29ธ.ค.63- นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบต.  แถลงว่าในที่ประชุมที่ประชุม ศบค. วิเคราะห์ว่าการติดโรคโควิด คือมีลักษณะคือ 1.การติดจากบุคคลต่อบุคคล เป็นการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง   2. เข้าไปในพท้นที่เสี่ยงแบบไม่ทราบ และระมัดระวังตัว  3. เป็นการติดเชื้่อแบบกลุ่มก้อน เพราะไปร่วมทำกิจกรรม ไปประชุม  ไปงานเลี้ยงสังสรรค์  4. เป็นการลักลอบดำเนินการทำกิจกรรมที่ไม่ถูกกฎหมาย  ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องที่เจ็บปวดใจมาก มีการเล่นพนัน มั่วสุม  ปาร์ตี้ ทำให้ติดเชื้อเป็นกลุ่มใหญ่ เป็นภาพสีดำๆ สีเทาออกมา เป็นสาเหตุทำให้เกิดการติดเชื้อเป็นตัวเลข สองหลัก สามหลัก กันขึ้นมา เพราะตรงนี้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราป้องกัน จัดการได้ได้ และนำมาสู่กระบวนการที่จะต้องควบคุมขึ้นมา  

โดยเรายังใช้มาตรการเดิมที่ผอ.ศบค.นายกรัฐมนตรีประกาศออกมา คือ 4พื้นที่เสียง กำหนด 4พื้นที่เสี่ยง 1.พื้นที่ควบคุมสูงสุด 2. พื้นที่ควบคุมสูง 3.พื้นที่เฝ้าระวังสูง และ4.พื้นที่เฝ้าระวัง  แต่สิ่งที่สำคัญมากที่สุดในวันนี้ ที่จะแปลงไปสู่การปฎิบัติ ท่านรมว.มหาดไทย ได้ประชุมผู้ว่าฯ ในฐานะผู่ได้รับมอบอำนาจ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและอยู่ในการจัดการ เรื่องของพ.ร.บ.โรคติดต่อ เป็นผู้ที่ต้องประชุมปรึกษากับผู้ว่าราชการจังหวัด  ให้แบ่งส่วนพื้นที่จังหวัดออกเป็น 4พื้นที่เสี่ยง และภายในวนพรภายในวันพรุ่งนี้(30 ธ.ค.)จะต้องประกาศออกมา  ให้ออกไปถึงระดับอำเภอและตำบลให้ได้  แบ่งเป็นข้อที่ดีมาก เช่น ที่สมุทรสาคร มี 3อำเภอ และระยอง ก็ประกาศออกมา ปลัดมหาดไทย อธิบาย มีพื้นที่ควบคุมสูงสุดระยอง คือ อ.เเมือง  ถ้าประกาศทั้งจังหวัด จังหวัดรอบ    ๆต้องกลายเป็นสีส้มไปด้วยก็ไม่แฟร์กัเบเขา  ซึ่งอำเภอรอบๆ ก็จะเป็นเบอร์ 3 เบอร์ 4  หรือถ้าย่อยมาได้ถึงตำบล ก็จะมีความยืดหยุ่นอิสระในการใช้ชีวิตได้ดียิ่งกว่า ศบค. มท.จะร่วมกับ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดร่วมดำเนินการประเมินกำหนดพื้นที่ระดับสถานการณ์ ว่าพื้นที่นั้นอยู่ในระดับใด และจะประกาศให้ประชาชนทุกท่านให้รับทราบ 

โซนนี้ จะต้องย่อยออกไปถึงตำบล  คณะกรรมการโรคติดต่อแต่ละจังหวัดจะต้องประเมินสถานการณ์   ซึ่งประชาชนแต่ละจังหวัดต้องรอการประกาศของจังหวัดตนเอง นอกจากนี้  การขับเคลื่อน ศปก.ศบค.จังหวัดถ่ายทอดอำนาจถึงตำบล  จะเป็นโครงการเฝ้าระวังเรียกว่ารังผึ้ง  และจะต้องมีชุดตรวจเฝ้่าระวัง เร่งจับกุมคนที่มั่วสุม ทำผิดกฎหมาย 

ส่วนเรื่องในอีก 7 วัน ให้ประชาชน ร่วมมีอกับมาตรการจังหวัด ศปก.ศบค. จึงขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการดำเนินการตามประเด็นเน้นย้ำขอความร่วมมือที่กล่าวมาแล้วข้างต้น  หลังจากนี้ประมาณเวลา 7 วัศปก.ศบค. จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง หากสถานการณ์การแพร่ระบาดยังไม่ดีขึ้น ศปก.ศบค. จะพิจารณาขออนุมัติ ศบค. เพิ่มมาตรการที่เข้มขันขึ้นต่อไป

"เทศกาลปีใหม่ จาก 7 วันอันตราย นอกจากเรื่องอุบัติเหตุ โควิด ก็มีความสำคัญ เราจะยังใช้มาตรการ  7 วันอันตราย  ควบคุมการติดเชื้อ ภาครัฐ ประชาชน  เอกชน ต้องให้ความร่วมมือถ้าประชาชนไม่ร่วมมือ  เอกชนก็ย่อหย่อน เช่นกรณีคอนเสิร์ต  เราจะทบทวนมาตรการทั้งหมด "นพ.ทวีศิลป์กล่าว