ปัญหาตอนนี้.....

            บางเรื่องมันเป็นผลของกรรมที่นายกฯ สั่งสมไว้เอง

            แล้วจะโทษใครล่ะ?

            เช่น เรื่องตำรวจและมหาดไทย เรื่องราวมันฟ้องว่า สังคมไป ประชาชนไป แต่คนในระบบ...ไม่ (ยอม) ไป

            นายกฯ เข้ามาบริหารประเทศ พฤษภา ๒๕๕๗ รับปากประชาชน จะปฏิรูประบบราชการ
            โดยเฉพาะตำรวจ-อัยการ-มหาดไทย-การศึกษา ที่วงจรสัมพันธ์รากฐานประเทศ และความสุข-ความทุกข์  ความเป็นธรรม-ไม่เป็นธรรม กับประชาชนมากที่สุด

            แล้วนี่ก็ "เข้าปีที่ ๗"

            ไหนล่ะ...ปฏิรูป?

            มีแต่ลูบหน้าปะจมูก แรงงานเถื่อนเกลื่อนเมือง เจ้ากระทรวง มท.บอก "แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายยังไม่มีใครทราบข้อเท็จจริง"

            เมื่อ "กรมเวียง" หนึ่งในสี่ "จตุสดมภ์" ไม่ทราบ.....

            แล้วในประเทศนี้ ใครทราบครับ เฮียม้อที่มหาชัยทราบมั้ย?

            ตอนประชุม ครม.ทุกกระทรวงมาพร้อม ทำไมไม่เสนอให้มีการสังคายนา สำรวจเอาตัวเลขแรงงานต่างด้าวทั้งถูก-ทั้งเถื่อนทั่วประเทศ มาเข้า "ฐานข้อมูล" ประเทศล่ะ?

            ถ้าจริงอย่างที่ "พลเอกอนุพงษ์" พูดวันก่อน ที่ว่า......

            "สำหรับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายยังไม่มีใครทราบข้อเท็จจริง และไม่มีใครยืนยันว่า 'แรงงานผิดกฎหมาย' มีจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งทั่วประเทศมีจำนวน ๓-๔ แสนคน แต่เป็นตัวเลขที่เขาประเมินกัน ซึ่งผมและคนที่พูดก็ไม่มีฐานที่มาของตัวเลข แต่เป็นการประมาณการ"

                น่าห่วงนะ.....

            ยุคไอทีครองโลก ไทยประกาศจะเปิดระบบ ๕ จี ใช้เป็นเจ้าแรกในอาเซียน

            แต่มหาดไทยผู้รับผิดชอบทะเบียนราษฎร ไม่รู้ประเทศมีแรงงานเถื่อน-ไม่เถื่อน คลั่กกันอยู่เท่าไหร่?

            แล้วบริหารประเทศกันอยู่ได้อย่างไร โดยไม่รู้ตัวเลข-ไม่รู้ข้อมูล นี่ถ้าเป็นบริษัท "ลงทุนเอง" เจ๊งไป (นาน) แล้ว!

            มหาดไทย, แรงงาน, ต่างประเทศ, ตำรวจ-ตม., เกษตรฯ, อุตสาหกรรม ฯลฯ

            ต่างคน-ต่างอยู่ ต่างคน-ต่างทำมาหากิน ไม่เคยประสานงาน-ประสานข้อมูล เอาธุระประเทศกันเลยหรือ?

            บ่อนพนันเต็มบ้าน-เต็มเมือง........

            เพราะเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เอาหูไปนา-เอาตาไปขยิบ  โควิดมา แทนที่จะปรามกัน กลับปล่อยให้เปิดมั่วสุมกลางบ้าน-กลางเมือง จนโควิดแพร่เชื้อ

            เป็นแล้วยังปกปิดแหล่งที่มา กว่าจะยอมเปิดปากกับสาธารณสุขได้ มันก็แพร่ระบาดไปถึงไหนต่อถึงไหนแล้ว!

            ขนาดนั้น ตำรวจยังบอก

            "ไม่มีบ่อนพนัน มีแต่การลักลอบเล่นพนัน"?

            กุยอมเลย!

            ตั้ง "กองบัญชาการศรีธนญชัยแห่งชาติ" สังกัด "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เดี๋ยวนี้เลย ดีมั้ย?

            เหล่านี้ ไม่ใช่เพิ่งเกิด เพิ่งมี เพิ่งเป็น ในระบบราชการ มันมีมานาน ชาวบ้านก็หวังกับนายกฯ ประยุทธ์นี่แหละ  เมื่อมีอำนาจควบคุมประเทศ

            จะได้ใช้อำนาจนั้น "ปฏิรูปประเทศ" หมายถึงปฏิรูประบบราชการ ตอบโจทย์สังคมชาติซะที

            นายกฯ ก็รับปาก จะปฏิรูป ตั้งโน่น-ตั้งนี่ ซื้อเวลาไปเรื่อยเปื่อย ไม่ได้ปฏิรูปอะไรซักที

            ขึงขัง "ระบบอัยการ" อยู่วัน-สองวัน กรณีข่าวฉาวบอส-เรดบูล ถึงวันนี้ ท่าดี-ทีเหลวอีก!

            อย่างตำรวจ ท้องที่ไหน มีตำรวจหน่วยงานอื่นไปจับบ่อนในท้องที่ของตน รุ่งขึ้นจะเห็นข่าวย้ายตั้งแต่ผู้กำกับยันสารวัตร

            บางทีถึงระดับผู้บังคับการภาค อย่างกรณีบ่อนท้องที่ทุ่งสองห้อง ที่กองปราบบุกไปจับคืนวานซืน

            ระบบตำรวจ ย้ายก็คือ กวาดจากตรงนี้ ไปกองซุกไว้ก่อนตรงโน้น พอเรื่องเงียบ ให้ไปกินท้องที่อื่น ระนาบเดิม

            คือย้ายเอาข่าว ไม่ได้ย้ายแบบเอาเรื่อง-เอาโทษ แม้ที่ส่อไม่สุจริตต่อหน้าที่ก็เหมือนกัน ทำเป็นย้าย ตั้งกรรมการสอบ

            สอบไปงั้น เห็นอวยยศ-อวยตำแหน่งตามปกติ บางราย เปลี่ยนชื่อ-เปลี่ยนสกุลตบตาซะหน่อย ลอยชายกลับเหมือนเดิม

            ก่อน พ.ศ.๒๕๕๗ เป็นยังไง หลัง ๒๕๕๗ ยัน ๒๕๖๓  ที่ว่าจะปฏิรูป..ปฏิรูป ก็ลูบๆ คลำๆ นั่นแหละ!

            ลองจดชื่อนายตำรวจที่ถูกย้ายกรณีบ่อนทุ่งสองห้องหรือที่ระยองไว้คอยตรวจหวยซิ

            ดูซิว่า จะสาแก่โทษ หรือซักพัก ก็ปร๋อไปเป็นผู้การ-ผู้กำกับที่ไหนๆ ซักแห่ง คือเปลี่ยนที่ แต่คงเดิม

            เมื่อโลกหมุน สังคมโลกหมุน แต่คนในระบบราชการไม่หมุน การปีนเกลียวระหว่างอำนาจรัฐกับประชาชนสู่จุดแตกหัก จะมากขึ้น

            โควิดมารอบใหม่......

            สาวไป-สาวมา ต้นเหตุส่วนหนึ่ง ก็มาจากเหลวเละเทะของคนในระบบทั้งมหาดไทย แรงงาน ตม.และตำรวจ

            ถึงได้บอก มันเป็นผลกรรมที่นายกฯ ต้องรับ เพราะก่อไว้เอง รับปากแล้วไม่ปฏิรูป กรรมจึงย้อนสนอง

            ฟังเสียงสะท้อนจากคนพื้นที่สมุทรสาครหน่อยเป็นไร  จะได้รู้พื้นฐาน "เป็นจริง" จากปากคนพื้นที่จริง แต่ขออนุญาตแบลงก์รายชื่อผู้ถูกระบุถึง

            คุณเปลวคะ.........

                โรงงานฉันมีพม่า แต่ถ้าให้เลือก คนไทยสองคน พม่าหนึ่งคน ฉันเอาพม่า คนเราในโลกนี้ฉลาดเหมือนกันทุกชาติ 

                ถ้าเราดีกับเขา เขาก็พร้อมทำงานแบบถวายชีวิตเลย  และเขาจะเชื่อฟังเราทุกอย่าง เราไม่กดค่าแรงเขา

                ถ้าเขาทำมาก เราก็ให้ค่าแรงมากกว่าคนไทย เอาคนไทยมาแลกสองคน ฉันไม่เอาค่ะ

                ถ้าไม่มีพวกพม่า โรงงานฉันก็อยู่ไม่ได้เหมือนกัน

                คนที่เอาแรงงานพม่าเข้ามา แล้วไม่ทำให้ถูกต้อง ต้องเอาให้หนัก นายจ้างพวกนี้ เห็นแก่ตัวมาก คือไม่ไปทำให้ถูกต้อง เพราะต้องเสียเงิน เสียเวลา 

                พวกพม่าที่เข้ามาไม่ถูกต้อง ค่าแรงจะถูก โรงงานฉันทำถูกต้องตลอด พวกเขาจะไปไหนก็ได้ เขามีวีซ่ากันทุกคน เมืองสมุทรสาคร ที่พม่าเยอะ ตาหม้อ.....ตัวร้ายเลย นำพม่าเข้ามาดีนัก

                สมุทรสาครถ้าไม่มีคนชื่อเฮีย...สมุทรสาครจะดีกว่านี้เยอะเลย ดีนะลูกชายโดนยิงตายไปคน คนนั้นก็ร้าย ที่เหลือไม่เท่าไหร

                ฉันฟังข่าวแล้วก็ปลง เขาว่าพม่าอยู่สมุทรสาครสองแสน ตำรวจรู้ดี ใครก็อยากมาอยู่สมุทรสาคร ทั้งนั้น

                พม่าอยู่สองแสน แค่ตำบลเดียวค่ะ

                อยู่ทั้ง จ.สองล้านกว่า ไปที่ไหน แทบจะไม่มีคนไทยเลย พม่าทั้งนั้น เจ้าอาวาสวัดโกรกราก เป็นพระดีองค์หนึ่งใน จ.สมุทรสาคร ไม่มีเรื่องมัวหมอง 

                ท่านมีสมบัติส่วนตัวเป็นร้อยล้าน ท่านมีที่ดินของพ่อแม่ท่านมาก และอยู่ที่เจริญ ท่านไม่สนใจเรื่องเงินทองเท่าไหร่ค่ะ

                จ.สมุทรสาครจะอยู่ที่ไหน มีแต่คนพม่าพูดกัน ภาษาไทยไม่ค่อยมีค่ะ

                แต่ถ้าไม่ได้เขา เมืองไทยก็แย่ เขาไม่ได้มาแย่งงานคนไทย เพราะงานที่เขาทำ คนไทยไม่ยอมทำค่ะ

                พูดถึงสมุทรสาคร........

            ก็นึกถึง "นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี" ผู้ว่าฯ  สมุทรสาคร ที่ออกบัญชาการปราบโควิดจนตัวท่านติดเชื้อ ต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลศิริราช

            มีข่าวดีจะบอก แพทย์ยืนยัน ท่านผู้ว่าฯ ปลอดภัย จะหายดีอีกไม่กี่วัน ภริยาท่านผลตรวจเป็นลบ ไม่มีเชื้อโควิดแต่อย่างใด

            และดีขึ้นไปอีกชั้น การระบาดในพื้นที่สมุทรสาคร ลดระดับเป็นที่น่าพอใจ ไม่มีคนติดเชื้อเพิ่มแล้ว

            เท่าที่ดูข่าว ตามนโยบาย "ผู้ว่าฯ รับผิดชอบ" เอง  พื้นที่ใคร-พื้นที่มัน ตอนนี้ แต่ละจังหวัด ผู้ว่าฯ แสดงศักยภาพนำกันเข้มแข็ง

            อย่าตกตื่นกันไป ความเห็นผม ระบาดรอบนี้ ดูเหมือนน่ากลัว แต่ไม่น่ากลัว สวมหน้ากากกันไว้ ปฏิบัติตามคำแนะนำจังหวัด-สาธารณสุข

            แล้วทุกอย่างมันจะผ่านไป เหลือฝากไว้เป็นเรื่องเล่ากับลูกหลานว่า กาลครั้งหนึ่ง...นานมาแล้ว เท่านั้น

            อาหารทะเล เช่น กุ้ง หมึก ช่วงนี้เป็น "นาทีทอง" ของคนกิน ขนมาประเคนขายถูกๆ ถึงปาก ซื้อกินกันเถอะ ทำให้สุก ไม่ต้องกลัวโควิด

            สมมุติติดกับอาหารที่กินเข้าไป พอกลืนลงท้อง เจอกรดในกระเพาะ โควิดชักแหงกๆ ตายเรียบ เพราะมันแพ้กรด

            เห็น "นายอนุชา นาคาศัย" รัฐมนตรีสำนักนายกฯ นำกินกุ้งหลายวันก่อน เมื่อวาน จัดอาหารทะเล หนักทางเมนูกุ้งเลี้ยง ครม.

            กุ้งนี่ นอกจากต้มยำกุ้ง กุ้งเผา กุ้งแช่น้ำปลา กุ้งพล่า  กุ้งส้มตำ กุ้งต้มแล้ว ที่จะยักเยื้องไปเมนูอื่น นึกไม่ออก

            แต่มันมี ทำได้ร้อยแปด แต่จะแหลกล่ายหรือเปล่า...ไม่รู้ เลยอยากเสนอท่านรัฐมนตรีอนุชา

            เชิญทีมงาน "เชฟกระทะเหล็ก" หลายๆ ท่านมาแข่งคิดทำเมนูต่างๆ เป็นรายการพิเศษ ซักคนละ ๕ เมนู มีกุ้งเป็นวัตถุดิบหลัก

            "เชฟกระทะเหล็ก" ทำโชว์

            รายการจริง ประกาศให้ประชาชนทั่วไป หรือจะเป็นพ่อค้า-แม่ค้า-พ่อครัว-แม่ครัว ได้ทั้งนั้น

            สมัครเข้ามาทำอาหาร "เมนูกุ้ง" แข่งขันกัน คนละ ๓-๕ เมนู ให้เชฟกระทะเหล็กชิมแล้วตัดสิน ของใครแปลก-ใหม่ กิ๊บเก๋ และอร่อย

            รับ "กุ้งทองคำ" จากท่านนายกฯ ไปเลย!

            เป็นรายการส่งเสริมกินกุ้ง เฮฮาประสาบ้านๆ เป็นรายการโทรทัศน์ อย่าจัดตามพื้นที่ มุงกันมาก เดี๋ยวยุ่ง

            ให้สนุก อย่าคิดมาก อย่าเครียด

            เครียดแล้ว "โควิดลงกระเพาะ" ไม่รู้ด้วยนะ!