27 ธันวาคม 2563 สถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ยังคงมีความรุนแรงต่อเนื่องทั่วโลก โดยจากข้อมูลล่าสุดในวันที่ 27 ธันวาคม 2563 ตามเวลา 7:30 น. ในประเทศไทย พบว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มขึ้น 80,674,682 ราย  ผู้ป่วยที่เสียชีวิตมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 1,764,172 ราย  และผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาจนหายมีจำนวนสะสม 56,893,073 ราย

โดยประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยสะสมสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 19,399,441 ราย เพิ่มขึ้นกว่า 142,162 ราย และมีผู้ป่วยเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 339,744 ราย เสียชีวิตเพิ่มกว่า 1,364 ราย อันดับ 2 ประเทศอินเดีย มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 10,188,392 ราย เสียชีวิต 147,659 ราย  อันดับ 3 ประเทศบราซิล มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 7,465,806 ราย เสียชีวิต 190,815 ราย  อันดับ 4 ประเทศรัสเซีย มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 3,021,964 ราย เสียชีวิต 54,226 ราย  อันดับ 5 ประเทศฝรั่งเศส มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 2,550,864 ราย เสียชีวิต 62,573 รายอันดับ 6 ประเทศอังกฤษ มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 2,256,005 ราย เสียชีวิต 70,405 ราย  อันดับ 7 ประเทศตุรกี มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 2,133,373 ราย เสียชีวิต 19,624 รา  อันดับ 8 ประเทศอิตาลี มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 2,038,759 ราย เสียชีวิต 71,620 ราย  อันดับ 9 ประเทศสเปน มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 1,869,610 ราย เสียชีวิต 49,824 ราย  อันดับ 10 ประเทศเยอรมัน มีผู้ป่วยสะสมจำนวน 1,643,169 ราย เสียชีวิต 30,157 ราย

ด้านเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ยอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั่วโลกเกิน 80 ล้านคนแล้ว และเสียชีวิตกว่า 1.7 ล้านราย ท่ามกลางการระบาดของไวรัสกลายพันธุ์ชนิด VOC 202012/01 ที่ระบาดเร็วกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ร้อยละ 56 ลามจากอังกฤษไปยังฝรั่งเศสแล้ว หลังฝรั่งเศสยอมเปิดการเดินทางข้ามช่องแคบภายใต้การคุมเข้มมาตรการตรวจหาผู้ติดเชื้อ แต่ยังไม่เปิดพรมแดนเต็มรูปแบบจนถึงวันที่ 6 ม.ค. 2564

กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสแถลงว่า พบผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์คนแรกเป็นชาวฝรั่งเศสที่อาศัยอยู่ในอังกฤษและเดินทางจากกรุงลอนดอนกลับมาฝรั่งเศสตั้งแต่ 19 ธ.ค. ไม่มีอาการป่วยแต่เข้าสู่การกักตัวรอดูอาการ จนยืนยันผลเป็นบวกเมื่อ 21 ธ.ค. ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังติดตามบุคคลทั้งหมดที่ปฏิสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ดูแล โดยหากพบว่าบุคคลใดมีความเสี่ยงสูงก็จะให้เข้าสู่การกักตัวรอดูอาการทันที ไม่มีข้อยกเว้น นอกจากนี้ ห้องปฏิบัติการแห่งชาติจากสถาบันปาสเตอร์ในฝรั่งเศสระบุว่า ยังมีผู้ป่วยอีกหลายรายที่บ่งชี้ว่าอาจพบโควิด-19 VOC 202012/01 ตอกย้ำการระบาดจากอังกฤษเข้ามาในฝรั่งเศส