4 ม.ค. 2564 นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ทล.ได้เสนอเรื่องให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาโครงการพัฒนาโครงข่ายทางหลวงหมายเลข 348 และหมายเลข 3486 เชื่อมโยง อ.อรัญประเทศ-อ.นางรอง ระยะทางประมาณ48 กิโลเมตร (กม.) รวมถึงช่วงที่ผ่านพื้นที่มรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ (รวมบริเวณเขาช่องตะโก) ซึ่งได้ตัดผ่านสภาพภูมิประเทศที่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่สำคัญ คือ พื้นที่มรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ บริเวณเขาช่องตะโก ระยะทางประมาณ 3 กม.
สำหรับพื้นที่ดังกล่าวเป็นช่วงรอยต่อขึ้น-ลงเขา ระหว่าง จ.บุรีรัมย์ และ จ.สระแก้ว โดยจะดำเนินการขยายช่องจราจรจาก 2 ช่องจราจรไป-กลับ เป็น 4 ช่องจราจรไป-กลับตลอดเส้นทาง ตามนโยบายและการผลักดันของนายศักดิ์สยามชิดชอบ รมว.คมนาคม ในการอำนวยความสะดวก และสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง ทั้งยังสนับสนุนการขนส่งสินค้าอีกด้วย ประกอบกับเส้นทางดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่มีความสำคัญเชื่อมระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(อีสาน) และภาคตะวันออก
อย่างไรก็ตามโครงการดังกล่าวนั้น ทล.ได้เสนอไปยังกระทรวงคมนาคม ตั้งแต่เมื่อช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา และได้ประสานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ ทล.ได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสม และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) รวมทั้งศึกษารูปแบบในการขยายเส้นดังกล่าว ซึ่งจะใช้ต้นแบบ (โมเดล) ของทางหลวงหมายเลข 304 สาย อ.กบินทร์บุรี-อ.ปักธงชัย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอความเห็นจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก(กอม.) ขณะเดียวกัน ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม(ทส.)เพื่อให้ ทล.เข้าพื้นที่ไปสำรวจและศึกษาความเหมาะสม ซึ่งคาดว่า จะมีมติเห็นชอบให้ ทล.เข้าพื้นที่ในช่วงต้นปี 2564 หรือรวมใช้เวลาประมาณ 1 ปี หลังจากที่ ทล.ได้เสนอเรื่องไปตั้งแต่ต้นปี 2563
ขณะที่ ในส่วนของ ทล. นั้น อยู่ระหว่างการตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 เพื่อนำมาดำเนินการจ้างสำรวจและออกแบบรายละเอียด พร้อมศึกษา EIA ตลอดเส้นทาง ระยะทาง 48 กม. รวมกับเส้นทางโครงการช่วงที่ตัดผ่านเขาช่องตะโก ระยะทาง 3 กม. ทั้งนี้ หาก ทล.ได้รับการอนุมัติให้เข้าพื้นที่ รวมถึงได้รับการจัดสรรงบประมาณในการศึกษาความเหมาะสมโครงการแล้วนั้น จะเสนอรายงานไปยังคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (คชก.) และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) พิจารณาอนุมัติแนวทางต่อไป
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นจะเป็นแนวทางที่มีลักษณะคล้ายกับการดำเนินการก่อสร้างสาย 304 เชื่อมผืนป่าฯ โดยเมื่อศึกษาความเหมาะสมแล้วเสร็จ ทล.จะเสนอโครงการฯ ไปยังสำนักงบประมาณ เพื่อขออนุมัติงบประมาณในการก่อสร้างภายในปี 2567 ส่วนจะใช้งบประมาณเท่าไหร่นั้น ต้องขึ้นอยู่ที่ผลการศึกษาโครงการฯ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถเริ่มก่อสร้างในปี 2568 และแล้วเสร็จภายในปี 2571
“สำหรับเส้นทางดังกล่าว ในตอนนี้ ยังเป็นอุปสรรคหลักต่อการเดินทาง และการขนส่งสินค้า เนื่องจากเส้นทางช่วงที่ผ่านเขาช่องตะโก มีขนาด 2 ช่องจราจร คันทางแคบ ลาดชัน คดเคี้ยว รวมถึงมีปริมาณจราจรหนาแน่น และเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง รวมถึง ทล.ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่ไม่ได้รับความสะดวกในการใช้เส้นทาง” นายสราวุธ กล่าว
นายสราวุธ กล่าวต่ออีกว่า ทล.ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญและคำนึงถึงการพัฒนาเชื่อมโยงโครงข่ายทางหลวงคมนาคมบนพื้นฐานของการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน จึงได้ดำเนินโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 348 ช่วงช่องเขาตะโก เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดการสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้ทาง ทั้งยังช่วยเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์ของประเทศ รวมถึงอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศ ภายใต้การพัฒนาเชื่อมโยงโครงข่ายทางหลวงคมนาคมควบคู่ไปกับใส่ใจและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
รายงานข่าวจาก ทล. แจ้งว่า ในส่วนของค่าก่อสร้างโครงการฯ นั้น ยากที่จะประมาณการณ์ในขณะนี้ เนื่องจากการศึกษารูปแบบการก่อสร้าง จะขึ้นอยู่กับมาตรการที่ต้องดำเนินการ เพื่อป้องกันผลกระทบกับมรดกโลก (ทางเชื่อมผืนป่า/ทางสัตว์ข้ามหรือลอด) เช่น สาย 304 ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ระยะทางประมาณ 3 กม. ค่าก่อสร้างประมาณ 1,320 ล้านบาท ฯลฯ สำหรับเส้นทาง ทล.348 เป็นเส้นทางเชื่อม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว-อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ระยะทางประมาณ 140 กม. ช่วงที่ตัดผ่านเขาช่องตะโก ระยะทางประมาณ 3 กม.
สำหรับเส้นทางตัดผ่านพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้นที่ 2 และอุทยานแห่งชาติตาพระยา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งมรดกโลกดงพญาเย็น-เขาใหญ่ บริเวณเขาช่องตะโก ปัจจุบันเป็นทาง 2 ช่องจราจร ผิวทางกว้าง 6 เมตร ไม่มีไหล่ทาง ความลาดชันเฉลี่ย 6% ส่วนปริมาณการจราจรที่สัญจรผ่านเขาช่องตะโก ในช่วงวันหยุดต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 9-13 ธ.ค. 2563 (5 วัน) ที่ผ่านมา พบว่า มีปริมาณการจราจรรวม 39,650 คัน แบ่งเป็น ขาเข้าจำนวน 21,788 คัน และขาออก จำนวน17,862 คัน
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |