2 ม.ค.64 - นายวัฒนา เมืองสุข สมาชิกกลุ่มสร้างไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟบุ๊ก โดยมีรายละเอียดดังนี้ เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา เวียดนามและอังกฤษได้ลงนามข้อตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ : Free Trade Agreement หรือ FTA) ก่อนที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) โดยก่อนหน้านั้นเมื่อเดือนมิถุนายน 2562 สมาชิกสภาแห่งชาติเวียดนามมีมติให้สัตยาบันข้อตกลงการค้าเสรีอียู-เวียดนาม ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นผลให้เวียดนามได้เปรียบไทยในทุกมิติ
สมัยแรกของรัฐบาลไทยรักไทย (2544-2548) นโยบายสำคัญคือการเจรจาเขตการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้าที่สำคัญ เช่น สหรัฐ อียู จีน อินเดีย ออสเตรเลีย เปรู อาเซียน เป็นต้น เพื่อเอามาแทนสิทธิประโยชน์ทางภาษีเช่น GSP ที่วันหนึ่งจะต้องถูกตัดอันจะทำให้นักลงทุนต้องหนีจากไทย ที่น่าเสียดายคือการเจรจาเอฟทีเอถูกฝ่ายตรงข้ามนำมาโจมตีว่าพวกเราจะขายชาติและเรียกร้องให้ทหารออกมายึดอำนาจ
เมื่อปี 2546 ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่เป็นผู้คิกออฟเอฟทีเอระหว่างไทยกับสหรัฐ โดยในขณะที่เราเริ่มการเจรจาเอฟทีเอนั้นเวียดนามยังไม่ได้เริ่มและไม่ได้อยู่ในสายตาของนักลงทุน แต่ผลของการยึดอำนาจทำให้อียูและประเทศคู่ค้าที่สำคัญไม่ยอมเจรจากับไทย ส่วนเวียดนามที่เริ่มเจรจาหลังเรานับสิบปีกลับลงนามข้อตกลงการค้าเสรีกับอียูและอังกฤษจนมีผลบังคับแล้วแต่ไทยยังไม่ได้เริ่มเจรจากับอียู อันจะทำให้นักลงทุนทั้งหลายจะหนีไทยและแห่ไปลงทุนที่เวียดนามแทน
วิสัยทัศน์และความสามารถของผู้นำที่มาจากทหารของไทยกับเวียดนามต่างกันฟ้ากับเหว จึงไม่น่าแปลกใจที่เวียดนามรบชนะฝรั่งเศสจนรวมชาติสำเร็จ ส่วนทหารไทยเก่งกับประชาชนมือเปล่าและการยึดอำนาจ แต่ไม่มีปัญญาดูแลชายแดนปล่อยให้แรงงานข้ามชาติลักลอบเข้ามาจนเกิดการแพร่ระบาดรอบใหม่สร้างความเดือดร้อนกันทั้งประเทศ แต่ในโอกาสนี้ พวกเราทำได้เพียงขอให้กำลังใจพี่น้องประชาชนให้ป้องกันตัวเอง และขอให้ผ่านพ้นโรคภัย เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งเราจะมาร่วมใจกัน “สร้างไทย” ขึ้นใหม่อีกครั้ง สวัสดีปีใหม่ 2564 ครับ
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |