เปิดคำวินิจฉัยยกอุทธรณ์ "ทักษิณ" หลังดิ้นสู้ ไม่ยอมเสียภาษีขายหุ้นชินคอร์ปวงเงินกว่า 1.7 หมื่นล้าน คำวินิจฉัยระบุชัดข้ออ้างฝ่ายอุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น ให้ "โอ๊ค-เอม" เป็นตัวแทนเชิด ขายหุ้นนอกตลาดต่ำกว่าราคาตลาด ซัด เจตนาไม่สุจริตหวังเลี่ยงภาษี ทำรัฐเสียประโยชน์ ไม่ให้งดหรือลดเบี้ยปรับ
ภายหลังจากพรรคเพื่อไทย (พท.) กำลังเผชิญมรสุมทางการเมือง กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เขียนจดหมายและอัดคลิปวิดีโอเพื่อขอให้ชาวเชียงใหม่สนับสนุนผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ในนามพรรคเพื่อไทย ทั้งที่ไม่ได้เป็นผู้ช่วยหาเสียง จนเป็นประเด็นทางกฎหมายอันอาจส่งผลกระทบต่อความเป็นพรรคการเมืองของพรรคเพื่อไทย ล่าสุดมีอีกประเด็นที่น่าสนใจ
มีรายงานข่าวจากศาลฎีกาแจ้งถึงเอกสารเลขที่ สภ.3 (อธ.3)/309/2563 เป็นผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ที่ได้พิจารณาอุทธรณ์ของนายทักษิณ ชินวัตร ฉบับลงวันที่ 25 เมษายน 2560 เกี่ยวกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2549 โดยคำวินิจฉัยนี้แยกย่อยออกมาเป็นหลายประเด็น มีนายพงษ์ศักดิ์ เมธาพิพัฒน์ ผู้แทนอธิบดีกรมสรรพากร นายประภาส สนั่นศิลป์ ผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุด นายพิสิทธิ์ ศรีวรานันท์ ผู้แทนกรมการปกครอง ร่วมลงนามในคำวินิจฉัย
คำวินิจฉัยระบุว่า ให้ยกอุทธรณ์ซึ่งคัดค้านการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินตามแบบ ภงด.12-03025250-25600328-001-00005 ลงวันที่ 28 มีนาคม 2560 เป็นเงินทั้งสิ้น 17,629,585,191.00 (หนึ่งหมื่นเจ็ดพันหกร้อยยี่สิบเก้าล้านห้าแสนแปดหมื่นห้าพันหนึ่งร้อยเก้าสิบเอ็ดบาทถ้วน) ให้ผู้อุทธรณ์นำเงิน ภาษีเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม ไปชำระ ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาบางพลัด กรุงเทพมหานคร เป็นเงิน 17,629,585,191.00 บาท 00 สตางค์ (หนึ่งหมื่นเจ็ดพันหกร้อยยี่สิบเก้าล้านห้าแสนแปดหมื่นห้าพันหนึ่งร้อยเก้าสิบเอ็ดบาทถ้วน) ภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ พร้อมทั้งเงินเพิ่มตามกฎหมาย โดยคำวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ทำไว้สองฉบับ เก็บไว้ที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์หนึ่งฉบับ ส่งให้ผู้อุทธรณ์หนึ่งฉบับ ลงวันที่ 1 กันยายน 2563
ที่น่าสนใจคือ ประเด็น 8.3 ผู้อุทธรณ์กล่าวอ้างว่า หนังสือแจ้งการประเมินดังกล่าวไม่มีข้อเท็จจริง ผู้อุทธรณ์และคุณหญิงพจมานฯ ยังคงถือหุ้นชินคอร์ป ฯลฯ ในเวลานั้น พิจารณาในประเด็นดังกล่าวไว้แล้วข้างต้น ประกอบกับได้พิจารณาตามประเด็นที่ 1 และประเด็นที่ 2 จึงไม่พิจารณาในประเด็นนี้อีก
ข้อ 9 ผู้อุทธรณ์กล่าวอ้างว่า หนังสือแจ้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.12) ลงวันที่ 28 มีนาคม 2560 ไม่มีการระบุเลขที่ใบแจ้งภาษีอากร ทำให้การยื่นอุทธรณ์คัดค้านการประเมินภาษี ไม่สามารถระบุเลขที่ใบแจ้งภาษีอากร ในแบบคำอุทธรณ์ (ภ.ส.6) ได้ครบถ้วนถูกต้อง หนังสือแจ้งภาษีฯ ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น
พิจารณาแล้วเห็นว่าในคำอุทธรณ์ ผู้อุทธรณ์ได้มีการระบุเลขที่หนังสือแจ้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาไว้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว จึงไม่มีประเด็นต้องพิจารณา
ข้อ 10 ผู้อุทธรณ์กล่าวอ้างว่า การประเมินภาษีผู้อุทธรณ์เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายระเบียบ การจัดเก็บภาษีไม่เป็นไปตามบทบัญญัติประมวลรัษฎากรและไม่เป็นไปตามหลักนิติธรรม
พิจารณาแล้วเห็นว่า การประเมินภาษีผู้อุทธรณ์ เป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมายระเบียบ เป็นไปตามบทบัญญัติประมวลรัษฎากรและเป็นธรรมแล้ว ข้อกล่าวอ้างของผู้อุทธรณ์ฟังไม่ขึ้น
กรณีข้อเท็จจริงที่ผู้อุทธรณ์กล่าวอ้างเพิ่มเติมได้พิจารณาในประเด็นดังกล่าวไว้แล้วตามประเด็นที่ 1 ถึงประเด็นที่ 3 จึงไม่พิจารณาประเด็นดังกล่าวอีก สรุปการประเมินภาษีชอบด้วยกฎหมายแล้ว จึงมีมติให้ยกอุทธรณ์เสียทั้งสิ้น
ในคำวินิจฉัยยังระบุอีกว่า ประเด็นของดหรือลดเบี้ยปรับตามมาตรา 22 แห่งประมวลรัษฎากร พิจารณาแล้วเห็นว่า ตามพฤติการณ์ผู้อุทธรณ์เป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการซื้อขายหุ้นชินคอร์ปที่แท้จริงที่ต้องเสียภาษีอากร แต่ให้นายพานทองแท้ฯ และนางสาวพินทองทาฯ เป็นตัวแทนเชิดในการซื้อหุ้นชินคอร์ปจากแอมเพิลริชฯ นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด จึงมีเจตนาไม่สุจริตเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงภาษีอากรและทำให้รัฐเสียประโยชน์ จึงไม่งดหรือลดเบี้ยปรับ
ประเด็นของดหรือลดเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร สำหรับเงินเพิ่มตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากรนั้น ไม่มีบทบัญญัติใดที่ให้อำนาจงดหรือลดเงินเพิ่มได้ จึงไม่งดหรือลดเงินเพิ่ม.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |