมากกว่า 20 คน จำนวน 16 ราย ผู้ต้องหา 351 คน นอกจากนี้ยังมีการจับกุมพนันอื่นอีก 3,811 ราย และผู้ต้องหา 8,221 คน เมื่อมีการจับกุมที่หนึ่งก็มีการเคลื่อนย้ายไปเล่นอีกที่หนึ่ง โดยเฉพาะเครื่องเล่นไฟฟ้าสามารถเคลื่อนย้ายง่าย
    เมื่อถามว่า แล้วนายทุนเจ้าหน้าที่ตำรวจมีข้อมูลหรือไม่ รอง ผบช.น.ตอบว่า ในส่วนนี้ถ้ามีหลักฐานพาดพิงหรือปรากฏพยานหลักฐาน ยืนยันได้ว่าผู้หนึ่งผู้ใดจัดให้เล่นการพนัน เป็นนายทุนหรือได้รับผลประโยชน์เราดำเนินการทุกราย เช่น ที่แจ้งวัฒนะ 14 และถ้าประชาชนหรือสื่อมวลชนมีข้อมูล สามารถแจ้งมาได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่เบอร์ 08-3515-6559 ซึ่งการลักลอบเล่นการพนันก็คงมีอยู่เรื่อย แต่ถ้าสืบสวนพบว่ามีการลักลอบเล่นการพนันเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปล่อยไว้แน่นอน
“เรามีข้อมูล มีศูนย์สืบสวนคดีอาญา โดยเฉพาะบ่อนการพนันและอบายมุข แต่เป็นข้อมูลลับของราชการ ถ้ามีการเปิดเผยอาจกระทบต่อบุคคลที่สาม ยืนยันว่าทั้งนายทุนผู้เล่นต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย”
    ส่วนนายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ทราบดีว่ามีบ่อนพนันลักลอบเปิดที่ใดบ้าง แต่เหตุใดปล่อยปละละเลยไม่สั่งให้ ผบ.ตร.ดำเนินการเคร่งครัด จะอ้างไม่รู้ไม่มีการเปิดบ่อนในพื้นที่ให้ประชาชนมาชี้เบาะแสไม่ได้ เพราะการเปิดบ่อนถ้าไม่มีแบ็กคงเปิดไม่ได้ ซึ่งการที่นายกฯ ตั้งคณะกรรมการมาสอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง เป็นเรื่องดี แต่ให้ดำเนินการจริงจัง อย่าลูบหน้าปะจมูกทำเป็นพิธี
“นายกฯ ต้องดูว่าส่วยส่งไปที่ใด ใครเป็นผู้รับประโยชน์ เงินถูกจ่ายให้ใคร การโยกย้ายตำรวจในพื้นที่ไม่พอ” นายประเสริฐกล่าว
วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมืองนำตัวนายอำนวย เกียรติดอนเมือง หรือป๋านวย อายุ 64 ปี ผู้ต้องหาเจ้าของบ่อนบาคาร่าย่านดอนเมือง มาขออำนาจศาลฝากขังเป็นครั้งแรก โดยได้แจ้งทั้งการเปิดบ่อนพนัน, ให้คนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองพักอาศัย และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน โดยพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอัตราโทษสูง ซึ่งศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาไม่คัดค้าน อนุญาตฝากขัง
ภายหลังศาลอนุญาตฝากขัง นายอำนวยผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวเป็นเงินสด 1.5 แสนบาท ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ผู้ต้องหาได้ประกันตัวไป.