“โควิด” คร่าชีวิตคนไทยเพิ่มอีกรายแล้ว! ทำยอดรวมเป็น 61 ราย ผงะ! ผวจ.สมุทรสาครติดเชื้อด้วย ส่วน “อนุทิน” ผลตรวจเป็นลบแต่ขอกักตัว 14 วัน “ศบค.” เปิดตัวเลขรายใหม่ 144 ราย กระจายใน 43 จังหวัด กำชับให้ทุกจังหวัดเข้ม รับหากการ์ดตกช่วงนี้อาจป่วยรายวันทะลุหลักพันหลักหมื่น “ประยุทธ์” สุดฉุนข่าวรัฐบาลปล่อยเชื้อโรคหวังประโยชน์ กทม.ทันควันออกกฎเข้มปิด 4 สถานที่ยาวตั้งแต่ 29 ธ.ค. - 4 ม.ค.
เมื่อวันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.แถลงว่ามีการยืนยันผลตรวจจากสองแล็บ โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่า มีข้าราชการระดับสูงซึ่งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาครติดเชื้อโควิด-19 โดยมีประวัติทำงานในพื้นที่อย่างหนัก แสดงให้เห็นว่ามีความเสี่ยงสูงมากในพื้นที่ แม้จะระมัดระวังตัวอย่างดีก็ตาม โดยในวันที่ 27 ธ.ค.ผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ร่วมประชุมกับข้าราชการดังกล่าวเป็นเวลา 1 ชั่วโมง แต่มีการสวมหน้ากากอนามัยตลอดการประชุม แต่กระบวนการสอบสวนโรคก็ต้องเริ่มขึ้น ซึ่งสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สมุทรสาคร และสำนักงานเขตตรวจสุขภาพที่ 5 จะรายงานเพิ่มเติม
“ผู้บริหาร สธ.ที่จะเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง คือบุคคลที่มีอาการไอและจามรดกัน พูดคุยกันใกล้ชิดโดยไม่สวมหน้ากาก นั่งประชุมอยู่ในห้องเดียวกัน มีระยะห่างไม่เกิน 5 เมตรนานกว่า 15 นาที ขอให้มารายงานตัวเพื่อสอบสวนโรค ส่วนผู้ที่ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวถือเป็นผู้เสี่ยงต่ำ ขอให้สังเกตอาการตัวเอง 14 วัน และกักตัวอยู่บ้าน”
นพ.ทวีศิลป์ยอมว่า ในวันดังกล่าวนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุขได้ลงพื้นที่เพื่อไปดูโรงพยาบาลสนามที่ จ.สมุทรสาครด้วย ขณะนี้ได้กักตัวอยู่ที่บ้าน 14 วัน ได้ตรวจหาเชื้อ 2 แบบ คือ แบบการตรวจหาภูมิคุ้มกัน (Rapid Test) และการตรวจหาเชื้อในโพรงจมูก (Swab) แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลตรวจ ซึ่งกรณีนี้ทำให้ทราบว่าพื้นที่ จ.สมุทรสาครยังน่ากังวล ยังต้องอยู่ในระดับพื้นที่ควบคุมสูงสุด และขอฝากจังหวัดใกล้เคียงให้ความสำคัญสูงสุด ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และได้แสดงความห่วงใยขอให้ทุกคนดูแลตัวเองอย่างเต็มที่ พร้อมยืนยันว่าการติดเชื้อของผู้บริหารไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทย แต่มีหลายประเทศ หลังจากนี้ให้ผู้บริหารที่อยู่ลำดับรองมาปฏิบัติหน้าที่แทน
นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวถึงสถานการณ์ประเทศไทยว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 144 ราย ในจำนวนนี้เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 15 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 115 ราย ค้นหาเชิงรุกในแรงงานต่างด้าว 14 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 6,285 ราย หายป่วยสะสม 4,180 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 2,045 ราย เสียชีวิตยังคงที่ 60 ราย โดยขณะนี้มีผู้ติดเชื้อกระจายใน 43 จังหวัด
ผวา! ติดเชื้อพุ่งเป็นหมื่น
นพ.ทวีศิลป์ยังกล่าวว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เป็นประธาน ให้ความสำคัญกับ ศบค.กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) เพื่อให้ส่งสัญญาณไปยังจังหวัดต่างๆ ตามที่มีการแบ่งพื้นที่ไว้เป็น 4 ระดับ ให้ควบคุมสถานการณ์สูงสุดตามมาตรการที่วางไว้ทุกข้อ เพราะ สธ.ให้ข้อมูลว่ามีความเป็นห่วงช่วงปีใหม่ ถ้าไม่ทำตามมาตรการที่วางไว้ตัวเลขผู้ติดเชื้อต่อวันอาจพุ่งเป็นหลักพันหลักหมื่นในกลางเดือน ม.ค.64 แต่ถ้าให้ความร่วมมือกับมาตรการต่างๆ ตัวเลขจะอยู่ที่หลักร้อย ยิ่งถ้าลดการเคลื่อนย้าย ลดการพบปะ กราฟผู้ติดเชื้อจะเป็นแบบช่วงที่ผ่านมาคือเลียบไปกับพื้นที่
“เราขอเน้นย้ำมาตรการเดิม และขอความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน ประชาชนอย่างเต็มที่ ไม่เช่นนั้นจะต้องใช้ยาแรง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังให้ปฏิบัติตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศอย่างเต็มที่ก่อน และยืนยันว่าพื้นที่ จ.สมุทรสาครเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด” นพ.ทวีศิลป์กล่าวและว่า กรณีการแชร์ภาพผู้ป่วยแล้วไม่มีบุคคลใดกล้าเข้าไปให้ความช่วยเหลือนั้น ขณะนี้มีการจัดตั้งชุดปฏิบัติการฉุกเฉินพิเศษ (Special Covid-19 Operation Team: SCOT) ที่ได้รับการอบรมเป็นพิเศษกว่า 1 พันคนกระจายไปใน 54 จังหวัด หากพบผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อโควิด-19 สามารถแจ้งไปที่สายด่วน 1669 เพื่อให้ SCOT เข้าไปดูแล
สำหรับผู้บริหารระดับสูงใน จ.สมุทรสาครที่ติดเชื้อโควิด-19 คือ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร
มีรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ในช่วงเช้า นายวีระศักดิ์ได้ประชุมร่วมกันกับนายอนุทิน โดยลงพื้นที่บริเวณตลาดกลางกุ้งและที่ศูนย์ห่วงใยคนสาคร และในเวลา 16.45 น. นายวีระศักดิ์ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ซึ่งมีลักษณะอ่อนล้า มีไข้ขึ้นสูง แพทย์ที่รักษาได้ทำการตรวจและเจาะเลือดตามขั้นตอน จนทราบแน่ชัดว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงให้ทำการแอดมิตทันที
ขณะเดียวกันที่บริเวณลานต้นโพธิ์ รพ.สมุทรสาครได้ประกาศให้ผู้สื่อข่าวที่ทำข่าวใกล้ชิดกับนายวีระศักดิ์มาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งก็มีสื่อมวลชนกว่า 100 คนเข้าคิวตรวจหาเชื้อ พร้อมกับกักตัวรอฟังผลในอีก 3 วันข้างหน้า
นายอนุทินโพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "ทราบข่าวท่านผู้ว่าฯ สมุทรสาครติดเชื้อโควิด เมื่อเช้าวันที่ 28 ธ.ค. ขอให้พวกเราทุกคนให้กำลังใจ และอวยพรให้ท่านผู้ว่าฯ วีระศักดิ์หายป่วยในเร็ววัน เพราะเป็นคนทำงานหนัก ทุ่มเท อดทน เสียสละ ซึ่งท่านก็ป้องกันตัวอย่างดี แต่ก็มาติดเชื้อ ซึ่งแพทย์บอกว่าเป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการป่วย แต่ได้ให้ท่านเข้ารับการรักษาใน รพ.แล้ว เมื่อผู้ว่าฯ เป็นผู้ติดเชื้อ ตนก็ต้องเป็นผู้เสี่ยง เพราะเพิ่งประชุมและทำงานกับท่านผู้ว่าฯ แพทย์ให้ความเห็นว่าเป็นผู้มีความเสี่ยงต่ำ เพราะใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ประชุมร่วมกัน"
"ผมต้องเฝ้าระวังอาการตัวเอง 14 วัน และวันนี้ได้ตรวจหาเชื้อตามแพทย์แนะนำแล้ว ผลเป็น negative แต่เพื่อลดความเสี่ยงของผู้อื่นที่จะต้องมาพบ มาประชุม มาทำงานร่วมกับผม และเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ จึงยกเลิกการพบปะกับบุคคลต่างๆ ทั้งหมดทันที และขอกักตัวเอง 14 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการตัวเอง ตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุขนับจากวันนี้เป็นต้นไป” นายอนุทินโพสต์
บิ๊กตู่ฉุน รบ.ปล่อยโควิด
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ครั้งที่ 3/2563 ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดจะมีมากในช่วงนี้ก็ตาม แต่เราก็รู้ที่มา ส่วนที่หลายคนออกมาพูดว่ารัฐบาลปล่อยโควิด-19 ออกมาในช่วงนี้เพื่อประโยชน์อย่างอื่น คิดว่าคนที่คิดอย่างนี้ใช้ไม่ได้ อย่าไปให้ค่าข่าวพวกนี้ เพราะรัฐบาลมีแต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้คนในชาตินั้นปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นใคร จะหวังดีหรือหวังร้ายต่อรัฐบาลก็ตาม รัฐบาลมีหน้าที่ดูแล และสิ่งที่ต้องย้ำเตือนกันอยู่เสมอคือ การสวมใส่หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง การเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือสถานที่ชุมชนแออัด หรือเป็นสถานที่ที่พูดคุยกันแล้วทำให้น้ำลาย ลมหายใจแพร่ไปสู่คนอื่นได้ ดังนั้นต้องเตือนกันทุกคน ทั้งเตือนตัวเอง คนในครอบครัว คนในสังคม
เมื่อถามถึงกรณี ผวจ.สมุทรสาครติดเชื้อโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็มีโอกาสติดได้เพราะไปดูแลประชาชนในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด ดูแลเรื่องการสร้างโรงพยาบาลสนาม ในเมื่อจะเป็นหรือไม่เป็นตรวจสอบแล้วก็รักษาพยาบาล ยาฟาวิพิราเวียร์มีเพียงพอ รักษาก็หาย ซึ่งเขาไม่ได้ไปเที่ยวเตร่มาจากที่ไหน ตนเองก็มีโอกาสติด ถ้าไปที่นั่นที่นี่เหมือนกับเขาไป แต่เมื่อเช้าวันที่ 28 ธ.ค.ได้ตรวจเลือด แต่ไม่ใช่ว่าตรวจแล้วทุกคนจะตื่นตระหนกไปเสียหมด สื่อเองควรไปตรวจ ไม่ห่วงชีวิตตัวเองกันหรืออย่างไร ไม่ได้หมายความว่าให้ทุกคนตื่นตระหนกว่าเป็น แต่อยากให้ไปตรวจสอบว่ามีภูมิต้านทานกันหรือไม่ นี่คือการตรวจหาภูมิคุ้มกัน (Rapid Test)
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่า ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนจากที่ไหนก็ตาม สรุปว่าต้องผ่านการตรวจสอบจากองค์การอาหารและยา (อย.) เสียก่อน ไม่ว่าใครจะมาประกาศอย่างไร โรงพยาบาลนั้นโรงพยาบาลนี้ จำนวนพันราย แต่ถ้าไม่ผ่าน อย.ก็เข้าประเทศไทยไม่ได้ นี่คือความห่วงใย เพราะจำเป็นต้องมีการตรวจสอบเพื่อคัดกรองคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากมีคนหลายประเภทที่ต้องฉีด เช่น คนชรา เด็ก คนมีโรคประจำตัว ซึ่งต้องรับฟังคำรับรองของแพทย์ หน่วยงานสาธารณสุข ดังนั้นวันนี้ยังไม่อยากให้ไปฉีดวัคซีน ไม่ว่าใครจะได้มาอย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งไปฉีดก่อน เพราะถ้ามีอันตรายเกิดขึ้นรัฐบาลต้องเป็นผู้รับผิดชอบอีก จะกลายเป็นว่ารัฐบาลไม่ควบคุม ซึ่งก็ได้แต่แนะนำแบบนี้ว่าทุกอย่างมันยังไม่ชัดเจน ถึงแม้ว่าจะมีความก้าวหน้าในสื่อต่างประเทศก็ตาม ขอให้ติดตามผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย เป็นห่วงประชาชนคนไทยตรงนี้จึงต้องมีกติกาและกฎเกณฑ์
“วัคซีนเราจองไป 20 ล้านโดสขั้นต้นนั้น ได้มีข้อสัญญาไว้ว่าเราสามารถมาวิจัย พัฒนา และผลิตเองได้ ซึ่งจะฉีดกันได้ครบทั้งประเทศ โดยการจองวัคซีนต้องใช้งบประมาณจำนวนหนึ่ง รัฐบาลมีวงเงินงบประมาณที่ได้ให้กับสถาบันวัคซีนแห่งชาติไปแล้วก้อนแรก 400 ล้านบาท” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ล่าสุด นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สธ.โพสต์เฟซบุ๊กว่า มีเคสเสียชีวิต 1 ราย ที่ รพ.ระยอง เป็นชายอายุ 45 ปี มีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจขาดเลือดอยู่เดิม พบประวัติมีความเสี่ยงเพราะเป็นคนโบกรถที่บ่อน จากผลตรวจวันที่ 27 ธ.ค.พบว่าติดเชื้อโควิด-19 และในเช้าวันที่ 28 ธ.ค. ผู้ป่วยมีอาการหอบเหนื่อย จึงถูกนำตัวส่ง รพ.โดยรถซาเล้งของเพื่อน แต่มีอาการหยุดหายใจระหว่างทาง เมื่อถึง รพ.แพทย์จึงทำซีพีอาร์เป็นเวลา 30 นาที แต่ไม่สามารถยื้อไว้ได้ ซึ่งผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจขาดเลือด CVA และเบาหวาน และไม่ได้ทานยาเบาหวาน โดยมารับการรักษาครั้งล่าสุดที่ รพ.ระยอง เมื่อเดือน มี.ค.63 ส่วนแพทย์ที่ให้การช่วยเหลือสวมใส่ PPE ทุกคน
ทำเนียบฯ ออกกฎเข้ม
ส่วน น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักโฆษกสำนักเลขาธิการนายกฯ ได้แจ้งแนวทางปฏิบัติงานของสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลในช่วงระบาดของโควิด-19 ว่า แนวทางปฏิบัติของสื่อมวลชนในทำเนียบรัฐบาลช่วงโควิด-19 ระบาดใหม่ ประกอบด้วย 1.สื่อมวลชนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือ เว้นระยะห่าง และวัดไข้ ติดสติกเกอร์ประจำวัน 2.การแถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของนายกฯ งดสื่อเข้าฟัง/รับชมถ่ายทอดสดผ่าน Live ไทยคู่ฟ้า ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค. 3.งดสื่อและช่างภาพบริเวณโดยรอบตึกสันติไมตรี ทั้งทางเชื่อมและประตูทุกประตู 4.หน้าตึกบัญชาการ หากให้สัมภาษณ์จะจัดราวกั้นเว้นระยะห่าง และจัดไมค์สำหรับสื่อไว้ถาม 5.การแถลงมติ ครม.ของคณะโฆษกฯ ยังปกติ แต่จะตั้งเก้าอี้เว้นระยะไว้ 6.บริเวณทางเชื่อมตึกไทยฯ และตึกภักดีฯ สำนักโฆษกจะจัดเตรียมจุดตั้งกล้องในจำนวนที่เหมาะสม และ 7.สำนักโฆษกจะยังไม่ลดจำนวนการปฏิบัติงานของสื่อมวลชนในทำเนียบฯ หากทุกท่านร่วมมือกันปฏิบัติตามข้างต้น
สำหรับกรณีมีข่าวผู้ติดตามคณะอนุกรรมาธิการศึกษาผลกระทบกาสิโนออนไลน์ที่ได้ประชุมเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.ติดเชื้อโควิดนั้น นายภัทร ภมรมนตรี อนุ กมธ.กล่าวว่า ได้เดินทางไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่โรงพยาบาลรามคำแหง ซึ่งผลที่ออกมาไม่พบการติดเชื้อ ในขณะที่นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานการประชุม กมธ.ระบุว่า ในวันที่ 21 ธ.ค.มีผู้เข้าร่วมการประชุมประมาณ 30 คน ซึ่งได้กำชับให้ทุกคนไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 พร้อมแยกกักตัว 14 วันและดูอาการของตนเองอย่างใกล้ชิด
ส่วนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ได้ส่งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่มีความเสี่ยง เพราะร่วมประชุมในวันดังกล่าวไปรับการตรวจหาเชื้อทั้งหมด 29 คน แต่ยังไม่รับทราบผล คาดว่าวันที่ 29 ธ.ค.น่าจะรู้ผล ซึ่งยังไม่สามารถไปพิสูจน์ได้ว่า ผู้ติดเชื้อนั้นติดเชื้อก่อนเข้ามารัฐสภาหรือหลังเข้ามา แต่ยืนยันรัฐสภายังไม่ใช่สถานที่ที่มีความเสี่ยง แต่เป็นพื้นที่ที่ต้องเข้มงวด โดยเน้นย้ำให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ภายในรัฐสภา
“ผมเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ว่าอย่าเกรงใจเด็กนักการเมือง ที่มาเบ่งหรืออวดว่าเป็นเด็กคนนั้นคนนี้ ไม่ต้องสนใจถ้าไม่มีหน้ากากก็ไม่ต้องเตรียมให้ ให้กลับไปหาเอาเอง” นายชวนกล่าว
นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ยอมรับว่า บุคคลต้องสงสัยจะติดเชื้อโควิดเป็นคณะทำงานของตนเองจริง โดยได้รับการแนะนำจากนายเสริมศักดิ์ การุญ อดีต ส.ส.ระยองและอดีต รมช.หลายกระทรวง โดยเมื่อพิจารณาจากประวัติด้านการศึกษาจึงรับเข้ามาเป็นคณะทำงาน แต่ไม่ได้พบกับคณะทำงานคนดังกล่าวมาระยะหนึ่งแล้ว
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการทำงานของกำลังพลในพื้นที่ จ.สมุทรสาครว่า กรมแพทย์ทหารบกได้มอบอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับการปฏิบัติภารกิจให้กำลังพล ใครมีหน้าที่อะไร ใกล้ชิดกับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง หรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำ ก็จะมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมกับภารกิจที่ได้รับมอบหมายมอบให้ ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกห่วงใยและได้กำชับการไปปฏิบัติงานให้รอบคอบดูแลตัวเอง
“ถือว่าเป็นการลงพื้นที่ปฏิบัติงานเป็นสำคัญ แม้ว่าจะเสี่ยงแต่เป็นภารกิจที่กองทัพจำเป็นจะต้องลงไปทำงาน ซึ่งสิ่งนี้กองทัพจะดูแลและให้คำแนะนำในเรื่องดังกล่าวอย่างดีที่สุด” พ.อ.หญิง ศิริจันทร์กล่าว
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงราคาหน้ากากอนามัยว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้กำชับกระทรวงพาณิชย์ให้ควบคุมราคาหน้ากากอนามัยที่ผลิตในประเทศ ให้จำหน่ายในราคาไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท และขอให้ทำตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงการค้าขายออนไลน์ด้วย หากประชาชนพบร้านค้าจำหน่ายหน้ากากอนามัยเกินราคาหรือถูกเอาเปรียบ สามารถโทร.แจ้งได้ที่ สายด่วน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง
ปิดสถานบริการยาว
ขณะเดียวกันที่ศาลาว่าการกรุงเทพฯ ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพฯ แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานครให้ดำเนินการเข้มข้นในมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมีมติให้ปิด 4 สถานที่ ได้แก่ 1.สนามม้า 2.สนามชนไก่ สนามซ้อมชนไก่ 3.สนามชนโค สนามกัดปลา สนามแข่งขันอื่นในลักษณะเดียวกัน และ 4.สถานบริการทุกประเภทที่มีกิจกรรมเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 มาตรา 3 และมาตรา 4 อาทิ สถานที่ที่ให้มีกิจกรรมเต้นรำ รำวง รองเง็ง สถานที่ที่จัดให้มีคนปรนนิบัติลูกค้า อาบอบนวด การจัดแสดงดนตรี การเต้น การจัดแสงสีเสียง การจัดอุปกรณ์ให้ลูกค้าร่วมร้องเพลง หรือร้านอาหารที่ขายสุราปิดหลังเที่ยงคืน เป็นต้น โดยให้ปิด 4 สถานที่นี้ ตั้งแต่ 29 ธ.ค.63 - 4 ม.ค.64 หลังจากนั้นจะประเมินสถานการณ์ หากจำนวนผู้ป่วยลดลงอาจจะให้เปิดบริการวันที่ 5 ม.ค.64 แต่ถ้าสถานการณ์เปลี่ยนแปลงก็จะยังคงต้องปิดต่อเนื่อง
“เปิดโอกาสให้สถานบริการ หรือผู้ประกอบการคล้ายสถานบริการปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการเป็นร้านอาหารได้ ส่วนสถานบริการหรือสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการที่มีการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม และมีการแสดงดนตรี เช่น ดนตรีสด ต้องปิดเที่ยงคืน”
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ต่างๆ นั้น สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐมได้รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ว่า พบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่คนไทย? 16 ราย ?รวมยอดผู้ป่วยสะสม? 53 ราย เป็น?คนไทย 51 ราย ต่างชาติ 2 ราย โดยขณะนี้พักรักษาตัวใน?โรงพยาบาล? 53 ราย
ขณะที่ จ.สุโขทัย พบผู้ติดเชื้อโควิค-19 เป็นเพศหญิง 1 ราย ซึ่งเดินทางจาก จ.สมุทรสาครกลับมาที่บ้านใน ต.บ้านกล้วย อ.เมืองสุโขทัย ซึ่งได้มีการกักตัวผู้ใกล้ชิดทั้ง 2 คน และเฝ้าระวังผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำอีก 8 คน
ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเลศสีมา รอง ผวจ.นครราชสีมา พร้อมคณะแถลงสถานการณ์ล่าสุดว่า มีผู้ป่วยรายใหม่อีก 1 ราย จากเดิมพบผู้ติดเชื้อรายใหม่แล้ว 6 ราย ทำให้ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในโคราชแล้ว 7 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด 26 ราย ซึ่งรายใหม่เป็นชายไทย อายุ 55 ปี ภูมิลำเนาอยู่ จ.ตราด มีอาชีพขับรถรับส่งอาหารทะเลมาจากเขตมหาชัย จ.สมุทรสาคร และเดินทางมาส่งอาหารทะเลที่ตลาดร่วมใจ อ.เมืองนครราชสีมา รวมทั้งเดินทางไปส่งอาหารทะเลที่ จ.ฉะเชิงเทรา และกลับบ้านที่ จ.ตราดบ่อยครั้ง
ส่วนที่ห้องประชุมพระนราภิบาล อ.เมืองนราธิวาส นายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.นราธิวาส พร้อมคณะแถลงว่า จังหวัดไม่มีผู้ป่วยใหม่มาแล้ว 211 วัน ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ค.ถึงวันที่ 27 ธ.ค. แต่ล่าสุดได้พบ 1 ราย พักรักษาตัวใน รพ.สุไหงโก-ลก โดยเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยสัมผัสโรคจากลูกชายที่เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ในช่วงวันที่ 13-15 ธ.ค. หลังจากที่ได้เดินทางไปร่วมงานบิ๊กไบก์ที่ อ.เกาะลันตา จ.กระบี่
ทั้งนี้ยังมีหลายจังหวัดได้ยกระดับการป้องกันและคุมเข้มโควิด-19 มากขึ้น อาทิ จ.กระบี่ ประกาศให้พื้นที่ อ.เมืองกระบี่เป็นพื้นที่เฝ้าระวังการแพร่ระบาด ยกเว้นพื้นที่เกาะพีพี และ จ.ขอนแก่น ประกาศให้ชาวขอนแก่นที่เดินทางกลับมาจาก จ.ระยอง ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.เข้ารายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่ เป็นต้น.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |