29 ธ.ค. 2563 นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (บอร์ด สสว.) โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม ว่าที่ประชุมเห็นชอบแผนการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2564-2565 ซึ่งเป็นแผนที่จัดทำขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เนื่องจากสถานการณ์โรคไวรัส โคโรนา 2019 ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด โดยสาระสำคัญของแผนการส่งเสริมฯ คือ เพื่อให้เอสเอ็มอีไทยสามารถประคองธุรกิจให้อยู่รอดได้ในสถานการณ์โควิด-19 โดยมีแนวทางดังนี้
1.การบรรเทาปัญหาและฟื้นฟูธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เช่น ส่งเสริมสภาพคล่องให้เอสเอ็มอี 2.การสร้างความพร้อมให้เอสเอ็มอีในการเข้าสู่การแข่งขันในบริบทใหม่ทางเศรษฐกิจ เช่น ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการองค์กรและธุรกิจ และ 3.การปรับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้เกิดความสะดวกแก่เอสเอ็มอีในการประกอบธุรกิจ เช่นปรับแก้กฎหมายเพื่อลดอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ
รวมถึงที่ประชุมยังเห็นชอบแผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดยอม พ.ศ 2564-2565 และข้อเสนอโครงการและงบประมาณฯ ประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบในการดำเนินงานและบูรณาการร่วมกัน ซึ่งมีโครงการที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหาร สสว. เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2563 จำนวน 114 โครงการ งบประมาณ 5,334 ล้านบาท และเห็นชอบเปลี่ยนแปลงการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินสนับสนุนงบประมาณโครงการสนับสนุนเอสเอ็มอีรายย่อย จากเดิมที่จัดสรรงบประมาณให้เอสเอ็มอีโดยตรง เปลี่ยนเป็นจัดสรรเงินกองทุนผ่านหน่วยงานร่วมดำเนินการ หรือบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.) งบประมาณ 5,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ สสว. ยังได้รายงานให้บอร์ด สสว. ทราบถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอี มีดังนี้โครงการส่งเสริมเอสเอ็มอี ที่สำคัญในปีงบประมาณ 2564 ได้แก่ 1.ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่(สตาร์ท อัพ) ดำเนินการพัฒนาทักษะและยกระดับความเป็นผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจไม่เกิน 3.5 ปี เป้าหมาย 2,800 ราย โดยจะให้ที่ปรึกษาให้คำแนะนำด้านการเงิน การออกแบบและพัฒนาสินค้า ในเอสเอ็มอีภาคการเกษตร ภาคการผลิต ภาคการค้าและบริการ
2.พัฒนาวิสาหกิจรายย่อย (ไมโคร) ให้ประกอบธุรกิจอย่างมืออาชีพ ส่งเสริมพัฒนาด้านมาตรฐานและตลาดออนไลน์ ให้เอสเอ็มอีรายย่อม รายย่อย วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ โดยเน้นเรื่องการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ มีเป้าหมาย 250 ราย และการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านทางดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง มีเป้าหมาย 6,500 ราย 3.พัฒนาวิสาหกิจขนาดย่อม ให้ก้าวสู่ธุรกิจสมัยใหม่ ดำเนินการ 3 แนวทางคือ
1.ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต มีเป้าหมาย 3,000 ราย เน้นที่กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม 2.ส่งเสริมกลุ่มที่ผ่านการพัฒนาจากโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต จำนวน 100 กิจการ 3.พัฒนาศักยภาพและช่องทางการตลาด สำหรับเอสเอ็มอี เป้าหมาย 1,000 ราย เช่น การจัดงาน SME FEST จำนวน 10 จังหวัด ทั่วประเทศ
4.ส่งเสริมความรู้ด้านการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนและสนับสนุนเอสเอ็มอีที่ทำการค้าระหว่างประเทศ เป้าหมาย 2,000 ราย แนวทางการให้ความช่วยเหลือเอสเอ็มอี ผ่านระบบผู้ให้บริการทางธุรกิจ หรือการจ่ายคนละครึ่งภาคเอสเอ็มอี ขณะนี้ อยู่ระหว่างการจัดทำร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการให้ความช่วยเหลืออุดหนุนจากเงินกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผ่านระบบผู้ให้บริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจ พ.ศ. ... และคาดว่า จะนำสามารถนำเสนอคณะกรรมการส่งเสริมส่งเสริม สสว. ได้ภายในเดือนมี.ค. 2564
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |