หยาบช้า...
    ใครที่ข้องใจว่า แค่ขายกุ้งที่สนามหลวง ทำไมต้องใช้ตำรวจควบคุมฝูงชน ๓ กองร้อยล้อมจับ ให้ไปดูการขยายผลของม็อบ ๓ นิ้ว หลังพวกตัวเองถูกจับ
    ในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของนายเพนกวิน แสดงให้เห็นถึงความระยำ 
    ไม่ทราบว่าพ่อแม่สั่งสอนมาอย่างไร?    
    หรือสอนแล้วลูกไม่จำ 
    หรือไม่เคยสอนกันเลยตั้งแต่ปู่ย่าตายาย
    ครับ...มีคนแนะนำว่าแคปหน้าจอไว้แล้วนำไปประกอบในสำนวน ความผิด ม.๑๑๒ ได้เลย
    ม.๑๑๒ มันเล็กไปแล้วครับ พวกนี้ต้องการให้ฟ้อง ม.๑๑๒ เยอะๆ เพื่อนำไปขยายผลให้สื่อต่างประเทศและเอ็นจีโอบางกลุ่มโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทย
    สถานที่สำหรับขายกุ้ง หรือเผากุ้งขาย มีเยอะตามตลาด ตามชุมชน หากจะช่วยพ่อค้าแม่ค้าให้ขายกุ้งได้ ช่วยประชาชนซื้อกุ้งราคาถูก ต้องไปที่แบบนั้น 
    แต่การนำกุ้งมาสนามหลวง ถนนราชดำเนิน อนุสรณ์สถาน ๑๔ ตุลาคม แล้วอ้างว่าไปขาย เจตนามันชัดเจนว่าไม่ใช่ขายกุ้ง 
    ควรยอมรับกันอย่างลูกผู้ชาย เด็กเลวพวกนี้รู้แก่ใจ ใส่ชุดการ์ด เสื้อเกราะ มันเคลื่อนไหวทางการเมืองชัดๆ 
    แต่ขายกุ้งบังหน้า
    ฉะนั้น อย่าไปตอแหลในโซเชียลว่า แค่ขายกุ้งก็ถูกจับ 
    ระวังมีคนย้อนศร เล่นงานม็อบ ๓ นิ้วด้วยพล็อตเรื่องลักษณะนี้ มันจะจุก พูดไม่ออก 
    ฉะนั้นเมื่อฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ห้ามชุมนุม ในวิกฤติโควิด เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมโดยชอบด้วยกฎหมาย 
    ก็ถือว่าถูกต้องแล้ว
    ประเด็นของนายเพนกวิน คนไทยต้องจำให้ขึ้นใจว่า นี่คือขบวนการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์
    มิใช่การปฏิรูปสถาบัน
    เมื่อแกนนำ ๓ นิ้วเปิดไพ่ใบสุดท้ายออกมาแล้ว ใครหน้าไหนที่ยังชื่นชมว่าการเคลื่อนไหวของม็อบ ๓ นิ้ว เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ไม่มีเรื่องอื่นเจอปน ให้ฟังธงได้เลย คนๆ นั้นคืออีแอบ 
    แอบอยู่ข้างหลังเด็กเพื่อล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ 
    พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล คณะก้าวหน้า รู้สถานะของตนเองดีที่สุดว่าคิดอย่างไรกับสถาบันพระมหากษัตริย์
    นักวิชาการอย่าง ชาญวิทย์ เกษตรศิริ  และบรรดาลูกหาบในธรรมศาสตร์ ไม่เคยห้ามปราม มิให้แกนนำ ๓ นิ้วหยาบคาย ปะทุษร้าย สถาบันพระมหากษัตริย์ 
    กลับยุยงส่งเสริมอยู่บ่อยครั้ง 
    เตือนไว้ จุดจบของกบฏทดโทร่ห์ ไม่ดีแน่นอน
    ไม่ใช่การข่มขู่ แต่คือสัจธรรม
    คนเลว หยาบช้า ระยำ ต้องได้รับผลกรรมที่สาสม.