เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ระเบียบวุฒิสภาว่าด้วยเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนอื่นของคณะกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๖๑ โดยที่เป็นการสมควรกําหนดเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนอื่นของคณะกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ และมาตรา ๒๖๓ วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่ประธานวุฒิสภา จึงออกระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบวุฒิสภาว่าด้วยเบี้ยประชุมและค่าตอบแทนอื่นของคณะกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๑”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ในระเบียบนี้
“คณะกรรมการสรรหา” หมายความว่า คณะกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
“ประธานกรรมการสรรหา” หมายความว่า ประธานกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนษยชนแห่งชาติ
“กรรมการสรรหา” หมายความว่า กรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
“ค่าตอบแทนอื่น” หมายความว่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการตามที่กําหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ
ข้อ ๔ ให้กรรมการสรรหาได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งที่มาประชุม โดยผู้ดํารงตําแหน่งเป็นประธานกรรมการสรรหาให้ได้รับในอัตราครั้งละหนึ่งหมื่นบาท และกรรมการสรรหาให้ได้รับในอัตราครั้งละแปดพันบาท และให้ได้รับเบี้ยประชุมเพียงครั้งเดียวในวันหนึ่ง
ข้อ ๕ ให้ประธานกรรมการสรรหาและกรรมการสรรหาซึ่งมีถิ่นที่อยู่นอกจังหวัดอันเป็นสถานที่ประชุมคณะกรรมการสรรหา และต้องเดินทางมาเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการสรรหามีสิทธิได้รับค่าตอบแทนอื่น และให้นําพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการมาใช้บังคับโดยอนุโลม โดยให้มีสิทธิได้รับในอัตราเดียวกับข้าราชการผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง
ข้อ ๖ การประชุมของคณะกรรมการสรรหา ต้องมีประธานกรรมการสรรหาและกรรมการสรรหาร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนกรรมการสรรหาทั้งหมดเท่าที่มีอยู่จึงจะเป็นองค์ประชุมและมีสิทธิเบิกเบี้ยประชุมตามระเบียบนี้
ข้อ ๗ ให้ประธานวุฒิสภารักษาการตามระเบียบนี้
ประกาศ ณ วันที่ ๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑
ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติทําหน้าที่ประธานวุฒิสภา
ขณะที่คณักรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้ออกประกาศว่า สืบเนื่องจากพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 มาตรา 60 กำหนดให้ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติพ้นจากตำแหน่งนับจากวันที่พระราชบัญญัติฉบับนี้บังคับใช้ (13 ธ.ค. 2560) แต่ยังคงให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่
โดยมาตรา 61 (1) (2) และ (3) กำหนดให้จัดทำระเบียบและดำเนินการเกี่ยวกับการจดแจ้ง การรับจดแจ้ง และการเลือกกันเองขององค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนและสภาวิชาชีพ และให้องค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนและสภาวิชาชีพที่ได้รับการจดแจ้งดำเนินการเลือกกันเองเพื่อเป็นกรรมการสรรหาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จึงมีมติเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2561 เห็นชอบ “ระเบียบคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจดแจ้ง การรับจดแจ้ง และการเลือกกันเองขององค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนและสภาวิชาชีพ พ.ศ. 2561” เพื่อให้มีการจดแจ้งองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนและสภาวิชาชีพซึ่งจะมีสิทธิและหน้าที่ในการเสนอชื่อผู้แทนเพื่อเลือกกันเองให้เป็นกรรมการสรรหาคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติชุดใหม่ ทั้งนี้องค์กรเอกชนที่จะยื่นคำขอจดแจ้งเป็นองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน กำหนดให้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ 1) เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นโดยบทบัญญัติของกฎหมายไทย 2) มีวัตถุประสงค์และการดำเนินการเกี่ยวข้องโดยตรงกับการส่งเสริมหรือคุ้มครองสิทธิมนุษยชน 3) มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าสองปีนับแต่วันที่จัดตั้ง และมีผลการดำเนินงานเป็นที่ประจักษ์ และ 4) ไม่มีวัตถุประสงค์ในทางการเมือง หรือแสวงหากำไรจากการดำเนินการ
อนึ่ง ระเบียบดังกล่าวอยู่ระหว่างการรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา องค์กรเอกชนและสภาวิชาชีพที่สนใจสามารถยื่นคำขอที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพื่อพิจารณาการจดแจ้งเป็นองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชน ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ระเบียบนี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และต่อจากนั้นองค์กรเอกชนและสภาวิชาชีพที่ได้รับการจดแจ้งแล้ว จะดำเนินการเลือกกันเองให้เป็นกรรมการสรรหากรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันต่อไป รายละเอียดต่าง ๆ สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ www.nhrc.or.th
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |