ยิงผิดตัว! สาดกระสุนถล่มรถผู้บริสุทธิ์ คิดว่าเป็นคนร้ายหลบหนีจากกระบี่ บาดเจ็บ 1 ราย พ่อลั่นเอาผิด ตร.สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง ถึงที่สุด หวั่นไม่ได้รับความยุติธรรม  
    จากกรณีเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นสามีภรรยาทะเลาะวิวาท โดยกักขังภรรยาไว้ในบ้าน ทางหลังวัดคลองพน พื้นที่หมู่ 6 บ้านพรุใหญ่ ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2564 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทรายขาว จึงได้เข้าตรวจสอบ ทำให้คนร้ายซึ่งเป็นสามีใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ร.ต.ท.ทรงฤทธิ์ หนูสาย เจ็บหนักส่ง รพ.กระบี่ และผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ถูกยิงได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน รวมบาดเจ็บ 2 ราย ส่วนคนร้ายหลังก่อเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่ จ.กระบี่ และหลบหนีเข้ามาในพื้นที่ จ.ตรัง ด้วยรถยนต์เก๋ง สีขาว ไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียนหมวด จ.เพชรบุรี พร้อมด้วยอาวุธปืนสั้นและปืนยาวมาในรถด้วย 
    ต่อมาทางกำลังตำรวจชุดสืบสวน สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง หลังรับการประสานมาจาก สภ.ทรายขาว จ.กระบี่ ได้ตั้งจุดตรวจสกัดบริเวณสี่แยกอันดามัน ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง จากนั้นช่วงเวลาประมาณ 14.30 น. วันเดียวกัน ระหว่างตั้งจุดสกัดได้พบรถยนต์ต้องสงสัย เป็นรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอัลเมร่า สีขาว ทะเบียน กธ 7693 กระบี่ ขับมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าจะเป็นรถต้องสงสัยคันเดียวกับที่ก่อเหตุ ได้ใช้อาวุธปืนทั้งปืนสั้นและปืนยาวกระหน่ำยิงใส่ จากนั้นเข้าตรวจสอบรถ โดยรถมีร่องรอยกระสุนเจาะเข้าจำนวนหลายจุดทั้งคัน ยางล้อหลังทั้ง 2 เส้นแตก
    พบภายในรถโดยสารกันมาจำนวน 3 ราย โดยมีนายสุทธิราช หมาดแดหว่า อายุ 38 ปี อาชีพขับรถส่งของ อยู่บ้านเลขที่ 1/39 ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เป็นคนขับรถ และคนนั่งข้างคือ น.ส.หนึ่งฤทัย วงศ์ประเสริฐ อายุ 29 ปี อาชีพเสมียนแพปลาแห่งหนึ่งใน จ.กระบี่ เป็นภรรยา ได้รับบาดเจ็บถูกเจ้าหน้าที่ยิงทะลุรถบริเวณประตู กระสุนเจาะเข้าต้นขาซ้ายได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนนั่งหลังคือ น.ส.สุดารัตน์ หมาดแดหว่า อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นน้องสาวของนายสุทธิราช ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำร่างผู้บาดเจ็บคือ น.ส.หนึ่งฤทัย ส่ง รพ.ห้วยยอด และทำการควบคุมตัวนายสุทธิราชและ น.ส.สุดารัตน์ไว้ ก่อนจะประสานไปยัง พ.ต.อ.ประดิษฐ ชัยพล ผกก.สภ.ห้วยยอด, พ.ต.ท.ประเสริฐ สงแสง รอง ผกก. (สอบสวน) และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง เข้าตรวจสอบ
    ก่อนจะทำการตรวจสอบภายในรถไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายแต่อย่างได ส่วนนายสุทธิราชและ น.ส.สุดารัตน์ ที่ได้ถูกควบคุมตัวไว้อยู่ในอาการตื่นตกใจและขวัญผวาเป็นอย่างมาก พร้อมยืนยันตลอดเวลาว่าไม่ได้ก่อเหตุหรือทำผิดกฎหมายมาแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่นำตัวทั้งคู่มาสอบสวนที่ สภ.ห้วยยอด โดยแยกกันสอบ ซึ่งมีญาติพี่น้องของผู้เสียหายเดินทางมาที่สถานีตำรวจ เบื้องต้นมีการยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงผิดตัว ขณะนี้ยังคงไม่ทราบตัวผู้ก่อเหตุที่แท้จริงว่าหลบหนีไปในเส้นทางใด
    จากการสอบปากคำนายสุทธิราชให้การว่า ตนเองขับรถออกจากบ้านในพื้นที่ ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ เพื่อเดินทางมายังสถานีรถไฟตรัง จะเดินทางไปอบรมที่ จ.สุราษฎร์ธานี วันที่ 5 ม.ค. โดยภรรยามาพร้อมกับน้องสาวตนเองเพื่อจะได้ขับรถกลับ ตอนเกิดเหตุตนเองเห็นตำรวจยืนอยู่บริเวณสี่แยก ในใจคิดว่าน่าจะเกิดอุบัติเหตุจึงได้เปลี่ยนเลนและชะลอรถ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระหน่ำยิงเข้าอย่างจังจนตนเองต้องหยุดรถ และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมตัวทันที ตนไม่ได้พูดอะไรแม้แต่น้อย ยืนยันว่าไม่ใช่คนร้าย
    ด้านนายห้าสัน หมาดแดหว่า อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91/1 หมู่ 9 ต.คลองพน อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พ่อนายสุทธิราช กล่าวว่า ไม่รู้รายละเอียดตอนเกิดเหตุมากนักเพราะอยู่ที่บ้าน เท่าที่ฟังทราบว่าลูกชายกำลังเดินทางไปที่สถานีรถไฟตรังเพื่อจะไปประชุม จ.สุราษฎร์ธานี ไปกัน 3 คน มีลูกสะใภ้ ลูกชายและน้องสาวนั่งเป็นเพื่อนกันขากลับ แต่ระหว่างทางตำรวจเกิดเข้าใจผิดคิดว่าลูกชายเป็นคนร้าย ใช้อาวุธปืนยิงล้อรถทั้งสองข้าง ถูกลูกสะใภ้
    นายห้าสันกล่าวอีกว่า ลูกชายเป็นคนที่ไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด ของมึนเมา บุหรี่ยังไม่สูบ รู้สึกเสียใจและน้อยใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนตำรวจจะทำงานทำไมไม่ตรวจดูให้ดีก่อน ทะเบียนรถก็ไม่เหมือนกัน รถของลูกชายเป็นป้ายจังหวัดกระบี่ รถคนร้ายเป็นป้ายทะเบียนจังหวัดเพชรบุรี แต่บังเอิญว่ารถสีและยี่ห้อเหมือนกัน หลังจากนี้จะขอคุยกับญาติก่อน ยืนยันว่าจะดำเนินคดีไม่ให้เรื่องเงียบ เพราะตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ลูกสะใภ้ต้องมาบาดเจ็บและหยุดทำงาน ทรัพย์สินเสียหาย รู้สึกจิตตกกัน ไม่สมควรจะเกิดขึ้น และหวั่นว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม 
    อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ กับผู้สื่อข่าว และอยู่ระหว่างการสอบสวนผู้เสียหายทั้ง 2 ราย ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บคือ น.ส.หนึ่งฤทัย ปลอดภัยแล้ว ขณะที่ผู้ก่อเหตุตัวจริงยังไม่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุม.