นายกฯหักกทม.ยืดปิดร้าน3ทุ่ม


เพิ่มเพื่อน    


    เอวัง! กทม.ออกมาตรการคุมโควิด ร้านอาหารทุกประเภทให้ลูกค้านั่งกินในร้านได้เฉพาะเวลา  06.00-19.00 น. พ้นจากนี้สั่งกลับบ้านอย่างเดียว คุมเข้มห้ามดวดเหล้าลดมั่วสุม สุดท้าย ศบค.ชุดใหญ่เบรก "บิ๊กตู่" เผยแก้มาตรการให้ขายถึง 3 ทุ่ม 
    เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564 ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง  โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร เรื่องมาตรการเพิ่มเติมควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) โดยที่ประชุมมีคำสั่งให้ร้านอาหารทุกประเภทในทุกพื้นที่ กทม.สามารถให้ลูกค้านั่งทานในร้านได้เฉพาะเวลา  06.00-19.00 น.เท่านั้น โดยต้องมีมาตรการเข้มข้น คือ  ห้ามดื่มสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน เพื่อลดระยะเวลาการรวมกลุ่มกัน ต้องคัดกรองผู้ใช้บริการ เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 1.5 เมตร และจะมีการออกมาตรการเพิ่มเติมและรายละเอียดต่างๆ ในวันนี้
    ส่วนหลังจากนั้นตั้งแต่เวลา 19.01-05.59 น.ให้ลูกค้าสั่งกลับบ้านเท่านั้น โดยมีผลบังคับใช้ 5 ม.ค.64  จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง
    สำหรับการเดินทางข้ามจังหวัดนั้น ขณะนี้ กทม.ยังไม่มีการบังคับกักตัว แต่เป็นการขอความร่วมมือสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากจังหวัดเสี่ยง ซึ่งจะมีการประกาศรายชื่อในวันนี้ กักตัว 14 วัน และทำแบบประเมินที่ BKKCovid-19  และสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล
    อย่างไรก็ตาม เย็นวันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.ว่า คำสั่งกรุงเทพมหานครให้ร้านอาหารในกรุงเทพฯ ปิดบริการเวลา  19.00 น. สิ่งสำคัญในเรื่องของร้านอาหาร ตนได้รับข้อเสนอจากสมาคมภัตตาคารต่างๆ ซึ่งมีผลกระทบสูงเหมือนกัน ฉะนั้นวันนี้ในส่วนที่ กทม.ประกาศออกไป ตนให้ยกเลิกไปก่อน และให้มีการขายอาหารได้ถึงเวลา 21.00 น.  แต่ต้องมีมาตรการที่เราเคยทำไว้แล้วเดิม ทั้งการกำหนดจำนวนคน มาตรการระยะห่าง อะไรต่างๆ
    "ทางนายกสมาคมฯ ที่ร้องเรียนมารับประกันว่าทำได้  ถ้าใครทำไม่ได้ต้องถูกปิด ขอให้ทำได้ตามนั้น ต้องช่วยกันไป เพราะตนไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบมากในเรื่องของธุรกิจอีก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมในเรื่องของเงินที่ต้องจัดหาเพิ่มเติม หรือไม่ต้องจัดหาเพิ่มเติมก็แล้วแต่ ในงบประมาณที่มีอยู่ที่จะเตรียมการรับสถานการณ์ต่อไปด้วย" นายกฯ กล่าว
     ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวมีผลตั้งแต่ 06.00 น. วันที่ 5 ม.ค. จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ส่วนสตรีทฟู้ดหากอยู่ในพื้นที่ผ่อนผันต้องปฏิบัติตามกฎนี้ด้วย
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร  (กทม.) พบผู้ติดเชื้อใหม่ประจำวัน 27 ราย ทั้งหมดเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ  สัญชาติไทย 25 ราย และสัญชาติลาว 2 ราย
    แบ่งเป็นเพศชาย 6 ราย อายุ 24, 26, 29, 30, 36,  และ 43 ปี เพศหญิง 21 ราย อายุ 18, 19, 22, 24, 25 (2  ราย), 26, 27 (2 ราย), 29 (2 ราย), 30, 31 (2 ราย), 32,  33 (2 ราย), 42 และ 51 ปี
     มีอาการป่วย 22 ราย และไม่มีอาการ 5 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 12 ราย, โรงพยาบาลศิริราช 4  ราย, โรงพยาบาลรามาธิบดี 1 ราย, โรงพยาบาลกลาง 2  ราย, โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน 1 ราย, สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี 1 ราย, โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า 1 ราย  และโรงพยาบาลเอกชนใน กทม. 5 ราย ทำให้วันที่ 4  มกราคม 2564 กทม.มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรวม 244 ราย
    พลโทสันติพงศ์ ธรรมปิยะ โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก  เริ่มการปฏิบัติงานในปี 2564 ด้วยการประชุมกับหน่วยทหารทุกกองทัพภาคด้วยระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ระบุว่า ในปีนี้กองทัพบกมีหลากหลายภารกิจ โดยเฉพาะการสนับสนุนทุกภาคส่วนในการคลี่คลายสถานการณ์ COVID-19  ย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติตามมาตรการ ศบค.และมาตรการเฉพาะของแต่ละจังหวัด ครอบคลุมทั้งเรื่องการสนับสนุนรัฐบาลเป็นส่วนรวมการดูแลหน่วยทหาร และการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยในปัจจุบันให้หน่วยทหารและกำลังพลจิตอาสาเน้นการเข้าช่วยหน่วยงานต่างๆ ในการทำความสะอาดสถานที่สาธารณะที่มีประชาชนไปใช้บริการเป็นจำนวนมากเพื่อลดจำนวนเชื้อโรค เช่น สถานีขนส่ง สถานีรถไฟฟ้า สถานีรถไฟใต้ดิน ป้ายรถประจำทาง  ศาลาพักคอย ท่าเรือ เป็นต้น ให้ประชาชนสบายใจในการใช้สถานที่และปลอดภัยจากเชื้อโรค
    นอกจากนี้ ให้หน่วยทหารเดินหน้าการช่วยซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากชุมชนรอบค่ายทหารเพื่อนำมาประกอบเลี้ยง เป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน รวมทั้งในพื้นที่ต่างจังหวัดให้จัดกำลังพลเข้าสนับสนุนโครงการอาหารชุมชนโรงเรียนต้นแบบ ตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อเป็นคลังอาหารสำหรับชุมชนและเด็กนักเรียนในช่วงสถานการณ์  COVID-19
    ผู้บัญชาการทหารบกย้ำว่า การสนับสนุนภาคส่วนต่าง ๆ และการดูแลประชาชนในช่วงนี้ขอให้กำลังพลทุ่มเทอย่างเต็มที่ ถือเป็นการเสียสละทำหน้าที่ดูแลประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง โดยกองทัพบกจะสนับสนุนอุปกรณ์ เครื่องมือในการทำงานและจัดสวัสดิการให้อย่างเหมาะสม ในภารกิจเฝ้าตรวจคัดกรอง COVID-19 ระลอกใหม่ รวมทั้งการดูแลบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลสังกัดกองทัพบกให้มีความเข้มแข็ง มีกำลังใจในภารกิจด้านการรักษาพยาบาล และการเตรียมพร้อมดูแลผู้ติดเชื้อ COVID-19 ได้อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพราะ COVID-19  ระลอกใหม่ทำให้กำลังพลในสายแพทย์จะต้องทำงานหนักยิ่งขึ้น
    นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายกิจกรรมที่หน่วยทหารจะต้องนำไปพิจารณาให้สอดคล้องกับมาตรการของ ศบค. เช่น  การจัดการเรียนการสอนออนไลน์ในสถาบันการศึกษาของกองทัพบก การทำงานแบบเวิร์กฟรอมโฮม การเฝ้าระวังป้องกันโรคในค่ายทหาร การกำหนดแนวทางการลาพักของทหารกองประจำการ เป็นต้น เพื่อให้กำลังพลมีความปลอดภัยและสามารถปฏิบัติภารกิจตามบทบาทหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"