ไม่นานมานี้ ‘เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ’ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่เคยเข้ามาทำหน้าที่กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2563 จากโควตาพรรคเพื่อไทย ออกมาโพสต์เฟซบุ๊กตอนหนึ่งว่า ‘...ปี 64 พรรคใหญ่อาจจะถูกยุบ เพราะหลักฐานจดหมายและคลิป’ 

      จตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จัดรายการพีซทอล์ก พูดเอาไว้อย่างน่าสนใจตอนหนึ่งเช่นกันว่า ‘…อยากให้ไปตรวจสอบในพรรคเพื่อไทย ไม่กี่วันก็จะเป็นอาฟเตอร์ช็อก อย่างน้อยมีคนไม่เห็นด้วยในกรณีบางเรื่อง และได้ตัดสินใจลาออกแล้ว 2 ตำแหน่งในพรรค เพียงแต่รักษามารยาทไม่ให้สาธารณชนรับทราบ’ 

      คนที่เคยอยู่บ้านเก่า เพื่อไทย ออกมาทิ้งทุ่น เป็นปมปริศนา ทำให้ต้องสืบเสาะต้นสาวราวเรื่อง จากเหตุใด ใคร และนำไปสู่เหตุอะไร ถึงมีการพร้อมใจออกมาแสดงออก ทิ้งเป็นเครื่องหมายคำถามทำให้ชวนคิด และยิ่งมีประเด็นข้อพิจารณาจาก กกต.ตอบกลับข้อหารือ กกต.เชียงราย

      ที่ผลการพิจารณา กกต.ระบุชัด ห้ามนำจดหมายของทักษิณ ชินวัตร ไปช่วยหาเสียง ซึ่งได้อ้างตามระเบียบระบุ บุคคลที่เป็นผู้ช่วยหาเสียงได้ต้องมีสิทธิเลือกตั้ง และต้องได้รับการแต่งตั้งจากผู้สมัครนายก อบจ. แม้จะเป็นการตอบข้อหารือกรณีเชียงราย แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกนำมาเทียบเคียงเชียงใหม่

      อันเนื่องจากทักษิณได้เขียนจดหมายสนับสนุนผู้สมัครนายก อบจ.ทั้งที่เชียงราย เชียงใหม่  

      แม้ผลเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (อบจ.) ผลคะแนนที่ออกมา เสี่ยก๊อง-นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้ง โค่นแชมป์เก่า เสี่ยโต๊ะ-บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ จากกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม

      ทว่าตลอดการหาเสียงทราบกันดี เครือข่ายเพื่อไทย เครือข่ายชินวัตร ปูพรมลงพื้นที่อย่างหนัก 

      ‘ทักษิณ ชินวัตร’ กลายเป็นคนที่เปลืองตัวที่สุด ถึงแม้ตัวอยู่ไกล แต่ยังรักบ้านเกิด ลงทุนโพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก อัดคลิปวิดีโอขอคะแนนความเห็นใจจากพี่น้องชาวเชียงใหม่ ในภารกิจ ‘ป้องกันที่มั่น สู้เพื่อศักดิ์ศรี’ 

      ปมประเด็นนี้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เป็นการกระทำที่เข้าข่ายทำผิด พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นหรือไม่ ทั้งผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง ไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยหาเสียง ก่อนหน้า ‘ศรีสุวรรณ จรรยา’ ยก พ.ร.ป.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 28-29 กล่าวโดยสรุปคือ พรรคการเมืองห้ามให้คนที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคมาควบคุม ครอบงำ ชี้นำ รวมไปถึงคนที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคก็ห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยว ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกพรรคขาดความเป็นอิสระไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม  

      ประมวล ขมวดปม อาจเป็นปมความผิด เลยขอไปยื่นต่อกรรมการการเลือกตั้งขอให้ยุบพรรคการเมือง 

      ประเด็นปัญหาปมแรกที่เพื่อไทยเจอ ว่ากันว่าผู้สมัครจากกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมบางคนก็ยกกฎหมาย ข้อห้าม ตลอดจนพฤติการณ์ต่างๆ ที่พบเจอในพื้นที่ร้องเรียนไปยัง กกต.ขอให้ตรวจสอบการกระทำดังกล่าวเช่นกัน  

      นอกจากนี้ มีผู้ทำหนังสือส่งไปถึง กกต.สอบถามปมประเด็นผู้ที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ไม่มีสิทธิเลือกตั้ง เข้ามาเกี่ยวข้องเป็นการกระทำผิดหรือไม่ กกต.ได้ทำหนังสือตอบกลับข้อหารือ อธิบายความ ชี้แจงตอบข้อสงสัย ซึ่งคำชี้แจงไม่ต้องเป็นนักกฎหมาย บอกได้แค่ว่า 

      เป็นเรื่องน่าหนักใจสำหรับพรรคเพื่อไทย  

      รวมทั้งพฤติการณ์อื่นของผู้สมัครนายก อบจ. และคณะที่ไปช่วยปราศรัยหาเสียงบุคคลที่ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง แต่เป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย อาทิ อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด, พิชัย นริพทะพันธุ์, อรุณี กาสยานนท์ การที่ไปยืนบนเวทีในช่วงที่มีการนำเนื้อหาในจดหมายออกมาขยายผล ผลิตซ้ำ เป็นปมประเด็นทางกฎหมายที่ทำให้เพื่อไทยต้องหนาวๆ ร้อนๆ 

      มุมมองประเด็นที่สุ่มเสี่ยง หมิ่นเหม่ต่อการอาจจะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ยังตกเป็นข้อถกเถียงกันอย่างหนักในวงกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีกรรมการบริหารพรรคบางคน บางกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่การที่มีจดหมายออกมา การนำมาผลิตซ้ำ การนำไปปราศรัยหาเสียงนั้น ถึงกับร่อนหนังสือชี้แจงไปยังกรรมการการเลือกตั้ง อธิบายเหตุผล ‘คัดค้าน-ไม่เห็นด้วย’  

      เพียงแค่คำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรจาก กกต. อาจทำให้เพื่อไทยต้องคิดหนัก ตกในที่นั่งลำบาก เพราะผลพวงคดีนี้ไม่ได้ตกเฉพาะผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.เชียงใหม่เท่านั้น แต่ยังอาจลามมาถึงกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรค อาจถูกลงดาบสถานหนักเลยทีเดียว 

      ปมประเด็นการยุบพรรคที่มวลสมาชิกเคยเจอมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย พลังประชาชน แล้วจะจบลงที่เพื่อไทยอีกหรือไม่ ล้วนเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด.