โวย4ปีคสช.ปิดปากทีวีแดง


เพิ่มเพื่อน    

 

     กสทช.สั่งปิดช่องพีซทีวี 30 วัน อ้างเนื้อหารายการเข้าข่ายยั่วยุ ปลุกปั่นสร้างความขัดแย้ง แถมขัดคำสั่งศาลปกครอง "เต้น" โวยจอดำอีกแล้ว เชื่อโดนปิดปากก่อนวันครบรอบ 4 ปี คสช.ยึดอำนาจ 

    เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แถลงผลการประชุม กสทช.ว่า ที่ประชุมมีมติให้พักใช้ใบอนุญาตช่องพีซทีวี (PEACE TV) โดยอาศัยอำนาจตามข้อ 19 ของประกาศ กสทช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้บริการกระจายเสียงและโทรทัศน์ พ.ศ.2555 เป็นเวลา 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำสั่ง และหากยังคงฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวอยู่อีก จะใช้มาตรการทางปกครองที่สูงขึ้นต่อไป

    ทั้งนี้ เนื่องจากการออกอากาศรายการเดินหน้าต่อไป เมื่อวันที่ 26, 27 มี.ค. และวันที่ 5 เม.ย.2561 เวลา 14.30-15.30 น. โดยประมาณ รายการหยิบข่าวมาคุย เมื่อวันที่ 27 มี.ค. และวันที่ 9 เม.ย.2561 เวลา 10.30-12.00 น. โดยประมาณ รายการเหลียวหลังแลไปข้างหน้า เมื่อวันที่ 26, 27 มี.ค. และวันที่ 9 เม.ย.2561 เวลา 17.00-18.00 น. โดยประมาณ รายการเข้าใจตรงกันนะ เมื่อวันที่ 27 มี.ค. เวลา 18.20-19.20 น. โดยประมาณ

    นายฐากรกล่าวว่า ทางช่องรายการโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ช่องพีซทีวีมีเนื้อหารายการอันเป็นการส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร และยังเป็นการนำเสนอที่ขัดต่อคำสั่งศาลปกครอง ที่มีคำสั่งให้บริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด ปฏิบัติตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 97/2557 ลงวันที่ 18 ก.ค.2557 และฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 ก.ค.2557 ซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำผิดซ้ำซาก

    สำหรับการออกอากาศรายการดังกล่าวทั้งหมด เป็นการขัดต่อประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 97/2557 ลงวันที่ 18 ก.ค.2557 เรื่องการให้ความร่วมมือต่อการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติและการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ และประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 ก.ค.2557 เรื่องแก้ไขเพิ่มเติมประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 97/2557 ขัดต่อข้อกำหนดในบันทึกข้อตกลง ลงวันที่ 26 ส.ค. 2557 ระหว่างสำนักงาน กสทช. และบริษัท พีซ เทเลวิชั่น จำกัด ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ช่อง PEACE TV ซึ่งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 41/2559 ลงวันที่ 13 ก.ค.2559 ถือว่าเนื้อหาดังกล่าวเป็นการออกอากาศรายการที่มีเนื้อหาสาระที่ก่อให้เกิดการล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามมาตรา 37 ประกอบมาตรา 63 และมาตรา 64 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ.2551

    ด้านนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า นับเป็นคำสั่งจอดำครั้งที่ 2 ในรอบ 5 เดือนแรกของปีนี้ โดยก่อนหน้านี้ ตัวแทนของสถานีได้เข้าชี้แจงต่อ กสทช.ถึงเนื้อหารายการที่ถูกกล่าวอ้างว่าเป็นปัญหา แต่ผลก็เป็นเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา คือยุติการออกอากาศ  เคยตั้งคำถามว่า เหตุใดไม่มีการพิจารณาเนื้อหาของสถานีอื่นๆ ที่นำเสนอความคิดเห็นทางการเมืองตรงกันข้ามกับพีซทีวีบ้าง ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่มีคนร้องเรียนเข้ามา จึงสงสัยว่าบ้านเมืองนี้มีคนไม่ทำมาหากินอะไร วันๆ นั่งจ้องแต่พีซทีวีคอยหาเรื่องร้องเรียนอย่างนั้นหรือ และ กสทช.ต้องทำงานแบบลูกนกในรัง รอคนร้องเรียนมาป้อนถึงปาก โดยไม่เบิกตาแสวงหาข้อเท็จจริงในการนำเสนอของแต่ละสถานีหรืออย่างไร

    นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ทุกวันนี้แม้แต่รายการข่าวโทรทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์ยังทำหน้าที่ตอบโต้ทางการเมืองไปในตัว ทีวีดิจิทัลหรือดาวเทียมหลายช่องก็มีเนื้อหาไม่ต่างกับช่วงเดินขบวนก่อนรัฐประหาร เพียงแต่แนวทางอาจสอดคล้องกับฝ่ายผู้มีอำนาจ ก็เลยอยู่รอดปลอดภัย ตนไม่เคยเห็นด้วยกับการใช้อำนาจปิดสื่อไม่ว่าจะข้างไหน แต่ที่ถามเพราะอยากเห็นความเป็นธรรม  ไม่อยากให้องค์กรอิสระมีราคาแค่ลิ่วล้อของใคร พีซทีวีเป็นองค์กรธุรกิจ การปิดแล้วปิดอีกถี่ๆ แบบนี้เสียหาย รายได้จากโฆษณาลด พนักงานก็ได้รับผลกระทบ ถ้าเศรษฐกิจกำลังดี คนเรอเป็นเงินเป็นทองก็แล้วไป แต่นี่จนกันทั่วประเทศ แล้วยังจะซ้ำเติมกันอีก" แกนนำ นปช.กล่าว

    "ในฐานะผู้จัดรายการคนหนึ่ง จึงแนะนำให้ผู้บริหารสถานีรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อฟ้องร้องตามกฎหมาย เข้ามาตราไหน กฎหมายใด ฟ้องให้ครบ แม้ กสทช.จะมีอำนาจ แต่ต้องใช้ด้วยความชอบธรรม ไม่เลือกปฏิบัติให้ใครได้ประโยชน์หรือเสียหาย ไม่เช่นนั้นก็ต้องถูกดำเนินคดีรับโทษตามคำพิพากษา ที่ผ่านมาพีซทีวีมักถูกปิดตามสถานการณ์ทางการเมือง ช่วงนี้ใกล้ครบรอบ 4 ปีรัฐประหาร มีหลายกลุ่มประกาศจะเคลื่อนไหว ไม่ทราบว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่ สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้คือ กสทช.มีหลักประกันเก้าอี้ ได้อยู่ต่อเพราะมาตรา 44 แต่ประชาชนไม่มีหลักประกันเสรีภาพ กลายเป็นต้องใช้เป็นเครื่องสังเวยให้กรรมการ กสทช.ตอบแทนผู้มีอำนาจหรือไม่" แกนนำ นปช.กล่าว.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"