นิด้าโพลเผย ปชช.หาคนที่เหมาะสมเป็นนายกฯ ไม่ได้ แต่ "บิ๊กตู่" ยังเหมาะนั่งนายกฯ คนต่อไป "อนุสรณ์" ซัด " ประยุทธ์" อ้างโควิดหลบหลังโพลตลอดไม่ได้ จี้ลาออกแสดงความรับผิดชอบ "ธนกร" โต้กลับหยุดโจมตีเพียงเพื่อหวังผลการเมือง "แรมโบ้" ตบปาก "อนุสรณ์" สมองทึบ ปัญญานิ่ม ปากเสียไปวันๆ เหมือนเด็กเลี้ยงแกะ ยัน "ลุงตู่" ไม่เคยกล่าวโทษใคร มั่นใจแก้ปัญหาโควิดได้
    เมื่อวันอาทิตย์ ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลสำรวจของประชาชนเรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 4” ระหว่างวันที่ 20-23 ธันวาคม 2563 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมทั้งสิ้น 2,533 หน่วยตัวอย่าง เมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 32.10 ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้, อันดับ 2 ร้อยละ 30.32 ระบุว่าเป็นพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะบริหารงานดีอยู่แล้ว เป็นคนจริงจังกับการทำงาน ทำงานตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์ บ้านเมืองสงบไม่วุ่นวาย สามารถตัดสินใจได้เด็ดขาด ช่วยเหลือประชาชนทุกเพศทุกวัยได้อย่างทั่วถึงเหมาะสม ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อไป, อันดับ 3 ร้อยละ 13.46 ระบุว่าเป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เพราะมีประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาได้ดี มีความซื่อสัตย์ เป็นคนตรงไปตรงมา พูดจริง ทำจริง, อันดับ 4 ร้อยละ 7.74 ระบุว่าเป็นนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ (พรรคก้าวไกล) เพราะอยากได้คนรุ่นใหม่มาบริหารประเทศ เป็นคนที่มีความคิดที่ทันสมัย และชื่นชอบนโยบายพรรค 
    อันดับ 5 ร้อยละ 7.50 ระบุว่าเป็น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส (พรรคเสรีรวมไทย) เพราะเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจริง ทำจริง มีความซื่อสัตย์, อันดับ 6 ร้อยละ 2.05 ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ,  อันดับ 7 ร้อยละ 1.65 ระบุว่าเป็นนายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคกล้า) เพราะมีวิสัยทัศน์ที่ดี เป็นคนตรงไปตรงมา มีความซื่อสัตย์,   อันดับ 8 ร้อยละ 1.34 ระบุว่าเป็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) เพราะมีผลงานในการทำงานที่ดี โดยเฉพาะเรื่องโควิด-19 บริหารจัดการงานได้ดี พูดจริง ทำจริง, อันดับ 9 ร้อยละ 1.03 ระบุว่าเป็นนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ (พรรคเพื่อไทย) เพราะชอบผลงานของพรรคเพื่อไทย ชื่นชอบนโยบายพรรค และนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ (พรรคเศรษฐกิจใหม่) เพราะมีนโยบายพรรคที่ชัดเจนน่าจะช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ดี และร้อยละ 1.78 ระบุอื่นๆ ได้แก่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ (พรรคประชาธิปัตย์) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา (พรรคชาติไทยพัฒนา), นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ), นายชวน หลีกภัย (พรรคประชาธิปัตย์), นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา)นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์, นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร, นายอานันท์ ปันยารชุน
    ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 26.49 ระบุว่าไม่สนับสนุนพรรคการเมืองใดเลย, อันดับ 2 ร้อยละ 23.61 ระบุว่าเป็นพรรคเพื่อไทย,  อันดับ 3 ร้อยละ 17.80 ระบุว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ, อันดับ 4 ร้อยละ 14.92 ระบุว่าเป็นพรรคก้าวไกล, อันดับ 5 ร้อยละ 7.46 ระบุว่าเป็นพรรคประชาธิปัตย์, อันดับ 6 ร้อยละ 3.00 ระบุว่าเป็น พรรคเสรีรวมไทย, อันดับ 7 ร้อยละ 2.29 ระบุว่าไม่ตอบ/ไม่สนใจ,  อันดับ 8 ร้อยละ 1.82 ระบุว่าเป็นพรรคภูมิใจไทย, อันดับ 9 ร้อยละ 0.95 ระบุว่าเป็นพรรคกล้า, อันดับ 10 ร้อยละ 0.55 ระบุว่าเป็น พรรคชาติไทยพัฒนา 
     นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้าโพลไหนรัฐบาลได้ประโยชน์ รีบกระโดดเข้าใส่ ถ้าโพลไหนเข้าเนื้อ ติดลบ รีบออกมาปฏิเสธกล่าวโทษคนอื่น ตั้งท่าจะตรวจสอบประชาชนตั้งคำถามว่าโพลสนับสนุนรัฐบาลไปถามประชาชนแถวไหนบ้าง กลุ่มตัวอย่างเพียงพอหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์จะอ้างโควิดหลบหลังผลโพลที่อวยรัฐบาลโดยไม่ทำอะไรเลยไม่ได้ มีประชาชนเข้าไปแสดงความเห็นสวนทางกับผลโพลอย่างกว้างขวางในช่องทางต่างๆ เฉพาะป้ายปริศนาที่ไปโผล่ในกระทรวงสาธารสุข อาทิ COVID มาอีกรอบ แต่ประยุทธ์ยังอยู่, หนูการ์ดตก, ปัญหาที่ใหญ่กว่าโควิดก็คือประยุทธ์ ล้วนเป็นภาพสะท้อนอรรถาธิบายผลงานพล.อ.ประยุทธ์ได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่มีโควิดมาให้อ้าง ป่านนี้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์อาจอยู่ไม่ได้แล้ว 
    "ระหว่างการปราบม็อบกับปราบโควิด รัฐบาลยังตัดสินใจเลือกเครื่องมือไม่ถูก และไม่รู้ว่าจะปราบอันไหนก่อน ความจริงระบบสาธารณสุขพร้อม ประชาชนให้ความร่วมมือมากขนาดนี้ ยังปล่อยให้โควิดมาระบาดระลอกใหม่ ถ้าเป็นผู้นำที่มีภาวะผู้นำ ต้องประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไปแล้ว หากคิดจะใช้เป็นเพียงข้ออ้างในการกู้เงินมาเยียวยาเพิ่มคะแนน จัดซื้อจัดจ้างอย่างเร่งรีบขาดการตรวจสอบ สร้างความหวาดกลัวให้เกิดขึ้นในหมู่ประชาชน โควิดไม่กระจอก เพราะกระทบต่อสุขภาพความเป็นความตายของประชาชนที่ถูกลอยแพให้เผชิญชะตากรรมจากมาตรการรัฐที่ผิดพลาด" นายอนุสรณ์ กล่าว 
    ขณะที่นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้นายอนุสรณ์ว่า วันนี้ประเทศประสบปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 แทนที่จะช่วยกันแก้ปัญหา กลับใช้โอกาสนี้ตั้งหน้าตั้งตาโจมตีรัฐบาลและ พล.อ.ประยุทธ์รายวัน เป็นการเล่นเกมการเมืองโดยไม่สนใจความทุกข์ร้อนของประชาชน ถือว่ามีจิตใจที่อำมหิตผิดมนุษย์หรือไม่ อยากบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์มุ่งทำงานให้ประชาชนอย่างเดียว ไม่ได้สนใจผลโพล และไม่เคยมีโพลที่เป็นเครือข่ายรัฐบาลมาสนับสนุนรัฐบาลเหมือนรัฐบาลในอดีตที่นายอนุสรณ์อาจจะคุ้นเคย จึงเข้าใจแบบนั้น นายอนุสรณ์ใช้สมองส่วนไหนคิด ถึงกล่าวหารัฐบาลใช้วิกฤติโควิด-19 มาเป็นข้ออ้างในการกู้เงินมาเยียวยาเพื่อเพิ่มคะแนน ถ้าสมองนายอนุสรณ์คิดได้แค่นี้ ก็อย่าเป็นเลยรองหัวหน้าพรรค เพราะจะยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยตกต่ำ ยิ่งขณะนี้พรรคเพื่อไทยกำลังระส่ำ ขนาดคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ยังอยู่ไม่ได้ ก็เพราะมีคนอย่างนายอนุสรณ์อยู่ในพรรคใช่หรือไม่ 
    นายธนกรกล่าวถึงกรณีที่นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ออกมาโพสต์ด่ารัฐบาลว่าโง่ ไร้วิสัยทัศน์ ห้อมล้อมไปด้วยพวกทุจริตคอร์รัปชันว่า รู้สึกผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่ากับนายอาทิตย์ ท่านเป็นถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัย แทนที่จะแนะนำรัฐบาลแบบครูบาอาจารย์ กลับโจมตีรัฐบาลอย่างกับนักเลงหัวไม้ หากรัฐบาลนี้โง่ ประเทศคงมีนายอาทิตย์คนเดียวที่ฉลาด หากรัฐบาลนี้ห้อมล้อมไปด้วยพวกคอร์รัปชัน รัฐบาลที่โกงจนรัฐมนตรีบางคนติดคุก บางคนหนีออกนอกประเทศ ถึงจะเป็นรัฐบาลในดวงใจนายอาทิตย์อย่างนั้นหรือ อยากให้นายอาทิตย์ให้ความเป็นธรรมกับรัฐบาลบ้าง อย่ามีโทสาคติจนเกินไป รัฐบาลทำงานเป็นทีม มีวิสัยทัศน์ หากมีการทุจริต พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เอาไว้แน่ ขอให้เชื่อมั่น 
    นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวตอบโต้ที่นายอนุสรณ์ยืนยันนายกฯ ไม่เคยกล่าวโทษใคร เพราะที่ผ่านมาการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้รับความช่วยเหลือและร่วมมือกับคนทุกภาคส่วน และขณะนี้นายกฯ และรัฐบาลได้พยายามหามาตรการต่างๆ เพื่อยับยั้งการระบาดเชื้อโควิด-19 โดยมั่นใจว่านายกฯ และรัฐบาลสามารถแก้ไขปัญหาได้ นักการเมือง โดยเฉพาะฝ่ายค้าน และนายอนุสรณ์ ที่ไม่เคยช่วยอะไรประเทศชาติเลย มีแต่ใช้ปากเสียพูดมากไปวันๆ พูดแต่เรื่องที่ไม่มีสาระ น้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง หาประโยชน์อะไรไม่ได้ หวังดิสเครดิตนายกฯ และรัฐบาล 
    "คนเช่นนี้มักจะมีสมองทึบปัญญานิ่ม พูดอะไรไม่เป็นความจริงเลยสักนิด ทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนในตัวนายกฯ และอาจทำให้บ้านเมืองเสียหาย สร้างความขัดแย้งให้เกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายค้านก็ควรคิดทบทวนให้ดีว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ และหากเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ระวังประชาชนจะออกมาขับไล่พรรคฝ่ายค้านเช่นเดียวกัน ถ้ายิ่งปล่อยให้นายอนุสรณ์ออกมาพูด ยิ่งทำให้พรรคเพื่อไทยตกต่ำ คนปากตลาดออกมาแสดงความโง่อ่อนเขลาเบาปัญญา ในที่สุดอาจทำให้พรรคเพื่อไทยถึงจุดล่มสลายไปเรื่อยๆ เพราะประชาชนเบื่อหน่ายกับพฤติกรรมนักการเมืองปากตลาด พูดจ้อๆ รายวัน และพูดจาเหมือนเด็กเลี้ยงแกะ หวังตีกินทางการเมือง ซึ่งประชาชนคนไทยไม่ได้โง่ตามนายอนุสรณ์และพรรคเพื่อไทยหรอก" นายสุภรณ์กล่าว.