โควิดร้ายกาจมาก! ส.ส.ขานรับเลื่อนประชุม กมธ.แก้รัฐธรรมนูญ "สิระ" ยันไม่ได้กลัวตายหรือขี้เกียจ แต่ข้าราชการ-นักข่าวกังวล ส.ส.กลับจากพื้นที่พาเชื้อเข้าสภา ขณะที่ฝ่ายค้านบ่มพึมไวรัสขวางซักฟอกรัฐบาล
เมื่อวันที่ 3 มกราคม นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่....) พ.ศ. ... ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เสนอให้มีการเลื่อนประชุม เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ว่า วันที่ 4 มกราคมจะมีการคุยกันอีกครั้ง ซึ่งการจะนำข้อเสนอแนะนี้ไปคุยกับวิปทั้งสามฝ่ายหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการประชุมที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภานัดประชุม จะไม่ฟังก็ไม่ได้ ต้องฟังนายชวนก่อน
เขากล่าวว่า ในส่วนของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จะประชุมก็ต้องมีในส่วนของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ด้วย โดย ส.ว.บอกงดประชุมแล้ว และเราจะประชุมแค่ ส.ส.อย่างเดียวได้หรือไม่ ก็ไม่ได้ ซึ่งถ้าไม่ได้ก็ต้องรอผลการประชุมของ ส.ส.ก่อน ส่วนที่บอกว่าจะไม่ทันไม่ครบ จะต้องต่อหรือไม่ ในการต่อหรือไม่ต่อนั้น การพิจารณาเรื่องกฎหมายข้อบังคับไม่ได้กำหนด
"ในส่วนที่สองที่บอกไว้ว่า 45 วัน วันนั้นในสถานการณ์ที่คิดว่าไม่มีอะไรเลย ไม่มีสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 วันนั้นจึงกำหนดไว้เช่นนั้น แต่ในเมื่อมีสถานการณ์เรื่องโควิด จึงต้องรอดูสถานการณ์เรื่องนี้ เราไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะฉะนั้นเราจะต้องดูเหตุการณ์ ถ้าวันนี้เขาสั่งปิดโรงรียนทั้งหมด แต่มีของเรามาประชุมแค่อันเดียว มันแปลกๆ ไหม เดี๋ยววันพรุ่งนี้รอดูคำตอบแล้วกัน" นายวิรัชกล่าว
นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า นายชวน วิปรัฐบาล และฝ่ายค้านต้องตระหนักให้ดีว่า หากยังยืนยันให้มีการประชุม และถ้าเกิดมีคนติดเชื้อโควิดในบริเวณรัฐสภา จะเป็นการแพร่ระบาดขึ้นมา ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"การที่ผมเสนอแบบนี้ไม่ใช่ความกลัวตายหรือขี้เกียจ แต่ผมได้รับเสียงสะท้อนจาก ส.ส. ข้าราชการ และน้องๆ สื่อมวลชน เพราะทุกคนก็กังวลต่อสถานการณ์โควิดในช่วงนี้ จึงอยากให้ลองคิดดูว่าหากมี ส.ส.สักคนหนึ่ง ที่ในช่วงปีใหม่ต่างก็เดินทางกลับภูมิลำเนาและเกิดติดเชื้อโควิดมาอยู่แล้ว เมื่อมาประชุมก็จะนำเชื้อมาแพร่ให้ ส.ส. ข้าราชการ สื่อมวลชน และบุคคลในอาคารรัฐสภา จะยิ่งตอกย้ำทำให้สถานการณ์แย่ลงอีกหรือไม่" นายสิระกล่าว
ด้าน น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในฐานะอดีตนางพยาบาลว่า มาตรการที่ลดการแพร่เชื้อในพื้นที่ที่ตนเห็นว่าควรทำคือ งดประชุมสภาออกไป 1 สัปดาห์ เพื่อให้สถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 เบาบางกว่าปัจจุบันที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ เพราะหากยังให้มีการประชุมต่อไปอาจทำให้เกิดเป็นพื้นที่เสี่ยงระบาด เนื่องจาก ส.ส.และผู้ติดตามจะเดินทางมาจากหลายพื้นที่ อีกทั้ง ส.ส.ต้องออกไปพบปะประชาชนอีกจำนวนมาก ดังนั้นควรงดประชุม
น.ส.รังสิมายังกล่าวถึงมาตรการตรวจคัดกรองในพื้นที่รัฐสภาว่า ยังทำไม่เด็ดขาด เพราะรัฐสภาปัจจุบันมีทางเข้า และออกอาคารหลายจุด ทำให้การตั้งจุดคัดกรองทำได้ไม่ทั่วถึง อีกทั้งการตรวจคัดกรองทำได้ไม่เด็ดขาด รวมถึงบางคนไม่ให้ความร่วมมือและรับผิดชอบ และที่สำคัญผู้ติดเชื้อในปัจจุบันส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อการแพร่เชื้อ หาก ส.ส.ติดเชื้อจะได้ไม่คุ้มเสีย และอาจเกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจและสังคมได้ ตนมองว่าควรจะงดการประชุมไป 1 สัปดาห์
ขณะที่นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ว่า เราจะต้องฟังความเห็นทางการแพทย์ การสาธารณสุข ประกอบกับมาตรการป้องกันของสภาจะมีความมั่นใจได้ไหมว่าเราจะไม่ใช่จุดสุ่มเสี่ยงหรือแพร่เชื้อ ถ้าความเห็นทางการแพทย์สาธารณสุขออกมาอย่างไร เราก็พร้อมที่จะรับว่าจะเลื่อนการประชุมหรือไม่เลื่อน แต่ถ้าจะเลื่อนเราจะต้องคุยกันให้ชัดเจนว่าเลื่อนไปถึงตอนไหน จะชดเชยอย่างไรเมื่อไหร่
เมื่อถามถึงผลกระทบต่อการพูดคุยเตรียมตัวอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุทินยอมรับว่ากระทบแน่นอน งานด่วนที่เราต้องรีบทำคือ 1.คณะกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีเวลาจำกัด 2.คณะกรรมาธิการกฎหมายประชามติ ซึ่งจะต้องควบคู่ไปกับรัฐธรรมนูญ และ 3.การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้ากระทบแล้วจำเป็นต้องเลื่อน เราก็ไม่ว่า แต่ต้องมีมาตรการชดเชยที่ไม่เสียหาย
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) และอดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะหยิบยกประเด็นใดขึ้นมาอภิปราย ดังนั้นการสั่นคลอนของเสถียรภาพรัฐบาลหากมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนใหญ่จะมาจากประเด็นของการอภิปราย และเราไม่ทราบว่าฝ่ายค้านจะมีแง่มุมบางอย่างเรื่องใดมาอภิปราย ยังประเมินไม่ได้ และความสามารถในการชี้แจงทำความเข้าใจของรัฐบาล แต่ถ้าพูดถึงเสียงในการสนับสนุนรัฐบาลเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา รัฐบาลยังคุมเสียงข้างมากอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปีที่ผ่านมาประเมินรัฐบาลอย่างไร หากคะแนนเต็ม 10 ให้เท่าไหร่ นายสุวัจน์กล่าวว่า อย่างเรื่องเศรษฐกิจก็ประเมินยากเนื่องจากมีโควิด-19 มาขัดจังหวะ แต่โดยภาพรวมถือว่าเรื่องเศรษฐกิจถึงแม้จะมีปัญหา แต่การเข้ามาแก้ไขหรือการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ลดปัญหาความเดือดร้อนได้ในระดับหนึ่ง ถือว่าที่ผ่านมารัฐบาลแก้ไขปัญหาได้ด้วยดี รัฐบาลสามารถประคองตัวมาได้ด้วยดี ถ้าจะให้ให้คะแนนเอาเป็นว่าสอบผ่านก็แล้วกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภาช่วงเช้าวันอาทิตย์ ว่าที่เรือตรียุทธนา สำเภาเงิน ผู้อำนวยการสำนักรักษาความปลอดภัย นำเจ้าหน้าที่จากสำนักรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ทำความสะอาด ร่วมกันทำความสะอาดและขัดล้างบริเวณด้านหน้าทางเข้าอาคารรัฐสภา ชั้น 1 กระจกบริเวณด้านหน้าทางเข้าอาคารรัฐสภา ชั้น 1 ลานจอดรถชั้นบี 2 โดยใช้รถกวาดดูดฝุ่น รวมทั้งขัดล้างโถงทางเดิน เพื่อทำความสะอาดพื้นที่รับการกลับมาทำงานของข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ที่จะกลับมาทำงานหลังจากหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 และหลังจากที่การระบาดของไวรัสโควิด-19 เกิดขึ้นระลอกสอง จนหลายพื้นที่ต้องประกาศให้เป็นพื้นที่เสี่ยงและเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในวันที่ 5 มกราคม สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรจะทำความสะอาดครั้งใหญ่ที่ห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร ห้องประชุมกรรมาธิการทุกห้อง โดยพ่นยาฆ่าเชื้อเพื่อกำจัดไวรัสโควิด-19 หลังจากที่ก่อนหน้านี้พบว่ามีผู้ที่ติดเชื้อไวรัสในพื้นที่ จ.ระยองเดินทางมายังรัฐสภาเพื่อร่วมประชุมกรรมาธิการ.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |