เจอเข้ากับเรื่อง บ่อน เรื่อง แรงงานเถื่อน ...เข้าไป 2 ดอก ถ้าหากเป็น นักมวยธรรมดา น่าจะก้นเตี้ย คายฟันยาง หรือไม่ก็นอนแผ่หลาให้กรรมการนับ 8 ไปแล้วก็ไม่แน่!!! แต่สำหรับมวยอย่างรัฐบาล หรือนายกฯ บิ๊กตู่ นั้น ยังดูไม่ออก หรือไม่ถึงกับแน่ใจ ว่าจะรู้สึก รู้สา อะไรมั่งหรือไม่??? เพราะยังไงๆ...ท่านก็น่าจะ ไม่ธรรมดา อยู่แล้วแน่ๆ ไม่งั้นคงไม่สามารถ ลากยาวว์ว์ว์ มาได้ถึง  6 ปี 7 ปี เกือบทาบสถิติ ป๋าเปรม ไปแล้วในทุกวันนี้...

                              -------------------------------------------------

            คือทั้งสองเรื่องที่ว่า...มันคงไปโทษใคร หรือโยนบาปให้ใคร น่าจะลำบาก หรือไม่ว่าจะตั้ง คณะกรรมการ ขึ้นมาซักกี่ชุด ต่อกี่ชุดก็แล้วแต่ เพราะถ้าว่ากันให้ลึกๆ แล้ว มันคงเป็นเรื่องของ ระบบ นั่นแหละ ที่ยังไม่ได้ปรับปรุง แก้ไข ไม่ได้อุดช่องโหว่ ช่องว่าง ไม่ได้สร้างงานต่อ ก่องานใหม่ ให้เป็นเรื่อง เป็นราว หรือให้สอดคล้องกับความเป็นไปของยุค ของสมัย ของโลกยุคดิจิตอล ที่ออกจะไปไกลในระดับ 4.0, 5.0 หรือ 6.0 ไปแล้ว ก็มิอาจสรุปได้ อันเป็นสิ่งที่ไม่ว่าผ่านมา 6 ปี 7 ปี หรือเกือบ 8 ปี ใกล้ๆ เทียบ ป๋าเปรม เข้าไปแล้ว แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง...ก็ยังคง บ๋อๆ แบ๋ๆ อีกตามเคย...

                          ------------------------------------------------

            แต่ก็นั่นแหละ...ถึงจะไล่เตะ ไล่ถีบ ไล่กระทืบ สาดสากกะเบือบินใส่ บิ๊กตู่ และรัฐบาล ให้สิ้นชีพตักษัย หรือให้ตายโหง ตายห่า ไปก่อนกำหนดการ มันคงไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นมา มากมายซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อหันไปมองผู้ที่พยายามไล่เตะ ไล่ถีบ ไล่กระทืบ บิ๊กตู่ และพรรคพวกบริวาร เท่าที่ผ่านมาโดยตลอด ก็ออกจะเป็นอะไรที่น่ากลัว น่าอันตราย น่าสยดสยอง น่าขนลุกขนพอง ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพวก นักการเมือง ที่ดำรงตนเป็น ฝ่ายแค้น มาโดยตลอด หรือแม้แต่พวก เด็กๆ ที่คิด ก่องานใหม่ ลูกเดียว ไม่ได้คิดจะ สานต่อ ใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย และไอ้สิ่งที่คิดจะก่อๆ ก็ดูจะหนักไปทาง คบเด็กสร้างบ้าน นั่นแหละเป็นหลัก ทั้งห้ามยิ้ม ห้ามนับญาติพี่น้อง จะเป็นลิเบอร์เรทแท้ๆ ก็ไม่ใช่ หนักไปทางลิเบอร่านซะเป็นหลัก แถมวันดีคืนดีแวบไปทำให้พวก คอมมิวนิสต์ เขา เสียของ ซะอีกต่างหาก ฯลฯลฯลฯ...

                       -----------------------------------------------------

            คือสรุปว่า...อาจเพราะด้วยเหตุนี้ หรือไม่ อย่างไร ก็ลองไปคิดกันเอาเอง ที่ทำให้ บิ๊กตู่ และพรรคพวกบริวาร ท่านถึงได้อยู่ทน อยู่ยาวว์ว์ว์ อย่างเป็นพิเศษ ทั้งๆ ที่ บ๋อๆ แบ๋ๆ ในหลายเรื่อง หลายราว หรือมันเป็นจังหวะพอดิบ พอดี กับที่โลกทั้งโลกมันกำลังเกิดสภาวะความเปลี่ยนแปลง ในแบบที่พวกฝรั่งเขาเคยเรียกๆ มาหลายต่อหลายสิบปีมาแล้ว ถึงขั้นว่า...เป็น วิกฤตการณ์ที่ไม่เคยมีมาก่อน หรือถึงขั้น Unprecedented Crisis ไปโน่นเลย วิกฤติอันเนื่องมาจากความผิดแผก แตกต่าง ระหว่างผู้คนยุคหนึ่งกับผู้คนอีกยุคหนึ่ง ไม่ว่าในแง่อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ค่านิยมทางสังคม ไปจนวัฒนธรรม ประเพณี หรือแม้กระทั่งศาสนา ฯลฯ อันเนื่องมาจากระดับ สติ-ปัญญา ที่กำลังทรุดลง เสื่อมลง ยิ่งเข้าไปทุกที หรือ Our fragile intellect อะไรทำนองนั้น...

                 ----------------------------------------------------------

            ดังนั้น...อาการ บ๋อๆ แบ๋ๆ ของ บิ๊กตู่ และพวก อย่างน้อย...มันก็ไม่ถึงกับน่ากลัว น่าอันตราย เท่ากับบรรดาพวก โง่เฉียบพลัน หรือ โง่แบบเบ็ดเสร็จสมบูรณ์ ที่ตามไล่ทุบ ไล่ถีบ ไล่กระทืบรัฐบาลมาโดยตลอด การ อยู่ๆ กันไป หรืออยู่กันแบบ ความชั่วไม่มี-ความดีไม่ปรากฏ หรือสรุปง่ายๆ ว่า บ๋อๆ แบ๋ๆ นั่นแหละ ของรัฐบาลเผด็จการละมุนภัณฑ์ มาจนกลายเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยแบบ 250 ส.ว. มันจึงกลายเป็นข้อเท็จจริงที่มิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ หรือเป็นสิ่งที่ต้องกล้ำกลืน ฝืนทน ที่คงต้องหันไปปลุกกระตุ้นความอดทน อดกลั้น หรือ ขันติธรรม ภายในตัวตนของตัวเองให้หนักๆ เข้าไว้... 

              -----------------------------------------------------------

            เพราะวิกฤตการณ์ระดับที่ ไม่เคยมีมาก่อน นั้น ใช่ว่าจะเกิดขึ้นแต่เฉพาะสังคมไทย หรือประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา เท่านั้น แต่มันเป็นไปในแทบจะทั่วทั้งโลกเอาเลยก็ว่าได้ ไม่งั้น...กระทั่งระบอบ ประชาธิปไตย ภายใต้การขับเคลื่อนของทุนนิยมเสรี อันเคยเป็นอะไรที่ดูสูงส่ง วิเศษวิเสโส เสียเหลือเกิน ชนิดทาก็ได้ ดมก็ได้ ทาผัว เมียหาย ทาแม่ยาย พ่อตาฟื้น อะไรทำนองนั้น คงไม่กลายสภาพไปเป็น ประชาธิป...ตาย แทบทุกๆ ประเทศไปแล้วในทุกวันนี้ อย่างสามารถเห็นได้โดยชัดเจน ไม่ว่าในยุโรป หรืออเมริกา โดยเฉพาะอเมริกานั้น แค่เจอกับ ทรัมป์บ้า รายเดียว ก็จุกกันไปทั้งประเทศ หรือทั้งโลกก็ว่าได้...

                       -----------------------------------------------------------

            และการรับมือกับ วิกฤติ ในลักษณะที่ว่านี้...พวกฝรั่ง หรือโดยเฉพาะที่เป็น นักวิทยาศาสตร์ ที่เคยค้นคว้า วิจัย ในเรื่องนี้แบบจริงๆ จังๆ เขาก็ได้สรุปเอาไว้นานแล้วว่า มีแต่ต้องหาทางเพิ่มพูน สติ-ปัญญา ของผู้คนให้มากๆ เข้าไว้ ด้วยวิธีการเดียวเท่านั้นที่พอจะนำประพฤติ ปฏิบัติ ได้อย่างเป็นมรรค เป็นผล นั่นก็คือ...ต้องหาทาง รื้อฟื้นศีลธรรม ในหมู่ผู้คน ด้วยกรรมวิธีต่างๆ ก็แล้วแต่จะว่ากันไป ไม่ว่าจะเป็นคุณธรรม มโนธรรม จริยธรรม หรืออะไรธรรมๆ ก็แล้วแต่ ซึ่งก็คงไม่ต่างอะไรไปจากกรรมวิธีเดียวกันกับที่อภิมหาพระอย่าง ท่านพุทธทาสภิกขุ ท่านว่าเอาไว้นานแล้วนั่นแหละว่า... ศีลธรรมไม่กลับมา-โลกาจะวินาศ อะไรประมาณนั้น...

                    -----------------------------------------------------------

            ดังนั้น...แม้ว่าจะกลืนยาก กลืนเย็น กลืนแล้วติดคอ ระคายคอ ยิ่งขึ้นเรื่อยๆ สำหรับ บิ๊กตู่ และบริวาร แต่ก็นั่นแหละ...ด้วยเหตุเพราะสิ่งเหล่านี้ มันอาจถือเป็น ขันติธรรม ในอีกรูปแบบหนึ่ง ก็เลยคงต้องหาน้ำกลั้วคอกันไปตามสภาพ เพราะถ้าหากจะให้ ลื่นไหล กันจริงๆ มันคงต้องขึ้นอยู่กับ จังหวะ และ โอกาส รวมทั้งขึ้นอยู่กับความเป็นไปของโลกทั้งโลกควบคู่ไปด้วย ว่าโลกามันจะวินาศกันในตอนไหน ถึงทำให้ศีลธรรมจำต้องปรากฏตัวขึ้นมาในรูปหนึ่ง รูปใด อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้จริงๆ...

                    ------------------------------------------------------------

            ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก “Archbishop Robert Alexander Kennedy” (อีกครั้ง)... “Oh Lord, change the world. Begin, I pray thee, with me. - โอ...ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ขอทรงได้โปรดเปลี่ยนแปลงแก้ไขโลกนี้ให้ดีขึ้น โดยเริ่มจากตัวข้าพเจ้าก่อน...”.

      ---------------------------------------------------------