'สถานทูตจีน' อวยพรปีใหม่ขอให้ชาวไทยสุขภาพแข็งแรง ร่วมมือกันเอาชนะโควิด-19


เพิ่มเพื่อน    

31 ธ.ค.63 - เพจเฟซบุ๊ก Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เผยแพร่คำอวยพรปีใหม่ 2564 ของนายหยาง ซิน อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ดังนี้ ในโอกาสปีใหม่ 2564 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ข้าพเจ้าในนามของสถานทูตจีนประจำประเทศไทย ขออวยพรปีใหม่ให้กับประชาชนชาวไทยและเพื่อนมิตรจากทุกแวดวงที่ห่วงใยและสนับสนุนการพัฒนาความสัมพันธ์จีน - ไทย

ปี 2563 เป็นปีที่มีความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์สำหรับการพัฒนาของจีน จีนประสบความสำเร็จในการขจัดความยากจนและสร้างสังคมกินดีอยู่ดีอย่างรอบด้าน การประชุมเต็มคณะครั้งที่ 5 ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีนสมัยที่ 19 ได้กำหนดทิศทางการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ปี ฉบับที่ 14 และเป้าหมายการพัฒนาปี 2035 โดยวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเริ่มต้นสร้างประเทศให้เข้มแข็งและทันสมัยแบบสังคมนิยมอย่างรอบด้าน

จีนเป็นประเทศแรกๆที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจะเป็นเศรษฐกิจหลักของโลกเพียงแห่งเดียวที่ GDP เป็นบวกได้ ซึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและพลังขับเคลื่อนในการฟื้นตัวและการเติบโตของเศรษฐกิจโลก จีนประสบความสำเร็จในการจัดงานมหกรรมแสดงสินค้านำเข้านานาชาติจีน(China International Import Expo)ครั้งที่ 3 และได้ลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งจะสร้างคุณูปการต่อเศรษฐกิจโลกแบบเปิดกว้าง เมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบศตวรรษและผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ จีนยึดมั่นในแนวคิดการร่วมอนาคตของมนุษยชาติ จับมือกับประเทศอื่นๆ เพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19 สนับสนุนพหุภาคีนิยมและบทบาทของสหประชาชาติในกิจการระหว่างประเทศอย่างแน่วแน่และเสนอภูมิปัญญาของจีนในการบริหารจัดการกิจการระหว่างประเทศ

ปี 2563 เป็นปีที่ไม่ธรรมดาปีหนึ่งในประวัติศาสตร์การพัฒนาความสัมพันธ์จีน -ไทย ในปีนี้ ทั้งสองประเทศได้เฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งสองฝ่ายได้เสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจทางการเมือง ขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้า กระชับการแลกเปลี่ยนทางสังคมวัฒนธรรมให้มีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น ทำให้ความร่วมมือทุกมิติประสบผลสำเร็จอย่างงดงาม และยังคงแสดงบทบาทต้นแบบที่ดีในความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศสมาชิกอาเซียน

ในเดือนกรกฎาคม ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้สนทนาทางโทรศัพท์กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย ทั้งสองฝ่ายบรรลุความเห็นพ้องกันใหม่ เพิ่มแรงขับเคลื่อนใหม่และชี้ทิศทางใหม่สำหรับการพัฒนาความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีน-ไทย

ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ท่านหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ถือเป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนแรกที่ได้รับเชิญมาเยือนไทยหลังจากการแพร่ระบาดของโควิด-19  ในความร่วมมือต่อต้านการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประเทศจีนและไทยและประชาชนทั้งสองประเทศร่วมมือร่วมใจเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงมิตรไมตรี "จีน-ไทยใช่อื่นไกล พี่น้องกัน" ด้วยการปฏิบัติจริง อีกทั้งยังสร้างคุณูปการต่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการต่อสู้กับโควิด-19ด้วย

ในช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ มูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างจีน-ไทยเพิ่มขึ้น 9.6%อย่างสวนกระแส ในช่วงสามไตรมาสแรก คำขอรับการส่งเสริมลงทุนในไทยจากจีนมีจำนวน 129 โครงการ เงินลงทุน 21,200 ล้านบาท ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามสัญญารถไฟความเร็วสูงจีน-ไทยสัญญา 2.3 ความร่วมมือในด้าน 5G ธุรกิจการค้าอี-คอมเมิร์ซและวัคซีนได้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ความสัมพันธ์จีน-ไทยได้ยกระดับดีขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งในการร่วมต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโควิด-19

มองไปในปี 2564 ที่กำลังจะมาถึงความร่วมมือจีน-ไทยมีอนาคตที่สดใสและมีผลลัพธ์ที่คาดการณ์ได้ ข้าพเจ้าเชื่อว่าด้วยความพยายามร่วมกันของทั้งสองฝ่าย เราจะสามารถขยายผลประโยชน์ร่วมกันและบรรลุความสำเร็จอย่างงดงาม ขอให้เราร่วมมือกันเพื่อต้อนรับอนาคตที่สดใสของความสัมพันธ์จีน - ไทยและนำมาซึ่งความผาสุกแก่สองประเทศและประชาชนของสองประเทศ

ขออวยพรให้เพื่อนมิตรทุกท่าน มีความสุขสวัสดิ์ในวันขึ้นปีใหม่ ขอให้มิตรภาพจีน - ไทยเจริญรุ่งเรืองและคงอยู่ตลอดไป ขอให้จีนและไทยประสบความสำเร็จในการเอาชนะการแพร่ระบาดของโควิด-19 และขอให้ทุกท่านที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทยจงมีสุขภาพแข็งแรง


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"