ไม่เกินความคาดหมาย "เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง" หรือ "เลขาฯ กกต." คนใหม่ป้ายแดง ที่วงประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เคาะชื่อ "พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา" รองเลขาฯ กกต. ให้ขึ้นมานั่ง "เลขาฯ กกต." เต็มตัว
เพราะตั้งแต่เก้าอี้เลขาฯ กกต.ตัวนี้ร้างเจ้าของตัวจริงเสียงจริงมานานถึง 2 ปีครึ่ง นับตั้งแต่ "ภุชงค์ นุตราวงศ์" อดีตเลขาฯ กกต. ถูกเลิกจ้าง ด้วยเหตุผลทำงานได้ไม่ตรงเป้าของ กกต. จากนั้นได้ดึงตัว "บุญเกียรติ รักชาติเจริญ" รองเลขาฯ กกต.ขึ้นเป็นรักษาการแทนเลขาฯ กกต. ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในช่วง ก.ย.2559 และให้ "พ.ต.อ.จรุงวิทย์" ทำหน้าที่ "รักษาการเลขาฯ กกต." และนายทะเบียนพรรคการเมือง มาโดยตลอด
แม้ในช่วงการสรรหา กกต. จะมีชื่อ ผู้สมัครเลขาฯ กกต. เข้ามาท้าชิงเก้าอี้ถึง 6 คน คือ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา รองเลขาฯ กกต. นายแสวง บุญมี รองเลขาฯ กกต. นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตเลขาฯ ศาลปกครอง และ นายฉัตรชัย ยอดอุดม รองเลขาฯ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)
ซึ่งช่วงแรกๆ ที่มีชื่อ "สมชัย" โดดเข้ามาชิงเก้าอี้เลขาฯ กกต.ด้วย ก็ดูเหมือนหลายฝ่ายจะโฟกัสไปที่ "สมชัย" มากกว่าใคร แต่แล้ว "สมชัย" ก็ต้องขอถอนตัวจากการสมัคร เนื่องจากขาดคุณสมบัติ เช่นเดียวกับ "แสวง" ที่ได้ถอนตัวเช่นกัน โดยไม่ได้ระบุเหตุผลที่ชัดเจนเอาไว้ ทำให้เหลือผู้สมัครชิงเก้าอี้ตัวนี้แค่ 4 คนเท่านั้น
สปอตไลต์เลยสาดส่องไปที่ "พ.ต.อ.จรุงวิทย์" มากกว่าใครเพื่อน!!!!
กระทั่ง กกต.ได้ดำเนินการคัดเลือกตามขั้นตอน โดยมีการแสดงวิสัยทัศน์ด้วยวาจา และผลงานในการทำงานทั้งหมด ซึ่งผู้สมัครทั้งหมดได้เดินทางเข้ามาตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.2561 เพื่อมาแสดงวิสัยทัศน์ต่อคณะอนุกรรมการฯ เรียบร้อย
จากนั้นในวันที่ 8 พ.ค.2561 วงประชุม กกต.ก็ได้พิจารณา และมีมติเป็นเอกฉันท์เลือก "พ.ต.อ.จรุงวิทย์" เข้ามาทำหน้าที่อย่างเป็นทางการ โดยมีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี
"ขอบคุณ กกต.ที่ไว้วางใจคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กกต. ซึ่งก็จะทำงานให้เต็มที่"
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ทันทีหลังทราบผลการพิจารณาของ กกต. ระหว่างดูงานการเลือกตั้งที่ประเทศมาเลเซีย
ว่าที่ เลขาฯ กกต.ป้ายแดง ยืนยันภารกิจสำคัญเร่งด่วนในขณะนี้ จะเร่งรัดแก้ระเบียบการปฏิบัติงานต่างๆ เพื่อรับกับการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น เนื่องจากกฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงในหลายประเด็น รวมทั้งจะเร่งอบรมพนักงานเพื่อให้เกิดความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายใหม่ เช่น การไต่สวน การจ่ายสินบนรางวัล การคุ้มครองพยาน การอำนวยความสะดวกให้พรรคการเมืองให้ปฏิบัติตามกฎหมายพรรคได้อย่างถูกต้อง เพื่อนำไปสู่ระดับความเป็นสถาบันอย่างแท้จริง สร้างเสริมวัฒนธรรมการเมืองแบบประชาธิปไตยเพื่อระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ รวมถึงคัดสรรบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นกลาง มาทำหน้าที่ผู้ตรวจการเลือกตั้ง ซึ่งคิดว่าเมื่อสำนักงานมีการเตรียมการทุกอย่างไว้ให้พร้อม การเดินหน้าสู่การเลือกตั้งก็จะไม่เกิดปัญหา จึงไม่หนักใจกับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น
โชว์ความฟิตกันตั้งแต่เริ่มต้น!!!
การได้ "พ.ต.อ.จรุงวิทย์" มาทำหน้าที่เลขาฯ กกต.คนใหม่ ก็น่าจะทำให้การทำงานของ กกต.คล่องตัวและต่อเนื่อง เพราะแม้จะเป็นเลขาฯ ใหม่ แต่ก็หน้าเก่าและเก๋า เนื่องจากรับผิดชอบหน้างานเลขาฯ กกต.มาพักใหญ่แล้ว
ยิ่งดูเส้นทางการทำงานของ "พ.ต.อ.จรุงวิทย์" ที่ผ่านหน้าที่ต่างๆ มามากมาย ทั้งเคยเป็นที่ปรึกษาประจำกรรมาธิการปฏิรูปด้านการเมือง สภาปฏิรูปประเทศ (สปท.) อดีตที่ปรึกษาประจำคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเสริมสร้างวัฒนธรรมการเมืองในระบอบประชาธิปไตย สปท. อดีตเลขานุการคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเมืองการเลือกตั้งที่สุจริตและเที่ยงธรรม สปท. อดีตสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) อดีตผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงาน กกต. อดีตรองเลขาฯ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวน และวินิจฉัย อดีตผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการ กกต.
น่าจะเป็นเครื่องการันตีคุณภาพเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี เพียงแต่ในระยะต่อจากนี้ไป หลังจากได้เป็นตัวจริงเสียงจริงแล้ว ระยะทางจะเป็นเครื่องพิสูจน์
"พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา" เหมาะเป็น "เลขาฯ กกต." จริงๆ หรือไม่????.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |