2 วันอันตรายปีใหม่พุ่ง 117 ศพ! เกิดอุบัติเหตุพันครั้ง บาดเจ็บ 1,014 ราย จับเมาแล้วขับรวม 293 คดี ติด EM9 ราย ศปถ.สั่งด่านชุมชนคุมเข้มดื่มแล้วขับ-ขาซิ่ง นายกฯ กำชับทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกเต็มที่ อวยพร ปชช.เดินทางปลอดภัย
ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 โดย ปภ. และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่สองของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่ปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 586 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 74 ราย ผู้บาดเจ็บ 576 คน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 33.96, ขับรถเร็ว ร้อยละ 33.45 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 82.03 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง 66.38, ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 40.61, ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 33.45 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01-20.00 น. ร้อยละ 27.99 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ 29.38 ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,927 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 61,710 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 351,923 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 62,598 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 19,102 ราย ไม่มีใบขับขี่ 16,135 ราย
โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (26 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (5 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (32 คน) สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 2 วันของการรณรงค์ (29-30 ธ.ค.63) เกิดอุบัติเหตุรวม 1,000 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 117 ราย ผู้บาดเจ็บ รวม 1,014 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 26 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (36 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (จังหวัดละ 6 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (41 คน)
นายสุภัทรกล่าวว่า วันนี้ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางถึงที่หมายแล้ว และเป็นวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หลายพื้นที่งดจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ที่มีการรวมตัวของกลุ่มคนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการแพร่ระบาดของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จึงคาดว่าประชาชนจะจัดงานสังสรรค์กับครอบครัวและญาติมิตรภายในครอบครัวและเขตหมู่บ้าน ซึ่งอาจเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนจากการดื่มแล้วขับในเส้นทางสายรอง ถนนใน อบต.และหมู่บ้าน ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนได้ประสานจังหวัดดูแลความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชนในเส้นทางดังกล่าวเป็นพิเศษ โดยเน้นปฏิบัติการลดปัจจัยเสี่ยงหลักของการบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยเฉพาะขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ดื่มแล้วขับ และไม่สวมหมวกนิรภัย รวมถึงเพิ่มความเข้มข้นจัดตั้งจุดตรวจของด่านชุมชนในเส้นทางสายรอง เส้นทางเข้า-ออกชุมชนและหมู่บ้าน เพื่อป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน พร้อมคุมเข้มกลุ่มเด็กและเยาวชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้สวมหมวกนิรภัยและไม่ขับขี่ด้วยความคึกคะนอง เพื่อสร้างการสัญจรปลอดภัยในช่วงเทศกาลปีใหม่
นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า สถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติ เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2563 ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการควบคุมเข้มงวดช่วงเทศกาลปีใหม่ มีจำนวน 309 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 251 คดี, คดีขับเสพ 49 คดี และขับรถประมาท 9 คดี ส่งผลให้มียอดสะสมสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติระหว่างวันที่ 29-30 ธ.ค.2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 407 คดี จำแนกเป็น ขับรถขณะเมาสุรา 293 คดี, ขับเสพ 99 คดี ขับรถประมาท 15 คดี จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถในขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ 1.อุบลราชธานี 52 คดี 2.ชัยภูมิ 27 คดี และ 3.นครราชสีมา 20 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่งานคุมประพฤติในวันที่ 2 ของช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 และ พ.ศ.2564 พบว่า คดีขับรถในขณะเมาสุรา ปี พ.ศ.2563 จำนวน 5 คดี และปี พ.ศ. 2564 มีจำนวน 251 คดี เพิ่มขึ้น 246 คดี
ทั้งนี้ มีผู้กระทำผิดเมาแล้วขับ จับติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว หรือกำไล EM แล้ว 9 ราย โดยมีเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัย ในช่วงเวลาตั้งแต่เวลา 22.00-05.00 น. เป็นระยะเวลา 7-30 วัน นอกจากนี้ ได้กำชับสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ เฝ้าติดตามและควบคุมดูแลผู้กระทำผิดตลอด 24 ชั่วโมงผ่านศูนย์ควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring Control Center - EMCC) พร้อมประสานเครือข่ายภาคประชาชน อาสาสมัครคุมประพฤติ เตรียมพร้อมลงพื้นที่หากมีการผิดเงื่อนไขคุมความประพฤติ"
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ติดตามสถานการณ์การเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมเน้นย้ำมาตรการลดอุบัติเหตุในเทศกาลปีใหม่ 2564 ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มีจุดบริการประชาชนอย่างเพียงพอ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งยังกำชับให้เพิ่มความรัดกุมเกี่ยวกับมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากเป็นการเดินทางในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงขอให้ทุกหน่วยงานเพิ่มความรัดกุมในมาตรการเฝ้าระวัง ทั้งในส่วนของการบริการรถสาธารณะ จุดพักรถบริการประชาชน ตลอดจนจุดที่มีการรวมตัวของคนหมู่มาก เช่น ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น
"นายกฯ แสดงความห่วงใยในการเดินทางกลับภูมิลำเนา แม้ปีนี้ประชาชนจะเดินทางกลับไม่มากเมื่อเทียบกับทุกปีที่ผ่านมา แต่ก็ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง มีสติ ไม่ประมาท งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และยังอวยพรให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย ขอให้ผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปได้โดยเร็ว" รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ระบุ
ที่ จ.นครราชสีมา เวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพช่วงผ่านจังหวัดนครราชสีมา มีปริมาณรถยนต์มากในบางจุด แต่โดยส่วนใหญ่การจราจรบนถนนมิตรภาพจะเริ่มโล่งเบาบาง สามารถเคลื่อนตัวได้ดี โดย พ.ต.อ.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ปีนี้ไม่มากเหมือนทุกปี น่าจะมาจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาด และประชาชนส่วนใหญ่ทยอยเดินทางออกจากกรุงเทพฯ กลับภูมิลำเนาภาคอีสานช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา
ที่ จ.ชัยนาท การจราจรบนถนนสายเอเชียช่วงผ่านจังหวัดชัยนาทในวันสิ้นปียังคงมีปริมาณรถมากต่อเนื่อง แต่การจราจรยังคล่องตัว มีชะลอตัวบ้างเล็กน้อย บริเวณสี่แยกหางน้ำสาคร อ.มโนรมย์
ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารเทศบาลนครยะลา อ.เมืองฯ จ.ยะลา นายอนุศิษฏ์ อาแวปาโอะ นายสถานีเดินรถยะลา เปิดเผยว่า ปีนี้บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา เนื่องจากประชาชนมีความกังวลในเรื่องของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงมีการยกเลิกการเดินทางไปพอสมควรประมาณ 30-40%.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |