4 ม.ค.64 - นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กดังนี้
สู้โควิด-19 ต้องทำให้ประชาชนอิ่มท้องก่อน
เห็นข่าวน.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด พูดถึงเหตุผลที่ไม่มีการประกาศล็อคดาวน์ และมาตรการชดเชย ทั้ง ๆ ที่การระบาดของโรคโควิด-19 รอบสอง หนักหน่วงรุนแรงกว่ารอบแรกหลายเท่าแล้วไม่สบายใจ เพราะมีการอ้างถึงผลกระทบด้านเศรษฐกิจและรายได้ รวมถึงเงินเยียวยาที่รัฐจ้องใช้ ชวนให้คิดว่ารัฐบาลกำลังอับจนปัญญาในเรื่องการหาเงินมาสู้กับสงครามไวรัสร้ายครั้งนี้หรือไม่
ยิ่งฟังนายกรัฐมนตรีพูดล่าสุดถึงวิธีการแก้ปัญหา ด้วยการชักชวนให้ประชาชนล็อคดาวน์ตัวเอง แทนที่รัฐบาลจะเป็นผู้ประกาศล็อคดาวน์ ยิ่งแสดงให้เห็นถึงการขาดความรับผิดชอบอย่างที่ไม่น่าให้อภัย ถ้าประชาชนต้องดูแลตัวเอง โดยที่รัฐบาลลอยตัวไม่กล้าประกาศมาตรการ เนื่องจากกลัวความรับผิดชอบที่จะตามมา เราจะมีรัฐบาลไว้ทำไม?
สิ่งที่รัฐบาลทำในขณะนี้ไม่เพียงแต่จะไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการรับมือต่อสถานการณ์ที่กำลังเขม็งเกลียวอยู่ในขณะนี้เท่านั้น ยังสะท้อนถึงการขาดวิสัยทัศน์ในการลำดับความสำคัญเร่งด่วนเพื่อแก้วิกฤตเฉพาะหน้าด้วย ทั้ง ๆ ที่เคยผ่านเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว แต่กลับไม่เรียนรู้อดีตมาใช้ประโยชน์กับปัจจุบันเลย
ผมขอเรียกร้องรัฐบาลให้เร่งดำเนินการ 3 ข้อหลัก ๆ ดังนี้
1. จัดกลุ่มผู้ประกอบการและแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดรอบสองให้ชัดเจน และออกมาตรการเยียวยาทันที โดยอาจใช้โมเดลเดิมคือ ให้ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ในส่วนของบุคคลที่ได้รับผลกระทบ ส่วนผู้ประกอบการกลุ่มต่าง ๆ ให้ออกมาตรการเยียวยาที่เหมาะสมตามความต้องการของธุรกิจแต่ละประเภท
2. สำรวจงบประมาณที่มี ไล่ตั้งแต่เงินกู้ที่ใช้ในการสู้โควิด-19 รอบแรกว่าเหลืออยู่เท่าไหร่ โยกเงินจากส่วนฟื้นฟูมาเป็นเยียวยาได้หรือไม่ งบประมาณปี 2564 จะจัดสรรใหม่อย่างไร ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และประกาศให้ประชาชนรับทราบแผนการใช้เงินให้ชัดเจน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และยังเป็นการสร้างความมั่นใจต่อประชาชนด้วยว่า รัฐบาลไม่ได้ถังแตก
3. ปากท้องประชาชนเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ การลดภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชนต้องทำทันที ทั้งมาตรการลดค่าไฟฟ้า น้ำประปา ไปจนถึงค่าโดยสารรถประจำทาง รถไฟฟ้า และค่าเช่าต่าง ๆ
“ผมคิดว่าถ้าอยากสู้ให้ชนะโควิด-19 รัฐบาลต้องให้ความมั่นใจกับประชาชนให้ได้ก่อนว่า ปากท้องของเขาจะอิ่มไม่อด เพราะถ้าทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือแบบไหนที่รัฐบาลร้องขอ ก็จะถูกต่อต้านจากประชาชน ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม เพราะจะเกิดการโกลาหลที่กฎหมายก็ควบคุมไม่อยู่ ผมเชื่อว่าทุกคนอยากอยู่บ้าน หยุดเชื้อ ช่วยชาติ แต่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ เพราะยังต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบอยู่ทุกวัน คำพูดง่าย ๆ ให้อยู่บ้าน 14 วัน เจ้าสัว คนรวยทำได้ แต่คนจนเขาทำไม่ได้ ผมอยากให้นายกฯเข้าใจวิถีชีวิตประชาชน เหมือนกับที่ท่านมักเห็นใจเจ้าสัว จะได้แก้ปัญหาอย่างถูกจุด”
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |