25 ธ.ค.63 - เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา นางสาวกนกกาญจน์ ปันอินทร์ อายุ 33 ปี นำเอกสารซึ่งได้ลงบันทึกประจำวันไว้กับ พ.ต.ท.วิรัตน์ เตชนันท์ สว.สอบสวน สภ.บางปู ต.สมุทรปราการ พร้อมกับใบรับรองแพทย์ของโรงพยาบาล เข้าร้องกับสื่อมวลชนว่า ลูกของตนวัย 6 ขวบ ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป 1 โรงเรียนนานาชาติเอกชนชื่อดัง ซึ่งตั้งอยู่ ถนนพุทธรักษา อ.เมือง สมุทรปราการ ถูกครูประจำชั้น ป.1/5 ลงโทษ ด้วยการนำเทปกาวมาปิดปาก และใช้มือทุบหลัง จนลูกชายผิวหนังบริเวณฝีปากอักเสบเนื่องจากเกิดการระคายเคืองยังได้ลงโทษโดยการให้กลั้นปัสสาวะจนกว่าจะหมดชั่วโมงเรียน จนลูกผวาเกิดอาการกลัว
นางสาวกนกกาญจน์ ได้เล่าว่า ที่ผ่านมาตนเองก็ไม่ได้กังวลอะไร เนื่องจากมีความเชื่อถือในชื่อเสียงและมาตรฐานของโรงเรียน ต่อมาภายหลังจากมีข่าว ครูโรงเรียนในเครือสารสาสน์ทำร้ายเด็ก ตนเองก็เกิดความกังวล จึงได้ปรึกษากับสามีว่าอยากให้ลูกย้ายไปเรียนที่อื่น แต่สามีเองก็ยังมีความเชื่อมันในบุคลากรของโรงเรียน เอกชนแห่งนี้ ต่อมาลูกชายตนเริ่มมีอาการแปลกนอนผวาเรียกหาแม่ในช่วงกลางคืน ตนคิดว่าน่าจะมีความผิดปกติ จึงได้พาไปพบแพทย์ กระทั่งวันที่ 17 ธันวาคม หลังเลิกเรียนตนได้เห็นมีผื่นขึ้นที่ขอบปากลูกชาย จึงได้สอบถามลูกชาย เล่าว่า ถูกครูประจำชั้นลงโทษนำเทปกาวมาปิดปาก เนื่องจากคุยกันไม่ซ้อมเต้นเพื่อเตรียมแสดงในช่วงกิจกรรมวันคริสต์มาส และใช้มือทุบหลัง เหตุเกิดช่วง เวลา 18.00 น.ของวันเดียวกัน
หลังทราบเรื่องตนเองจึงได้ เข้าไปพบฝ่ายธุรการโรงเรียนเพื่อร้องเรียนทางโรงเรียนได้เรียกครูมาสอบสวนเรื่องดังกล่าว แต่ทางครูคนดังกล่าวก็ยังไม่ยอมรับ กระทั่งวันที่ 19 ธันวาคม ตนได้พาลูกชายไปพบแพทย์ ที่ รพ.เปาโล สมุทรปราการ เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกาย แพทย์วินิจฉัยว่า มีประวัติผิวหนังริมฝีปากอักเสบระคายเคืองจากสิ่งสัมผัส จึงนำใบรับรองแพทย์มาให้ทางโรงเรียนดู กระทั่งครูคนดังกล่าวยอมรับว่าได้นำเทปกาวมาติดที่ปากลูกชายจริง ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางปู เพื่อให้ดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าว เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าว และทางโรงเรียนได้เสนอค่าเยียวยาเป็นเงิน 1 หมื่นบาท แต่ตนคิดว่าเงินจำนวนดังกล่าวไม่สามารถจะชดเชยกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้
นางสาวกนกกาญจน์ กล่าวอีกว่า หลังจากเกิดเหตุ ตนได้กลับมาซักถามลูกชายอีกครั้งว่า ทำไมครูทำโทษแบบนี้เป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกต้องทำไมไม่มาบอกแม่ แต่ได้ยินจากปากลูกว่ากลัวครูดุ และลูกยังบอกอีกว่า ครูท่านนี้ใจร้าย และลูกยังบอกอีกว่าถูกเพื่อนล้อเหมือนตัวตลกหนูอายเพื่อนที่ถูกทำโทษแบบนี้ จนลูกเป็นคนไม่พูด ตนจึงได้พาลูกไปพบแพทย์ เพื่อรักษาอาการดังกล่าว อย่างไรก็ตามตนยังได้พูดคุยกับผู้ปกครองท่านอื่นที่เรียนห้องเดียวกับลูกชาย และก็ได้ทราบว่า ครูคนดังกล่าวเคยไล่เด็กออกจากห้องเรียนให้กลั้นปัสสาวะ และชอบถือเทปกาวมาขู่เด็กหากคุยกันจะใช้ติดปาก จึงทำให้เด็กกลัว หลังจากนี้ตนได้ตัดสินใจแล้วจะไม่ให้ลูกเรียนที่นี่ต่อจนจบเทอมสุดท้าย เนื่องจากได้จ่ายค่าเล่าเรียนไปแล้ว หลังจากขึ้น ป.2 จะย้ายลูกชายไปเรียนที่อื่น ส่วนครูคนดังกล่าว ได้ทราบจากทาง ผอ.โรงเรียนว่าเพิ่งเข้ามาสอนที่โรงเรียนแห่งนี้ได้ประมาณสองเดือน ซึ่งขณะนี้ทางโรงเรียนแจ้งว่าได้ให้ครูคนดังกล่าวพักงานไปแล้ว
ด้านนางสาวชุลีกาญจน์ วงษาวีระพัฒน์ อายุ 44 ปี ซึ่งมีลูกชายเรียนอยู่ให้องเดียวกัน กล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายตนก็เคยมาเล่าให้ตนฟังว่า เห็นครูประจำชั้นคนดังกล่าวทำโทษเพื่อนโดยการใช้เทปกาวปิดปาก และลูกชาย ตนก็เคยถูกทำโทษโดยการใช้มือทุบหลัง จึงได้นำเรื่องดังกล่าวมาปรึกษาในกลุ่มผู้ปกครอง แต่ว่าผู้ปกครองหลายคนก็ยังกังวลเนื่องจากลูกยังต้องเรียนที่นี่ต่อ ส่วนตนทั้งสองคนเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการลงโทษเกินกว่าเหตุ จึงได้ตัดสินใจพึ่งกฎหมายเพื่อดำเนินคดีกับครูประจำชั้น ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปทางไปที่โรงเรียนดังกล่าว แต่ทางผู้บริหารอ้างว่ายังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ และให้ข้อมูลกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ทางด้าน พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ์ ผกก.สภ.บางปู กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน แต่พนักงานสอบสวนได้ให้ทั้งสองฝ่ายไปเจรจากันก่อน หากไม่สามารถตกลงกันได้ ผู้เสียหายก็สามารถที่จะเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับครูคนดังกล่าวได้ แต่จะสามารถแจ้งข้อหาได้มากน้อยเพียงใดต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |