24 ธ.ค.63 - นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ล่าสุด นายสุทธิพล พัชรนฤมล ผู้อำนวยการโครงการบริษัท ซิโน-ไทย เอนจิเนียริ่ง แอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) ได้ทำหนังสือร้องเรียนลงวันที่ 23 ธ.ค.63 ไปยังนายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ ประธานกรรมการตรวจการจ้างการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เพื่อตอบโต้ โดยระบุว่านายวัชระไม่มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาขยายเวลาการก่อสร้างของบริษัท และหนังสือร้องเรียนของนายวัชระก็ไม่สามารถนำมาประกอบการพิจารณาได้ อีกทั้งข้อสรุปของนายวัชระก็ไม่สามารถนำมาใช้คัดค้านได้เช่นกัน เพราะเหตุแห่งการขยายเวลาไม่ได้เกิดจากความผิดของบริษัท รวมทั้งหนังสือร้องเรียนของนายวัชระยังมีลักษณะเชิงบังคับว่า หากมีการขยายเวลาก็จะส่งเรื่องให้ป.ป.ช.ดำเนินการ หรืออีกนัยหนึ่งคือการขยายเวลาเป็นการเหมารวมว่าทุจริตต่อหน้าที่ ทั้งที่ต้องพิจารณาว่ามีเหตุแห่งการขอขยายเวลาได้ตามสัญญาหรือไม่ และเป็นความผิดของผู้รับจ้างหรือไม่ จึงเห็นว่าการร้องเรียนของนายวัชระเป็นการแทรกแซงจากภายนอก เป็นเรื่องทางการเมืองกดดันคณะกรรมการตรวจการจ้าง จึงอยากให้กรรมการได้พิจารณาจากเหตุแห่งการขอขยายเวลาอย่างถูกต้องและเป็นธรรมด้วย
นายวัชระ กล่าวอีกว่า นายสาธิตได้พิจารณาวาระหนังสือคัดค้านการขยายเวลาก่อสร้างอาคารรัฐสภาครั้งที่ 5 ตามที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯส่งไปแล้ว จะไปลบทิ้งหรือลบเทปการประชุมได้อย่างไร แต่เมื่อตัวแทนบริษัทซิโนฯส่งหนังสือดังกล่าวมา นายสาธิตก็ต้องให้ความเป็นธรรมบรรจุเรื่องเป็นวาระพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ ตนมีสิทธิยื่นหนังสือคัดค้านในฐานะประชาชนผู้เสียภาษีและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง พ.ศ 2560 มาตรา 63 และมาตรา 78
นายวัชระ กล่าวด้วยว่า กรณีที่บริษัทซิโนฯอ้างว่าหนังสือร้องเรียนเป็นเชิงบังคับกดดันนั้น ขอชี้แจงว่าตนเป็นแค่ประชาชนธรรมดา ไม่มีสิทธิ์ไปบังคับกรรมการตรวจการจ้างได้ หนังสือที่ส่งถึงผู้รับผิดชอบก็เพียงต้องการบอกอย่างตรงไปตรงมากับกรรมการล่วงหน้าว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าได้อนุมัติ เพราะประธานตรวจการจ้างก็ย่อมรู้กฎหมายดี เมื่อสำนักกฎหมายของสภาไม่เห็นชอบการขยายเวลา และกลุ่มบริษัทATTA ซึ่งเป็นผู้ควบคุมงานไม่เห็นชอบการขยายเวลามาตั้งแต่ครั้งที่ 4 แล้ว กอปรกับมีการขยายเวลาซ้ำซากนานถึง 1,864 วัน และจะขอขยายอีกเป็นครั้งที่ 5 จำนวน 133 วัน ซ้ำยังมีคดีฟ้องสภาเรียกค่าเสียหายอีกถึง 1,600 ล้านบาท หากกรรมการตรวจการจ้างมีมติให้ขยาย เท่ากับสภาเป็นฝ่ายผิด ทางบริษัทก็นำไปเป็นหลักฐานในศาลปกครองได้อีก สภาก็เสียค่าโง่ซ้ำซาก หากได้ใช้หลักวิญญูชนพิจารณาง่ายๆก็ตัดสินใจได้แล้วว่าอะไรคือถูก อะไรคือผิด หากตัดสินใจผิดก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ตัวอย่างมีให้เห็นที่อดีตอธิบดี อดีตรัฐมนตรีติดคุกล้วนเกิดจากความเกรงใจ หรือสมยอม หรืออาจถูกบังคับเพื่อแลกกับตำแหน่งหรือผลประโยชน์ต่างๆ ดังนั้น ข้าราชการต้องตัดสินใจให้ดี เพราะไม่มีใครมาติดคุกแทนได้
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |