31 ธ.ค.63 - เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า สถานการณ์ประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 194 ราย ในจำนวนนี้อยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 13 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 181 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 6,884 ราย หายป่วยสะสม 4,240 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,583 ราย เสียชีวิตสะสม 61 ราย อย่างไรก็ตาม แม้วันนี้ตัวเลขอยู่ที่ 194 ราย น้อยกว่าเมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ที่มีถึง 250 ราย แต่ไม่อยากให้นิ่งนอนใจ เพราะตัวเลขต่างๆ ยังไหลเข้ามา มันบวกเพิ่มขึ้นได้ เรากำลังรวบรวมข้อมูลให้ชัดเจนที่สุด ถึงอย่างไรก็ยังไม่น่าไว้วางใจ และตนได้รับคำบอกเล่าจากนักวิชาการระบุว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันโรค นอกจากใส่หน้ากากอนามัยแล้วคือ การเว้นระยะห่าง

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการติดเชื้อในประเทศ 181 รายนั้น เชื่อมโยงกับกรณี จ.สมุทรสาคร 11 ราย เชื่อมโยง จ.ระยอง 1 ราย คัดกรองเชิงรุกแรงงานต่างด้าว 9 ราย มีประวัติเข้าไปในสถานบันเทิง สถานที่ชุมชน อาชีพเสี่ยง 32 ราย และอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค 128 ราย ในจำนวนนี้มีมากที่สุดใน จ.ระยอง 77 ราย ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงานขึ้นไป มีทั้งมีอาการและไม่มีอาการ ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อกระจายไปแล้ว 51 จังหวัด ที่เพิ่มมาใหม่คือ หนองคาย มหาสารคาม และกาญจนบุรี ซึ่งผู้ติดเชื้อกระจุกตัวอยู่ที่ กทม. ปริมณฑล และภาคตะวันออกคือ ระยอง ชลบุรี จึงขอให้จังหวัดที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ 20 กว่าจังหวัด เข้มข้นเรื่องมาตรการ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เรายังใช้จำนวนผู้ติดเชื้อเป็นหลักเกณฑ์ในการแบ่งแยกพื้นที่เป็น 4 ส่วน เพื่อกำหนดมาตรการ จึงขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 83,060,536 ราย เสียชีวิต 1,812,050 ราย และจากข่าวที่มีการเผยแพร่ในวันนี้ ประเทศเกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 1 หมื่นคนในระยะเวลา 10 วัน เป็นการติดเชื้อระลอกที่ 3 ที่รุนแรงที่สุด ทำให้เขาอาจต้องล็อคดาวน์ทั่วประเทศ ขณะที่ประเทศญี่ปุ่นมีผู้ติดเชื้อถึง 3,852 รายภายในวันเดียว ทำให้มีมาตรการห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ 28 ธ.ค.63 – 31 ม.ค.64 เหล่านี้เราต้องนำมาเรียนรู้เพื่อป้องกันประเทศของเรา