2พยานสินบนยันรับเช็ค! ‘พี่ศรี’เล็งขยี้ปมเรือยอชต์


เพิ่มเพื่อน    

 

"สุรกิจ-ประสิทธิ์" เปิดปากให้การยอมรับได้รับเช็คจากมือ "สกุลธร" จ่อเรียกบุคคลตามเส้นทางการเงินให้ปากคำ ขณะที่ศรีสุวรรณร้อง ป.ป.ช.สอบปมเรือยอชต์หรูนักการเมืองชื่อ "ธ"
    ภายหลังจากกรณีพนักงานสอบสวนกองปราบปราม (บก.ป.) ดำเนินการตรวจสอบคดีทุจริตในสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เพิ่มเติม ในสำนวนที่ 2 ซึ่งอาจเกี่ยวพันกับนายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด น้องชายของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เพราะเป็นผู้ให้เงินกับนายประสิทธิ์ อภัยพลชาญ อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และนายสุรกิจ ตั้งวิทูวณิช พนักงานบริษัทเอกชน สองผู้ต้องหาในสำนวนคดีแรกที่ถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางตัดสินจำคุก กระทั่งเมื่อสองผู้ต้องหาในสำนวนคดีแรกพ้นโทษออกมาจากเรือนจำแล้วนั้น
     ทางพนักงานสอบสวนกองปราบฯ ก็ได้มีการออกหมายเรียกให้ทั้งสองมาเข้าพบอีกครั้ง เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานในส่วนของคดีที่สองที่กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยหลังจากมีการออกหมายเรียกนายประสิทธิ์ ก็ได้ติดต่อเข้าให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวนเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา คงเหลือนายสุรกิจ ที่ยังอยู่ระหว่างการนัดหมายเข้าพบ ตามที่ได้เคยนำเสนอไปแล้วนั้น
    ล่าสุด ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางนายสุรกิจได้เดินทางมาติดต่อเข้าให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เป็นที่เรียบร้อย โดยเป็นการมาติดต่อเข้าให้ปากคำก่อนกำหนดนัดหมายเดิม ที่จะเดินทางมาให้ปากคำในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งจากการสอบปากคำดังกล่าว แม้ว่านายสุรกิจเองนั้นจะไม่ยอมกล่าวลงลึกไปถึงรายละเอียดเชิงลึกทางคดีมากนัก แต่ก็มีคำให้การบางส่วนที่ค่อนข้างเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีพอสมควร เพราะมีการยอมรับว่าเป็นผู้รับเช็คจากนายสกุลธร ก่อนส่งต่อเช็คดังกล่าวให้กับนายประสิทธิ์จริง ส่วนนายประสิทธิ์จะนำไปให้ใครต่อนั้น ยืนยันว่าไม่ทราบ
    รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับคำให้การของนายสุรกิจดังกล่าวสอดคล้องกับคำให้การของนายประสิทธิ์ ที่ยอมรับว่ามีการรับเช็คต่อมาจากนายสุรกิจจริง ก่อนจะนำไปส่งต่อให้กับบุคคลอื่นตามพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นทางการเงินที่ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบก่อนหน้านี้ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใครบ้าง ส่วนเงินสดที่ได้จากการทุจริตนั้น นายประสิทธิ์อ้างว่าจำไม่ได้ว่านำไปใช้จ่ายอะไรบ้าง อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการดำเนินการของพนักงานสอบสวนกองปราบฯ หลังจากนี้จะทำการออกหมายเรียกบุคคลที่มีหลักฐานว่าเป็นผู้รับเช็คดังกล่าวต่อจากนายประสิทธิ์มาเข้าให้ปากคำเพื่อชี้แจงข้อสงสัย ส่วนกรณีจะมีการเชิญตัวนายสกุลธรมาเข้าพบหรือไม่ ยังไม่สามรถระบุแน่ชัดได้ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
    ด้านนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่า ตามที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เรือยอชต์ชื่อ Silvretta เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ท่าจอดเรืออ่าวปอแกรนด์ มารีน่า ต.อ่าวปอ อ.ถลาง จ.ภูเก็ต สื่อได้รายงานว่าเจ้าของเรือดังกล่าวมีรายชื่อเป็นเจ้าของร่วมอยู่ 4 คน สองคนเป็นที่รู้จักกันดีของคนไทย โดยทางสมาคมจะนำหลักฐานร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ในวันจันทร์ที่ 28 ธ.ค. เพื่อให้ดำเนินการไต่สวนว่ามีเจตนาปกปิดบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของตนหรือไม่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. 2561 ม.28 (3) ประกอบ ม.102 ม.111 วรรคสอง ม.114 หรือไม่ หากวินิจฉัยว่าเข้าข่าย ให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อวินิจฉัยเอาผิดตาม ม.167 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับต่อไป
    มีรายงานด้วยว่า เจ้าของเรือสำราญดังกล่าวเป็นของนักการเมืองและเศรษฐีชื่อดังอักษรย่อ “ธ” อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้เกี่ยวข้องหรือเจ้าของเข้าแจ้งความ.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"