ฮื่ออ์อ์อ์...ตกลงก็เลยยังไม่รู้ว่า มีบ่อน-ไม่มีบ่อน สำหรับจังหวัดระยองฮิ ของหมู่เฮาทั้งหลาย คือถ้าว่ากันตอนแถลงข่าว ท่านผู้ว่าฯ ระยอง ท่านพูดเอาไว้ค่อนข้างชัด ว่าจำนวน ผู้ติดเชื้อ ประมาณ 36 รายนั้น ติดจากการเข้าไปนุงนังนัวเนียอยู่ภายใน บ่อน อย่างมิอาจปฏิเสธ แต่ถ้าว่ากันตามคำพูด คำจา ของผู้บังคับการตำรวจ สิ่งที่ผู้ว่าฯ ท่านหมายถึงนั้น อาจเป็นแค่ที่ แอบเล่น ของบรรดาพวกนักพนันทั้งหลาย...
---------------------------------------------------
ก็เอาเป็นว่า...สถานที่ แอบเล่น ในบ้านนี้ เมืองนี้ จะยังคงมีอยู่ในจังหวัดระยอง หรือ ณ ที่ไหนต่อที่ไหนก็แล้วแต่ แบบคึกคัก โครมคราม หรือแบบเงียบสนิท ติดทนนาน จนเจ้าหน้าที่ตำหนวด แทบไม่มีโอกาสรู้ โอกาสเห็น อันนั้น...คงต้องไปสำรวจ ตรวจสอบกันเอาเอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือ...การกลายสภาพเป็น ซูเปอร์สเปรด ส่งผลให้การติดเชื้อลุกลาม บานปลาย ไปถึงเมืองเชียงใหม่ล่ะก้าๆ โน่นเลย ก็คงหนีไม่พ้นต้องส่งผลให้ภาพพจน์ หรือภาพลักษณ์ อภิชาติ ของบรรดาเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนควบคุม ดูแล อะไรต่อมิอะไรต่างๆ ที่ว่านี้ น่าจะหมองหม่น หมองมัว หมองราศี อยู่พอสมควร...
---------------------------------------------------
ไม่ว่าจะเป็นตำหนวด...ที่ขึ้นตรงต่อการกำกับ ดูแล ของท่านนายกฯ ป.ประยุทธ์ หรือมหาดไทยที่ขึ้นตรงต่อ ป.บิ๊กป๊อก ที่ต้องคอยกำกับ ดูแล ผู้ว่าฯ แต่ละผู้ว่าฯ ไม่เพียงแต่ไม่ควรจะปล่อยให้เกิด บ่อน หรือ สถานที่แอบเล่น ใดๆ ขึ้นมาภายในจังหวัดของตัวเอง ยังลุกลามไปถึงเรื่องการค้าแรงงาน ค้ามนุษย์ ที่ต่างหนีไม่พ้นไปจาก ความรับผิดชอบ ของตัวเองไปด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งถ้าหากทั้ง ป.ประยุทธ์ หรือ ป.บิ๊กป๊อก อยู่เงียบๆ เฉยๆ ไม่พยายามต่อความยาว สาวความยืด อะไรให้มากมายนัก โอกาสที่จะ ลั้ลลา ต่อไปได้เรื่อยๆ ก็น่าจะ แบเบอร์ อยู่แล้วแน่ๆ เพราะไม่ว่าใครต่อใครที่คิดจะหัก คิดจะโค่น พี่น้อง 3 ป. มาโดยตลอด ส่วนใหญ่...ก็มัก แพ้ภัยตัวเอง กันไปเป็นรายๆ...
----------------------------------------------------
แต่ก็นั่นแหละ...การอยู่เงียบๆ เฉยๆ หรือได้ สั่งการลงไปแล้ว โดยมิอาจทราบได้ว่าจะมีรายละเอียด ความตื้น-ลึก-หนา-บาง เป็นประการใดกันบ้างนั้น แม้ว่ายังช่วยให้ทุกสิ่งทุกอย่างพอ อยู่ๆ กันไปได้ แต่การอยู่ๆ กันในลักษณะที่ว่า คงต้องยอมรับว่าออกจะ อันตราย มิใช่น้อย สำหรับความเป็นไปของบ้านเมืองในอนาคตเบื้องหน้า ที่บรรดา ความเปลี่ยนแปลง ในแต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง มันค่อยๆ ไหลเข้ามารวมกัน ไปตามความปรารถนาและต้องการของกลุ่มโน้น กลุ่มนี้ แบบชนิดเป็นระบบและเป็นกระบวนการยิ่งเข้าไปทุกที ไม่ใช่แต่เฉพาะความปรารถนาและต้องการที่จะไว้ผมยาว ไม่สวมเครื่องแบบไปโรงเรียน อยากได้ดูพอร์นฮ้ง พอร์นฮับ ฯลฯ และอะไรต่อมิอะไรเพียงแค่นั้น เท่านั้น แต่ไปไกลถึงชนิดคิดจะ พลิกฟ้า-คว่ำดิน เอาเลยก็ยังมี...
-------------------------------------------------------
อันนี้นี่แหละ...ที่ทำให้บรรดา ความเปลี่ยนแปลง ในแต่ละสิ่ง แต่ละอย่าง มันคงต้องหยิบเอามาใคร่ครวญ พิจารณา กันอย่างเป็นระบบและเป็นกระบวนการ เพื่อตั้งรับ รับมือ หรือเพื่อคลี่คลายกระบวนการเปลี่ยนผ่านในแต่ละเรื่อง แต่ละกรณี ให้มันมีโอกาสเป็นไปในแนวสันติได้บ้าง ไม่นำไปสู่การหักโค่น ทำลายล้าง หรือการต้องตอบโต้การหักโค่นและทำลาย ด้วยกรรมวิธีที่อาจนำมาซึ่ง โศกนาฏกรรมครั้งประวัติศาสตร์ ย้อนกลับคืนมาได้ง่ายๆ การเรียกร้อง เพรียกหา ถึง การปฏิรูป หรือการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง สิ่งต่างๆ ในทางที่ดีขึ้นๆ ที่ถูกกู่ก้อง ร้องตะโกน มาตั้งแต่ยุค พันธมิตร ยุค กปปส. โน่นเลย โดยมีผู้คนระดับเรือนล้านไปด้วยกันทั้งนั้น ออกมายุ ออกมาเชียร์ ออกมาชูมือตบ เป่านกหวีด กันชนิดสนั่นหวั่นไหว จึงถือเป็นกระแสความต้องการ ระดับ กระแสหลัก เอาเลยก็ว่าได้...
--------------------------------------------------------
แต่ก็คงต้องยอมรับนั่นแหละว่า...นับจาก อดีตข้าราชการ อย่างคุณพี่-คุณน้อง ป.ๆ ทั้งหลาย อันประกอบไปด้วย บิ๊กป้อม และ บิ๊กป๊อก ไปจนตลอด บิ๊กประยุทธ์ ได้ผงาดขึ้นมาเป็น รัฏฐาธิปัตย์ ยืดเยื้อ ยาวนาน อีเหลนเป๋นมาจนเกือบจะ 7 ปี 8 ปี เข้าไปแล้ว แม้จะเต็มไปด้วย ผลงาน ระดับอภิมหาศาลมากมายถึงขั้นไหน มีทั้งรถด่วน รถไฟฟ้า ขึ้นๆ-ลงๆ ไม่รู้กี่สายต่อกี่สายมีทั้งอีอีซง อีอีซี และ อี อะไรต่อ อี อะไร ไปจนถึง ไอ้ อีกเยอะแยะมากมาย แต่ในแง่ของความเปลี่ยนแปลงในเชิงที่อาจเรียกได้ว่า การปฏิรูป คงมิอาจปฏิเสธได้...ว่ามันออกจะหนักไปทาง รูดไป-รูดมา ซะนั่นแหละเป็นหลัก...
----------------------------------------------------------
จะด้วยเหตุเพราะความเป็น อดีตข้าราชการ ที่ยังคงมองเห็นถึงประสิทธิภาพ ประสิทธิผลของ ตัวบุคคล บางราย โดยเฉพาะที่ตั้งหน้า ตั้งตา เชียร์ลุง อย่างชนิดไม่ลดละ โดยไม่อยากจะมองให้ลึกเข้าไปถึง ระบบ หรือไม่ อย่างไร ก็มิอาจทราบได้ แต่เอาง่ายๆ ว่าแค่ ปฏิรูปตำรวจ ที่ไม่ว่าจะมีการตั้ง คณะกรรมการ ชุดไหนต่อชุดไหนก็แล้วแต่ ตั้งแต่รุ่น พระอาจารย์บุญสร้าง จนมาถึงรุ่นล่าสุด ที่สุภาพบุรุษผู้ใฝ่ความเป็นธรรม อย่างอาจารย์ วิชา มหาคุณ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง...ก็ดูจะออกไปทาง กอดเสา-เข่าทรุด หรือมีแต่ต้องรูดกับเสาต้นโน้น ต้นนี้ กันไปตามสภาพ...
---------------------------------------------------------
อันนี้มันเลยทำให้...กระแสหลักแห่งความปรารถนาและต้องการในอันที่จะเห็น ความเปลี่ยนแปลง ทั้งหลาย มันจึงค่อยๆ สะสมสั่งสม และค่อยๆ ตกตะกอนนอนก้น จนอาจนำมาซึ่ง อันตราย ต่อฉากสถานการณ์ในอนาคตเบื้องหน้า ดังที่ได้กล่าวเอาไว้แล้วเป็นอันตรายในระดับที่คงมิอาจ ลั้ลลา ต่อไปได้เรื่อยๆ หรืออาจถึงขั้นนำเอา โศกนาฏกรรมครั้งใหม่ กลับคืนมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้ แต่ส่วนควรจะออกรูปไหน แบบไหน อย่างไร และเมื่อไหร่ อันนั้น...คงต้องปล่อยให้เป็นภาระของผู้ซึ่งมี อำนาจ มี หน้าที่ และคงต้องมี ความรับผิดชอบ ควบคู่ไปด้วย ไปว่ากันเอาเองก็แล้วกัน...
-----------------------------------------------------------
ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก Michael Cibenko (อีกครั้ง)...“One problem with gazing too frequently into the past is that we may turn around to find the future has run out on us.- ปัญหาของการมัวแต่เหลียวหลังมองอดีต ก็คือ พอหันกลับมาเราอาจพบว่า...อนาคต...ได้ผ่านเลยเราไปแล้ว...”
------------------------------------------------------------
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |