ชัยนาทสั่งเข้มคนสมุทรสาคร นครปฐม ระยอง ชลบุรีต้องยื่นใบรับรองแพทย์ก่อนเข้าจังหวัด


เพิ่มเพื่อน    


4 ม.ค.64   จากกรณีที่จังหวัดชัยนาท พบผู้ติดเชื้อโควิด-19   รายที่ 7 เป็นวิศวกรเดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร  ไม่ยอมกักตัว ขณะรอฟังผลตรวจหาเชื้อโควิด19  แต่กลับออกไปซื้อของที่ตลาดและร่วมงานปาร์ตี้ฉลองปีใหม่กับเครือญาติ    ส่วนผู้ติดเชื้อ รายที่ 8 เป็นคนขับรถแท็กซี่ เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรี   ไม่เข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อน แต่กลับออกไปเดินห้างสรรพสินค้า และตั้งวงกินหมูกระทะกับครอบครัวและเพื่อนบ้าน ทำให้ประชาชนที่อยู่ในสถานที่เดียวกับทามไลน์ของผู้ติดเชื้อทั้ง 2 ราย ต่างได้รับความเดือดร้อน  กลุ่มเสี่ยงเกือบ 30 คน ต้องถูกกักตัว 14 วัน   เจ้าของสถานที่ต้องเร่งทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคสถานที่ตามทามไลน์  และประชาชนในจังหวัดชัยนาท ต่างรู้สึกวิตกกังวลกลัวจะติดเชื้อไปตามๆกัน   

ดังนั้นเพื่อเป็นการยกระดับมาตรการควบคุมพื้นที่จังหวัดชัยนาท   ล่าสุด นายสมบูรณ์ ศิริเวช ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท   มีคำสั่งที่ 2/2564 ลงวันที่ 3 ม.ค.64  โดยมติของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยนาท เรื่องมาตรการเฝ้าระวัง ควบคุม และป้องกัน โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19)     โดยกำหนดให้พื้นที่จังหวัดชัยนาททั้งจังหวัดเป็นพื้นที่ควบคุม   และกำหนดให้บุคคลที่จะเดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด ตามประกาศของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชัยนาท (สมุทรสาคร นครปฐม ระยอง ชลบุรี)  หากเข้ามาในเขตพื้นที่จังหวัดชัยนาท ต้องแสดงหนังสือรับรองสุขภาพ(ใบรับรองแพทย์) จากสถานพยาบาลของจังหวัดต้นทางว่า “ไม่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019(โควิด-19)” ต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชัยนาท ก่อนเข้าพื้นที่  โดยหนังสือรับรองสุขภาพจะต้องมีอายุไม่เกิน 72 ชั่วโมง นับแต่ได้รับการตรวจหาเชื้อ แต่หากมีความจำเป็นพิเศษเร่งด่วน ไม่สามารถเข้ารับการตรวจหาเชื้อที่จังหวัดต้นทางได้  จะต้องเข้าตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลในจังหวัดชัยนาท ก่อนจะเดินทางเข้าไปที่พักอาศัย หรือทำกิจกรรมอื่นในพื้นที่จังหวัดชัยนาท  โดยจะต้องแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชัยนาท ก่อนเดินทาง 24 ชั่วโมง  และจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการตรวจเอง

ส่วนบุคคลในพื้นจังหวัดชัยนาท  หากเดินทางออกไปจังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดดังกล่าว  เมื่อกลับเข้ามาในจังหวัดชัยนาท  จะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยเช่นกัน  และต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง  ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตาม จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 , ความผิดตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา  ต้องระวางโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 
 


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"