ปรับการทำงานรับยุคโควิด


เพิ่มเพื่อน    

 

          ในช่วงหลังเกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศรอบ 2 ทำให้หลายองค์กรเริ่มกลับมาให้พนักงานทำงานจากบ้านกันอีกครั้ง โดยบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ระบุว่า องค์กรไทยควรทบทวนรูปแบบการทำงาน ขณะเดียวกันยังได้มีการแชร์ปัจจัยขับเคลื่อนเบื้องหลังความสำเร็จของบริษัทที่สามารถรับมือโรคอุบัติใหม่ในปีที่ผ่านมา ผ่านการเปลี่ยนแปลง Workstyle Transformation เพื่อการทำงานระยะไกลอย่างมีประสิทธิภาพ 3 ด้านอีกด้วย ได้แก่ 1.การพัฒนาวัฒนธรรมการทำงานจากระยะไกล 2.การใช้ประโยชน์จากกระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติให้เต็มประสิทธิผล และ 3.การติดตั้งระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ 

               นายอิชิโร ฮาระ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญด้านการปรับเปลี่ยนองค์กรธุรกิจในรูปแบบดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น ในเครือบริษัท เอบีม คอนซัลติ้ง จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ให้ข้อมูลว่าแต่ละวันได้ติดตามรายงานอัตราการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ตระหนักรู้ว่าบริษัทต่างๆ ควรหันกลับมาทบทวนรูปแบบการทำงาน เน้นปรับกระบวนการและวิธีการทำงานให้ตอบโจทย์เป้าหมายในองค์กรของตน เพื่อให้มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จ และมีประสิทธิผลในทุกสถานการณ์ 

                สำหรับวัฒนธรรมการทำงานจากระยะไกลเริ่มต้นจากจุดยืนของบริษัท ที่กำหนดนโยบายการทำงานจากระยะไกล ว่าควรจะเป็นมาตรการชั่วคราวหรือถาวร การทำงานจากระยะไกลเป็นทักษะที่ต้องใส่ใจเรียนรู้และกล้าที่จะลงทุน การประกาศมาตรการชั่วคราวทำให้พนักงานไม่พบแรงจูงใจในการปรับทัศนคติในการทำงานดังกล่าว ทำให้ผลผลิตโดยรวมลดลง ในทางกลับกันบริษัทที่มีแผนระยะยาวที่สนับสนุนให้ทำงานจากทางไกลเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานประจำวันโดยไม่คำนึงถึงสถานการณ์ของโควิด-19 จะได้รับแรงจูงใจและความมั่นคงทางจิตใจในแง่ดี ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานได้โดยตรง 

               การสำรวจของ ABeam พบว่านโยบายการทำงานระยะไกลแบบถาวรช่วยเพิ่มอารมณ์ในการทำงานของพนักงาน โดย 50% ของพนักงานจะรู้สึกว่าทำงานได้มีประสิทธิผลมากกว่าเดิม อีก 32% รู้สึกว่ามีประสิทธิผลในระดับเดียวกัน และมีเพียง 18% เท่านั้นที่รู้สึกว่าการทำงานมีประสิทธิผลน้อยลง ในด้านสุขภาพของพนักงาน จากเดิมมีเพียง 50% ที่กินอิ่มนอนหลับ แต่ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็น 78% และ 80% ตามลำดับ ซึ่งรูปแบบที่ดีที่สุดสำหรับพนักงานนั้นสามารถสรุปได้ดังนี้คือ ตามความต้องการของผู้ตอบคำถามในระหว่างการสำรวจ ในแง่ของผลิตผลที่ดีที่สุด คือทำงานทางไกล 2 ถึง 3 วัน และส่วนที่เหลือให้ทำในสำนักงาน ซึ่งสามารถใช้โควตาตามต้องการ โดยมีกระบวนการและระบบที่เหมาะสมรองรับ

                ส่วนรูปแบบการทำงานแบบอัตโนมัติ เป็นเครื่องมือที่ช่วยรังสรรค์วัฒนธรรมการทำงานจากระยะไกลให้แข็งแกร่งและยั่งยืนขึ้น บริษัทที่ประสบผลสำเร็จและมีผลิตภาพสูง ต่างได้ขับเคลื่อนเข้าสู่ดิจิทัล โดยไม่หยุดยั้งและเพิกเฉยที่จะดำเนินการต่อสู้เพียงเพื่อการอยู่รอด แต่สร้างจากประสบการณ์ที่ได้รวบรวมช่วงล็อกดาวน์ และมองหาจุดที่ต้องเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุง และมุ่งสู่วิถีการทำงานที่มีประสิทธิภาพเพิ่ม ลดปริมาณงาน และการทำงานซ้ำซ้อนแบบระบบข้าราชการลง แต่ละขั้นตอนอาจลดเวลาต่อการทำธุรกรรมได้เพียงไม่กี่นาที แต่การเพิ่มจำนวนการทำธุรกรรมเล็กๆ แต่หลายๆ ประเภท จะช่วยสะสมการลดทอนเวลาเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นการแสดงสัญญาณที่ชัดเจนของผลตอบแทนจากการลงทุน

               ขณะที่ความปลอดภัยด้านไซเบอร์ และโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการทำงานจากระยะไกล เป็นพื้นฐานเทคนิคที่จะเอื้ออำนวยให้เกิดการขับเคลื่อน 2 เรื่อง กล่าวคือ ในปี 2563 ไม่ใช่ปีที่มีเพียงโควิด-19 เท่านั้น แต่ยังเป็นปีที่การระบาดด้านภัยคุกคามไซเบอร์  มีเครื่องเดสก์ท็อปที่อยู่ระยะไกลจำนวนมากที่ไม่ปลอดภัยเพิ่มขึ้นมากกว่า 40% ส่งผลให้เกิดการโจมตีโดยการคาดเดาชื่อและรหัสผ่านสูงขึ้น 400% เฉพาะในเดือนมีนาคมและเมษายนที่ผ่านมา ส่วนของสแกมอีเมล หรืออีเมลหลอกลวง ที่สัมพันธ์กับโควิด-19 ได้เพิ่มขึ้น 667% ในเดือนมีนาคม 2563  

               แน่นอนว่าผลกระทบจากโรคระบาดจะส่งผลต่อเนื่องอีกนานถึงปี 2564 ก่อนที่สถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ องค์กรธุรกิจควรจะประเมินการณ์ใหม่ในการเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสที่จะทำงานจากระยะไกล และนำมาใช้เช่นเดียวกับบริษัทอีกจำนวนมาก ที่มีรูปแบบการทำงานที่มีประสิทธิผลในการทำงาน ควบคู่กับความยืดหยุ่นที่ขานรับกับความไม่แน่นอนใดๆ ในอนาคต เพื่อรองรับการทำงานที่ต่อเนื่องของธุรกิจ.

รุ่งนภา สารพิน

 

 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"