หลายคนคงคิดว่าการเป็นทายาทธุรกิจนั้นโชคดีสุดๆ สบายง่ายดาย เพราะมีรุ่นพ่อรุ่นแม่ หรือบางทีอาจจะถึงรุ่นปู่ย่าตายายปูทางสร้างกิจการเอาไว้ให้แล้ว เพียงแค่รุ่นลูกมาดูแลต่อก็สบายไม่ต้องทำอะไรแล้ว

      หารู้ไม่ การเป็นทายาทรับไม้ต่อธุรกิจของครอบครัวมีความยาก และมีแรงกดดันมากกว่าการเปิดธุรกิจใหม่เสียอีก เพราะเมื่อรุ่นพ่อรุ่นแม่สร้างและปูพื้นมาอย่างดี รุ่นลูกต้องเดินให้ไกลและต่อยอดธุรกิจให้ดียิ่งกว่าเดิม และด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจในยุคนี้ด้วย เพราะทั้งโลกที่ส่งผลกระทบต่อกัน หมุนเร็วขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการที่จะนำพาธุรกิจของครอบครัวจึงเป็นโจทย์ยากและท้าทายที่สุดของทายาทธุรกิจรุ่นใหม่อย่าง 2 คนพี่น้อง ไพโรจน์และไพรัช สิริวรวิทย์ เจ้าของแบรนด์เครื่องนอนระดับไฮเอนด์ “LINCON” (ลินคอน)

      สำหรับธุรกิจเกี่ยวกับที่นอนนั้นทำมาตั้งแต่ปี 1975 โดยคุณพ่อเป็นผู้ริเริ่ม จากช่วงแรกที่เปิดเป็นร้านขายเฟอร์นิเจอร์ แหล่งค้าวัสดุที่เป็นวัตถุดิบในการทำที่นอนอย่างผ้าทำที่นอน ผ้าบุที่นอน และอื่นๆ โดยเราจะมีโรงงานผลิตวัสดุที่เกี่ยวข้องกับการทำที่นอนหลายโรงงาน ต่อมาก็เริ่มคิดค้นที่นอน 2 ระบบ ซึ่งในสมัยนั้นที่นอนยังเป็นใยล้วน แบบสปริงยังไม่ค่อยมี จนทำให้เราได้รับรางวัลจากท่านพิชัย รัตตกุล ช่วงนั้นเรายังไม่มีแบรนด์หลัก ผลิตรุ่นหนึ่งก็ใช้ชื่อหนึ่ง จึงมีชื่อเต็มไปหมด จน พี่ชายก็คือ ไพโรจน์เรียนจบและเข้ามาช่วยคุณพ่อดูแลธุรกิจ จึงได้มีแบรนด์ HOMEMATT โดยเริ่มรับผลิตที่นอนให้กับส่วนราชการและโรงแรมต่างๆ

        ไพโรจน์ สิริวรวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เล่าว่า ด้วยประสบการณ์กว่า 45 ปีที่สั่งสมมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ เราในฐานะทายาทที่ต้องต่อยอดธุรกิจจึงมองหาตลาดใหม่ๆ โดยใช้ความเชี่ยวชาญและความชำนาญ เรามองเห็นความต้องการของลูกค้าที่เจาะลึกมากขึ้น ประกอบการ การใช้ชีวิตของคนยุคปัจจุบันนี้ มีความเสี่ยงต่อเรื่องสุขภาพร่างกาย และมีความรู้ต้องการดูแลสุขภาพของตัวเองและคนใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะคุณพ่อ-คุณแม่ จากจุดคิดนี้เองทำให้เราสร้างแบรนด์ใหม่ คือ LINCON (ลินคอน) เครื่องนอนพรีเมียมที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ เน้นเครื่องนอนที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพของแต่ละบุคคล รองรับการนอนที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ โดยการให้คำปรึกษาจากนักกายภาพบำบัด ถือว่าเป็นจุดเด่นที่เราแตกต่างจากแบรนด์เครื่องนอนอื่นๆ”

      ล่าสุดได้เปิดตัว LINCON สินค้ากลุ่มพรีเมียม พร้อมโชว์รูมเครื่องนอน LINCON SLEEP STUDIO ใน Crystal Design Center (CDC) สร้างความแตกต่างด้วยการมีนักกายภาพบำบัดมาให้คำปรึกษาและร่วมออกแบบที่นอน ตลอดจนหมอน เพื่อให้เหมาะสมกับร่างกายของผู้ใช้งานแต่ละบุคคล ร่วมค้นหาสาเหตุของการนอนไม่หลับ อาการปวดเมื่อย พร้อมช่วยปรับท่าทางในการนอนให้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ ซึ่งเราจะได้ทำการทดสอบเครื่องนอนและสัมผัสจริงก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า

      ด้านไพรัช สิริวรวิทย์ กรรมการผู้จัดการ เล่าให้ฟังว่า ด้วยแบรนด์ Lincon มีจุดเด่นคือ การเป็นเครื่องนอนที่สามารถรองรับสรีระของลูกค้าแต่ละคนได้ ก็เพราะว่าทุกวันนี้กลุ่มคนมีเงินซึ่งถือเป็น 10% จากลูกค้าในตลาดเครื่องนอนทั้งหมดนั้น เริ่มหันมาดูแลใส่ใจเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเองกันมากขึ้น พูดง่ายๆ ว่าเทรนด์นี้กำลังมา แต่ส่วนแบ่งตลาดไฮเอนด์ 10% นี้ การแข่งขันจะค่อนข้างสูงมาก เนื่องจากมีแบรนด์ใหญ่ๆ แบรนด์ดังๆ ยึดหัวหาดอยู่แล้ว ทั้งแบรนด์ไทยเองและแบรนด์นำเข้า ที่วางกลยุทธ์ทางการตลาดมาอย่างดี ดังนั้นการที่จะสู้กับแบรนด์เหล่านี้ได้ สินค้าของ Lincon จะต้องมีอะไรที่พิเศษกว่า จึงจะสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดมาได้ แบรนด์ลินคอนจึงวางตัวเองให้เป็นสินค้าพรีเมียมที่ลูกค้าสามารถ Custom Made หรือสั่งที่นอนในแบบที่ตัวเองต้องการได้ ในขณะที่เครื่องนอนพรีเมียมแบรนด์ดังๆ หลายแบรนด์ที่ราคาแพงก็ยัง Custom Made ไม่ได้เลย นี่คือจุดเด่นที่แตกต่างจากแบรนด์อื่น

      ถ้าลูกค้าเดินเข้ามาในโชว์รูมลินคอน เราจะไม่มีเซลคอยตอบคำถามเหมือนแบรนด์ทั่วไป แต่จะมีนักกายภาพฯ คอยต้อนรับและคอยถามปัญหาที่ลูกค้าประสบอยู่ เช่น การปวดคอ ปวดหลัง ปวดเอวนั้น มีสาเหตุเกิดจากที่นอนหรือเกิดจากหมอนกันแน่ จากนั้นนักกายภาพฯ ก็จะให้ลูกค้ากรอกแบบสอมถามและซักประวัติเหมือนไปโรงพยาบาลเลยครับ เมื่อได้ข้อมูลครบแล้ว นักกายภาพฯ ก็จะวัดและจัดสรีระในเรื่องที่นอนและหมอนว่าควรจะมีความนุ่ม ความแน่นของที่นอนขนาดไหนถึงจะพอดีกับลูกค้าแต่ละราย หรือหมอนที่หนุนควรใช้หมอนที่มีความสูงต่ำขนาดไหน เป็นต้น

      “เรามีความตั้งใจสร้างสรรค์ที่นอนที่มีความแตกต่าง ซึ่งเกิดจากการบ่มเพาะประสบการณ์ตลอด 45 ปีที่เราสั่งสมมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ เป็นผลจากการที่ได้เรียนรู้ในวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การเลือกสรรวัสดุแต่ละชิ้นในแต่ละส่วนของที่นอน พร้อมกับรองรับเทรนด์ของกลุ่มผู้ใช้ที่หันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น อีกทั้งยังเกิดจากการที่เราเองก็มีอายุมากขึ้น เริ่มมีปัญหาด้านการนอน จึงโฟกัสที่เครื่องนอนที่จะตอบสนองความต้องการเหล่านี้ รวมออกมาเป็นแบรนด์ใหม่ที่เราอยากนำเสนอในเจเนอเรชั่นที่สอง เพื่อความยั่งยืนต่อไป" คุณไพโรจน์กล่าวเสริม.