ศาลอุทธรณ์ทำคำพิพากษาไม่เสร็จ เลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีหมอนิ่ม-ทนายความจ้างวานมือปืนฆ่าเอ็กซ์-จักรกฤษณ์ อดีตนักยิงปืนทีมชาติ นัดใหม่ 26 มิ.ย.นี้ แม่ผู้ตายเผยอโหสิให้หมอตั้งแต่แรก เห็นใจที่ต้องทำหน้าที่ทั้งพ่อและแม่เลี้ยงดูหลานเป็นอย่างดี

    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ที่ศาลจังหวัดมีนบุรี ถนนสีหบุรานุกิจ ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีฆ่า เอ็กซ์-จักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักยิงปืนทีมชาติ หมายเลขดำ อ.383/2557 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีศาลจังหวัดมีนบุรี เป็นโจทก์ และนายมานพ พณิชย์ผาติกรรม บิดาของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์ โจทก์ร่วม ยื่นฟ้อง นายจิรศักดิ์ หรือจี กลิ่นคล้าย อายุ 36 ปี อาชีพรับจ้าง ถูกกล่าวหาเป็นมือปืน, น.ส.สุรางค์ ดวงจินดา อายุ 75 ปี มารดาของ พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม, พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม ภู่เจริญยศ อายุ 41 ปี ประกอบธุรกิจส่วนตัว อดีตภรรยาของเอ็กซ์ จักรกฤษณ์, นายสันติ หรืออี๊ด ทองเสม อายุ 31 ปี อาชีพทนายความ และนายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 36 ปี อาชีพรับจ้าง ผู้ขี่รถจักรยานยนต์พามือปืนก่อเหตุ เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, จ้างวานใช้ ยุยงส่งเสริมให้ฆ่า, มีและพกพาอาวุธปืน ยิงอาวุธปืนในที่ทางสาธารณะ

    ต่อมาเวลา 09.30 น. ผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์ แจ้งให้คู่ความทราบว่า ศาลอุทธรณ์มีหนังสือแจ้งมาว่าคำพิพากษายังไม่แล้วเสร็จ จึงให้กำหนดนัดอ่านคำพิพากษาอีกครั้งเป็นวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ประกอบกับวันนี้ นายสันติ หรือทนายอี๊ด จำเลยที่ 4 มอบอำนาจให้ทนายความยื่นหนังสือขอเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ออกไปก่อน เนื่องจากตัวทนายอี๊ด จำเลยที่ 4 รถยนต์เสียอยู่ที่ จ.พัทลุง ระหว่างเดินทางกลับจากการทำธุระที่ จ.สงขลา จึงเดินทางกลับมาไม่ทัน 

    ด้านทนายความจำเลยที่ 2-3 แถลงต่อศาลว่า ในวันที่ 21 มิ.ย.นี้ ซึ่งศาลจะนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้น ทนายความมีเหตุจำเป็นติดภารกิจว่าความคดีอื่น จึงขอให้เลื่อนวันอีกประมาณ 2-3 วันด้วย ขณะเดียวกัน หมอนิ่ม จำเลยที่ 3 ก็แถลงด้วยวาจาต่อศาลว่า ในวันนัดดังกล่าว จำเลยก็ติดภารกิจร่วมกิจกรรมประชุมครู-ผู้ปกครองที่โรงเรียนของบุตรชายคนเล็กด้วย ซึ่งขอโอกาสทำหน้าที่แม่อีกสักวัน ขอให้ศาลเลื่อนนัดวันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จากวันที่ 21 มิ.ย.ไปก่อนด้วย 

    องค์คณะผู้พิพากษาศาลจังหวัดมีนบุรีพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุจำเป็น จึงกำหนดนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ใหม่อีกครั้ง (ครั้งที่ 2) ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.

    คดีนี้ อัยการโจทก์ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 31 มี.ค.2557 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า ระหว่างเดือน ส.ค. - วันที่ 19 ต.ค.2556 จำเลยที่ 2-4 ได้ร่วมกันจ้างวานใช้ นายจิรศักดิ์ จำเลยที่ 1 กับพวกที่อยู่ระหว่างหลบหนี ให้ฆ่านายจักรกฤษณ์ หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ซึ่งต่อมาจำเลยที่ 1 กับพวกได้ใช้อาวุธปืนยิงนายจักรกฤษณ์จนถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของพวกจำเลย ก่อนหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนติดตามจับกุมจำเลยได้ ชั้นสอบสวน นายจิรศักดิ์ และ น.ส.สุรางค์ จำเลยที่ 1-2 ให้การภาคเสธ ส่วน พญ.นิธิวดี อดีตภรรยานายจักรกฤษณ์ และนายสันติ ทนายความ จำเลยที่ 3-4 ให้การปฏิเสธ ขอต่อสู้คดี เหตุเกิดที่แขวง-เขตมีนบุรี กทม. และที่อื่นเกี่ยวพันกัน 

    ตลอดเวลาการพิจารณาคดี นายจิรศักดิ์ หรือจี จำเลยที่ 1 และนายธวัชชัย หรืออ้น จำเลยที่ 5 ไม่ได้ประกันตัว ส่วนนางสุรางค์, พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม และนายสันติ หรือทนายอี๊ด จำเลยที่ 2-4 ได้ประกันตัวไปคนละ 500,000 บาท

    ต่อมาศาลจังหวัดมีนบุรี มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2559 ให้ประหารชีวิตนายจิรศักดิ์ จำเลยที่ 1 และนายธวัชชัย จำเลยที่ 5 ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่ลดโทษให้ทั้ง 2 คน คนละ 1 ใน 3 เพราะทางนำสืบและคำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้าง จึงให้จำคุกตลอดชีวิต ขณะที่ พญ.นิธิวดี หรือหมอนิ่ม จำเลยที่ 3 และนายสันติ จำเลยที่ 4 ให้ประหารชีวิตสถานเดียว ฐานร่วมกันเป็นผู้ใช้ให้ฆ่าโดยไตร่ตรองฯ และพิพากษายกฟ้อง น.ส.สุรางค์ นอกจากนี้ ให้จำเลยที่ 1, 3, 4, 5 ร่วมกันชดใช้เงิน 2.5 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันยื่นคำร้องเดือน ก.ย.2557 ให้นายมานพ โจทก์ร่วม และนางสมคิด ผู้ร้อง บิดามารดาของผู้ตายด้วย 

    ด้านนางสมคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดาของ เอ็กซ์-จักรกฤษณ์ กล่าวว่า ถึงขณะนี้ได้อโหสิกรรมให้หมอนิ่มแล้ว ไม่เคยโกรธเขาเลย เป็นห่วงเขาด้วยซ้ำ ที่ต้องเลี้ยงหลาน 2 คน ที่กำลังโต แล้วก็ใช้เงินเยอะ เขาเลี้ยงหลานได้ดีมีคุณภาพ ทุ่มเทกับหลานมาก ซึ่งตนเองก็อยากเจอหลาน ที่หมอนิ่มแถลงต่อศาลขอเลื่อนคดีไปวันที่ 26 มิ.ย. เพราะติดประชุมผู้ปกครอง ต้องไปทำหน้าที่ทั้งเป็นแม่และพ่อ พอพูดอย่างนี้ตนก็น้ำตาคลอ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังศาลมีคำสั่งเลื่อนอ่านอุทธรณ์ หมอนิ่ม, มารดาของหมอนิ่ม และกลุ่มคนใกล้ชิดที่เดินทางมาให้กำลังใจ ก็รีบเดินทางกลับ โดยพยายามขอร้องสื่อมวลชนไม่ให้ถ่ายภาพ แล้วนั่งรถยนต์ฮอนด้าซีวิค สีดำ กลับออกไป.