เห็นข่าวการลา-ละ-สละจากโลกนี้...ของอาจารย์ จีระ หงส์ลดารมภ์ จากเฟซบุ๊กของ เสือเตี้ย-สนานจิตต์ บางสะพาน หรือ บุรุษผู้มากับความตาย แล้ว อดใจหายแวบ ขึ้นมามิได้ แม้ไม่ได้สนิทสนม คุ้นเคย มากมายซักเท่าไหร่ แค่เคยพบปะ เจอะเจอ พูดจากันมั่งในบางครั้ง บางครา แต่จากการติดตามอ่านข้อเขียน บทความ ในเว็บไซต์ แนวหน้า และการผูกพัน โยงใย กับพี่ชายแท้ๆ ของอาจารย์ท่าน คือคุณ ลิขิต หงส์ลดารมภ์ ผู้ตัดช่องน้อยแต่พอตัวไปก่อนหน้านี้ เลยอดวูบๆ วาบๆ ขึ้นมาไม่ได้...
-----------------------------------------------
คือช่วงงานศพพี่ชายของท่าน หรือคุณ ลิขิต เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเท่านั้นเอง ยังมีโอกาสได้เจอะเจออาจารย์ จีระ แบบตัวเป็นๆ ได้พูดจาจ๊ะๆ จ๋าๆ เจ๊าะๆ แจ๊ะๆ กันไปตามสมควร แต่แทบไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ...ว่าจู่ๆ อาจารย์ท่านตัดสินใจ ลา-ละ-สละจากโลกนี้ไปแล้วจริงๆ เป็นไปตามหลัก อนิจจัง วัฏฏะ สังขารา อะไรที่เกิดขึ้น-ตั้งอยู่ ย่อมมีแต่ต้องดับไปด้วยกันทั้งนั้น แต่การไปแบบแทบไม่ได้มีโอกาสรู้ข่าวล่วงหน้า ก็เลยทำให้อด อึ้งกิมกี่ ต่อความวูบๆ วาบๆ วูบไหว-ไปมา ความเอาแน่ เอานอน แทบไม่ได้ ของวัน-เวลา กาลเวลา ที่เป็นผู้กลืนกิน ผู้เปลี่ยนแปลงทุกๆ สรรพสิ่ง อย่างไม่มีข้อยกเว้น ด้วยเหตุนี้...ก็เลยได้แต่ขออนุญาตแสดงความอำลา-อาลัย ต่ออาจารย์ จีระ หงส์ลดารมภ์ เอาไว้ ณ ที่นี้...
----------------------------------------------
แต่ก็เหมือนกับความเป็นไปต่างๆ นานาที่กำลังเป็นมาและเป็นไป ภายในโลกใบนี้นั่นแหละทั่น!!! ใครจะไปคิดว่า...โรคระบาดอย่างเชื้อไวรัส COVID-19 ที่มันมาจากไหนก็ยังไม่รู้แน่ชัด แต่จู่ๆ ก็ดันสาดซัดหาดทรายขาว ชนิดพังพินาศ ปั่นป่วน วุ่นวาย ไปแทบจะทั้งโลก และไม่ใช่พังแต่เฉพาะสุขภาพ ร่างกาย ยังลามปามไปถึงเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง สังคม ระดับที่โลกทั้งโลกอาจไม่มีวันเหมือนเดิมอีกต่อไป ต้องเกิดการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และแก้ไข เรื่องโน้น เรื่องนี้ ที่กลายมาเป็น โจทย์ ใหม่ๆ ท้าทายมันสมอง ฝีมือและความสามารถ ของบรรดาผู้ที่ยังคง มีชีวิตอยู่ ไปด้วยกันทั้งสิ้น...
-----------------------------------------------
ใครที่ตามไม่ได้-ไล่ไม่ทัน...ถึงแม้ยังมีชีวิตอยู่ แต่อาจถึงขั้น ซังกะตาย เอาง่ายๆ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ได้คิดเตรียมเนื้อ เตรียมตัว เตรียม ตายก่อนตาย เอาไว้ก่อนล่วงหน้า หรือไม่ได้พยายาม เจริญมรณานุสติ ดังที่บรรดาพระสงฆ์องคเจ้า ท่านได้ชี้แนะ ชี้นำ มาโดยตลอด ยิ่งเป็นพระสังฆราชองค์ก่อน อย่าง สมเด็จพระญาณสังวร ด้วยแล้ว ยิ่งทรงย้ำนัก ย้ำหนา ทรงให้ความสำคัญกับเรื่องทำนองนี้ไว้เป็นพิเศษ เพราะแม้ว่ายังไม่ถึงกับตาย หรือยังมีชีวิตอยู่ แต่ด้วยการ ตายก่อนตาย นั่นเอง ที่ย่อมช่วยให้เกิดความ เข้าถึง และ เข้าใจ ต่อบรรดา ความเปลี่ยนแปลง ทั้งหลาย อย่างชนิดรู้จริง รู้แจ้ง ได้ไม่ยากซ์ซ์ซ์...
----------------------------------------------
ว่ากันว่า...แนวโน้มความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะมาถึง ในอีกไม่นาน-ไม่ช้านับจากนี้ มันอาจมีส่วนที่ทำให้สิ่งที่เรียกๆ กันว่า เสรีภาพ อันเป็นอะไรที่ดูสูงส่ง วิเศษวิเสโส เสียเหลือเกิน อาจต้องถูกบั่นทอน ลดทอน ลงไปมิใช่น้อย สำหรับผู้ที่เกิดและเติบโตขึ้นมาในสังคม เสรีประชาธิปไตย ทั้งหลาย โดยเฉพาะเสรีภาพในทางร่างกาย หรือในทางวัตถุ ที่อาจถูกผู้มีอำนาจในประเทศนั้นๆ สังคมนั้นๆ เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องหาทาง ควบคุม หรือ บังคับ ไม่ว่าทางใด ทางหนึ่ง อย่างมิอาจปฏิเสธ เพราะแค่ช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เท่าที่เห็นๆ อยู่ในระหว่างนี้ ไม่ว่าจะประเทศเสรี-ไม่เสรี เพียงใดก็เถอะ หนีไม่พ้นต้องหันมายัดเยียดหน้ากากอนามัย ห้ามมิให้เดินทาง ไม่ให้ข้ามเขตโน้น เขตนี้ ให้เว้นระยะห่างด้วยการปอกกล้วยเปลี่ยวอยู่ในบ้านร้างตามลำพัง เผลอๆ อาจต้องจำกัดจำนวนคนในแต่ละบ้าน ไว้ซะอีกต่างหาก ฯลฯลฯลฯ...
-----------------------------------------------------
นี่เฉพาะแค่เชื้อ ไวรัสธรรมดาๆ เท่านั้น...ยังต้องควบคุม บังคับ ต้องป้องกันเอาไว้ถึงขั้นนี้ แต่นอกเหนือไปจากนั้น มันยังมี ไวรัสทางความคิด-ความรู้สึก ที่กำลังกลายเป็น ปัญหา ของหลายๆ สังคมมากบ้าง-น้อยบ้างไปตามสภาพ ไม่ว่าในรูปของการเกลี้ยกล่อม โน้มน้าว ไปจนถึงในรูปของ สงครามไซเบอร์ เอาเลยก็ยังมี ที่ทำให้แต่ละสังคมต้องหาทางควบคุม บังคับ และปกป้อง ตามกรรมวิธีของใคร-ของมันกันไปตามสภาพ ไม่ว่าจะด้วยการสอดส่อง ดูแล แอบตรวจสอบ ตรวจเช็ก ลอบดักฟัง ฯลฯ ที่ล้วนแล้วแต่ถือเป็นการละเมิด เสรีภาพส่วนตัว หรือ ส่วนบุคคล ไปด้วยกันทั้งสิ้น ไม่ก็อาจต้องออกกฎหมาย คำสั่ง กฎระเบียบ ห้ามโน่น ห้ามนี่ แบบดื้อๆ ทื่อๆ ไปตามขีดความสามารถของแต่ละสังคม ที่จะต้องไปหาข้อวินิจฉัยกันเอาเอง...
--------------------------------------------------------
โดยบรรดาไวรัสต่างๆ เหล่านี้...ว่ากันว่ามันอาจ กลายพันธุ์ ไปเป็น ไวรัสทางการเงิน หรือไวรัสในทางเศรษฐกิจ สังคม สาธารณูปโภค ฯลฯ ได้ไม่ยาก ถ้าหากประเทศใด สังคมใด ยังไม่มีมาตรการ หรือไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ในการรับมือกับการแพร่ระบาดในแต่ละรูป ละแบบ การหาทางควบคุมและบังคับเสรีภาพในด้านต่างๆ มันจึงกำลังปรากฏให้เห็นแม้แต่ในบรรดาประเทศเสรีประชาธิปไตยทั้งหลาย อย่างถนัดชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ จนอาจแทบไม่เหลือความแตกต่างระหว่าง เผด็จการ กับ เสรีประชาธิปไตย เอาเลยก็ไม่แน่!!! เหลืออยู่เพียงแค่อะไรคือ จุดมุ่งหมาย หรือ เป้าหมาย ของแต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ ของส่วนรวม หรือเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ของคนส่วนน้อย ที่ดันมีโอกาสขึ้นมาถือครองอำนาจในประเทศนั้นๆ ในสังคมนั้นๆ เท่านั้นเอง...
-------------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...ที่เป็น ความเปลี่ยนแปลง ซึ่งกำลังจะมาถึง ตามความคิด ความเห็น ของบรรดาผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ ที่ได้พยายามอรรถาธิบายถึงปรากฏการณ์เหล่านี้ มาเป็นระยะๆ และแม้แต่สังคมไทย หรือประเทศไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮา ก็น่าจะไม่มี ข้อยกเว้น ใดๆ ทั้งสิ้น ปัญหาอยู่ที่ว่า...ไม่ว่า เผด็จการ หรือ นักประชาธิปไตย ในบ้านเรา ดูจะตามไม่ได้-ไล่ไม่ทัน ต่อกระแสเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไปด้วยกันทั้งนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างเลยออกจะ วนไป-วนมา อยู่ภายในอ่าง อย่างเท่าที่เคยเป็นมา ร่วมๆ ศตวรรษมาแล้วก็ว่าได้...
-----------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้จาก “Peter Muller”... “What’s lasting is not what resists time, but what wisely changes with it. – สิ่งที่ยืนยาวและยั่งยืน...หาใช่คือสิ่งที่สามารถต้านทานต่อกาลเวลาไม่ แต่เป็นสิ่งที่สามารถปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงได้อย่างชาญฉลาด...”.
----------------------------------------------------
|
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
| อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
| 'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
| ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
| วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
| "การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
| เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |
