3 ม.ค. 64 - ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง อนาคตประเทศไทย ไปด้วยกัน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ โดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) จำนวน 1,007 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2563 – 2 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา

เมื่อถามประชาชนถึงภาพอนาคตของประเทศไทยในอีก 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 98.4 เชื่อมั่นว่า ถ้าคนไทยทุกคนรับผิดชอบต่อตนเองและสังคมสูงสุด จะช่วยคุมการแพร่ระบาดโควิดได้ รองลงมาคือร้อยละ 95.7 ระบุเป็นช่วงเวลาที่คนไทยทุกคนต้อง รู้ รัก สามัคคี รวมพลังกู้ชาติ ไม่ยุยง ทำคนในชาติแตกแยก ผ่านพ้นวิกฤตโควิดและเศรษฐกิจไปได้พร้อม ๆ กัน ร้อยละ 91.5 คาดว่า โควิดจะอยู่กับสังคมไทยไปอีกนานเหมือน ไวรัสชนิดอื่นๆ ตามฤดูกาล คนไทยทุกคนต้องเคร่งครัดรับผิดชอบตนเองและสังคม ในขณะที่ร้อยละ 91.4 มองว่า วิกฤตโควิด ทำคนไทยปรับตัวเข้าสู่ วิถีปกติใหม่ (New Normal) เอาใจใส่สุขภาพดีขึ้น ด้วยการใส่หน้ากากอนามัยติดตัวตลอดเวลา ล้างมือบ่อย เว้นระยะห่าง และร้อยละ 90.9 ระบุ วิกฤตโควิดเป็นโอกาสให้คนไทยมีน้ำใจ ช่วยเหลือ เกื้อกูล แบ่งปันความสุข ผ่านทุกข์ไปได้

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.0 ต้องการให้รัฐบาล สร้างอาคารถาวร ดูแลรักษาผู้ป่วยไวรัสโควิดและไวรัสอื่นๆ กักตัว ฟื้นฟู แยกออกเป็นการเฉพาะโรค ในขณะที่ร้อยละ 11.0 ไม่ต้องการ นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.3 ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้ความเป็นผู้นำ ไม่ใช่แค่ขู่ ผู้นำหน่วย ส่วนราชการที่ปล่อยปละละเลย คุมโควิดไม่อยู่ ให้หาคนดี คนเก่ง คนกล้า มาแทน

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า “อนาคตประเทศไทย ไปด้วยกัน” ในผลโพลนี้เป็นการนำเสนอข้อมูลความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนต่อวิกฤตโควิดและวิกฤตเศรษฐกิจที่กำลังกลับมาแพร่ระบาดส่งผลกระทบในทางที่แย่ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วทั้งประเทศในขณะนี้ ประชาชนต้องการเห็น พล.อ.ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีใช้ความเป็นผู้นำแท้จริงจัดหา คนดี คนเก่ง คนกล้า มาเป็นผู้นำหน่วยส่วนราชการในการเสริมทัพฝ่าวิกฤตทั้งหลายทั้งปวงไปได้ไม่ใช่แค่เงื้อง่าราคาแพงหรือขู่คาดโทษเพียงอย่างเดียวปล่อยให้ทุกอย่างกำลังย่ำแย่ลงไปเรื่อย ๆ จนสุดท้าย นายกรัฐมนตรีจะกลายเป็นตำบลกระสุนตก เป็นจำเลยของสังคมแต่ขบวนการทำลายผลประโยชน์ชาติ เจ้าหน้าที่รัฐที่ใส่เกียร์ว่าง อยู่ในมุมที่ปลอดภัยส่วนตัวอยู่รอดต่อไป.