เพื่อไทยเละเป็นโจ๊ก องครักษ์หญิงหน่อยรุมถอนหงอก “พิชัย” หลังแชร์ข่าวด้านลบ “การุณ-ชวลิต” ซัดไม่ใช่ลูกผู้ชาย เอาอคติส่วนตัวมาแดกดัน “ศรีสุวรรณ” ยิ้มร่า กกต.เรียกให้ข้อมูลเรื่องคณะก้าวหน้าทำตัวเป็นพรรคการเมืองแล้ว “เทพไท-ไพบูลย์” หนาว ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยสถานะ ส.ส.
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม ยังคงมีควันหลงจากการเลือกตั้งนายกและสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เมื่อนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) แชร์บทวิเคราะห์การเมืองเกี่ยวกับการเลือกตั้งนายก อบจ.ที่มีเนื้อหากระทบคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีตประธานยุทธศาสตร์พรรค พท. ไปยังกลุ่มไลน์ต่างๆ ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีสมาชิกพรรคบางคนตอบไลน์ในลักษณะไม่พอใจอย่างมากว่าเป็นการซ้ำเติม เป็นการกระทำที่ไม่สร้างสรรค์ ในขณะที่ต่อมานายพิชัยได้ลบโพสต์ดังกล่าว
ขณะที่นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรค พท. โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้นายพิชัยว่า การนำเอาข่าวแบบนี้มาแชร์แสดงออกถึงความคิดและนิสัยหลายๆ อย่าง คือ 1.ไม่มีสปิริต เพราะคุณหญิงสุดารัตน์ตอนอยู่ในพรรคก็เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงลงพื้นที่ให้พรรคมาตลอด วันนี้ออกจากพรรคไปแล้วก็ไม่เคยหันหลังกลับมาว่าพรรคเลยสักครั้ง และยังมีน้ำใจไปช่วยเป็นกำลังเสริม และ 2.ไม่มีความรับผิดชอบในหน้าที่ เรื่องของการเลือกตั้ง เรื่องแพ้ชนะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่ละสนามแต่ละช่วงเวลาก็มีสถานการณ์และบริบทที่แตกต่างกัน และทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน ผู้สมัครในหลายจังหวัดที่มีความผูกพันกัน
“ผมขอถามว่าคุณหญิงผิดอะไร คนเราในเมื่อทำงานด้วยกันไม่ได้ โดนบีบให้ต้องออกมาทั้งน้ำตา ก็เป็นเรื่องของโลกแห่งความเป็นจริง คนที่เป็นถึงรองหัวหน้าพรรคอย่างคุณพิชัย ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการบริหารการจัดการในการเลือกตั้งครั้งนี้ กลับไปโทษคนที่เขาอุตส่าห์มีใจมาช่วย สิ่งที่คุณพิชัยทำ ลูกผู้ชายเขาไม่ทำกันครับ ลองถามตัวเองดูนะครับว่านอกจากความสะใจส่วนตัวแล้ว ใครได้อะไร พรรคได้อะไร ในการกระทำแบบนี้ ผมเป็นนักกีฬาอาชีพที่ยังเล่นอยู่สโมสรพรรคเพื่อไทย และไม่เคยคิดที่จะย้ายสโมสร” นายการุณโพสต์ทิ้งท้าย
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรค พท. โพสต์เฟซบุ๊กเช่นกันว่า ในสนามการต่อสู้ควรรักษาน้ำใจซึ่งกันและกัน การให้ข่าวที่มีอคติ ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ทั้งไม่ให้ข้อเท็จจริงทั้งหมดนั้นไม่ควรทำ ความจริงควรขอบคุณคุณหญิงสุดารัตน์ ที่แสดงสปิริตเสียสละเวลา แรงกาย แรงใจ ไปช่วยรณรงค์หาเสียง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าบรรดา ส.ส.ไปช่วยรณรงค์หาเสียงไม่ได้ การไปช่วยหาเสียงเกิดจากความผูกพัน การให้ข่าวที่ไม่สร้างสรรค์เพื่อทับถมกันและส่งผลเสียหายไปยัง ส.ส.ในจังหวัดนั้นๆ รวมทั้งลูกหลาน ครอบครัวที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง โดยไม่ดูข้อมูลให้รอบด้านไม่ควรเกิดขึ้นเลย แต่ควรให้กำลังใจซึ่งกันและกันมากกว่า
“อย่าเอาความรู้สึกส่วนตัว ที่อาจมีอคติส่วนตัวกันไม่ว่าประเด็นใดก็ตาม มาสร้างความเสียหายต่อส่วนรวมที่ไม่ได้รับรู้ปัญหานั้นด้วย ที่สำคัญปัญหาการสร้างความแตกแยกดังกล่าวไม่ควรเกิดขึ้นอีกต่อไป” นายชวลิตระบุ
นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรค พท. กล่าวว่า สมาชิกพรรคในภาคอีสานหลายคนรู้สึกไม่สบายใจต่อกรณีดังกล่าว? เนื่องจากหลายจังหวัดได้เชิญคุณหญิง?สุดา?รัตน์? รวมถึงผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยอีกหลายคนมาช่วยหาเสียง? ซึ่งความพ่ายแพ้การเลือกตั้งท้องถิ่นในครั้งนี้ก็เกิดจากหลายปัจจัย รวมถึงความไม่บริสุทธิ์?ยุติธรรม ทำให้ผู้สมัครของพรรคต้องพ่ายแพ้ไป ซึ่งทีมงานผู้สมัครก็จะเดินหน้าตรวจสอบ และที่สำคัญก็เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ต้องสอบสวนให้เกิดความชัดเจนด้วย
“สมาชิกในหลายๆ จังหวัดไม่อยากให้เกิดกรณีที่มีการพาดพิง ถึงคุณสุดารัตน์ และทำลายน้ำใจของคนที่มีความตั้งใจทำงานในพื้นที่ ทั้งที่คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค และไม่มีส่วนได้เสียหรือได้รับประโยชน์ใดๆ จากการเลือกตั้งครั้งนี้” นายเศกสิทธิ์กล่าว
ส่วนนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงการยื่นคำร้องต่อ กกต.เพื่อให้ไต่สวนสอบสวนคณะผู้ก่อตั้งคณะก้าวหน้าทั้งหมด ทั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ, นายปิยบุตร แสงกนกกุล และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช รวมทั้งผู้สมัครนายก อบจ.และสมาชิก อบจ.ทั่วประเทศในนามคณะก้าวหน้า ว่าเข้าข่ายสมคบกันในการดำเนินกิจการเช่นเดียวกันกับพรรคการเมือง ตามพระราชบัญญัติ?ประกอบ?รัฐธรรมนูญ? (พ.ร.ป.)?ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 111 หรือไม่นั้น ล่าสุดประธานกรรมการสืบสวนและไต่สวน สำนักงาน กกต. ได้มีหนังสือด่วนที่สุด มาเพื่อไปให้ถ้อยคำพร้อมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ในวันที่ 24 ธ.ค. เวลา 13.30 น.แล้ว
วันเดียวกัน สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าวระบุว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในคดีที่ กกต.ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายเทพไท เสนพงศ์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (4) มาตรา 96(2) หรือไม่ จากเหตุศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชมีคำพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอการลงโทษ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา เนื่องจากร่วมกระทำผิดทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2557 ซึ่งเห็นว่าคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน และกำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือลงมติในวันพุธที่ 27 ม.ค.64 เวลา 09.30 น. และอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟังเวลา 15.00 น.
ขณะเดียวกัน ศาลรัฐธรรมนูญยังมีมติรับคำร้องกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งความเห็นของ ส.ส.จำนวน 60 คน ขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่าสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง ( 5) หรือไม่ จากกรณีนายไพบูลย์เป็นหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปและเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคดังกล่าว แล้วไปสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค พปชร. หลังจากพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมืองลง ซึ่งศาลได้รับไว้พิจารณาวินิจฉัย โดยให้นายไพบูลย์ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง แต่ไม่ได้มีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. เนื่องจากข้อเท็จจริงตามคำร้องยังไม่ปรากฏเหตุอันควรสงสัยที่ต้องมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |