"บิ๊กตู่" สั่งรื้อระบบนำเข้าแรงงานต่าวด้าวทั้งหมด ขอปชช.แจ้งเบาะแสขบวนการค้าแรงงานเถื่อน กำชับเหล่าทัพตรวจเข้มชายแดน พร้อมตั้ง กก.ชุดพิเศษเอาผิดพวกนำต่างด้าวลักลอบเข้า ปท. "วิษณุ" แย้มนายกฯ รู้แล้วมี ขรก.หน่วยไหนเอี่ยวบ้าง รอหลักฐานชัดฟันไม่เลี้ยง "กองทัพ” เผยเส้นทางเมียนมาสมุทรสาครแอบขึ้นฝั่ง จ.ระนอง ปัดยังไม่พบทหารเอี่ยว "ผบ.ตร." ป้อง ตม.บกพร่อง อ้างการทำงานมีข้อจำกัด โบ้ยหาก ตร.ผิดหน่วยอื่นก็ต้องโดนด้วย "ตำรวจปากน้ำ" เตรียมเรียกผู้บริหารบริษัททิ้งต่างด้าวที่สมุทรปราการสอบ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการลักลอบเข้าประเทศของแรงงานต่างด้าวจนนำไปสู่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ว่าสิ่งที่หน้าเป็นห่วงคือถ้าเราวิเคราะห์ดูแล้วต้นทางสาเหตุขั้นต้นมาจากแรงงานต่างด้าว ผู้ที่ถูกกฎหมายอยู่ในประเทศไทยมานานแล้วไม่มีปัญหา เว้นแต่ผู้ที่ลักลอบเราต้องขจัดขบวนการลักลอบให้ได้มากที่สุด โดยตอนนี้กังวลแรงงานที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนมีการหลบเลี่ยง มีการจ้างงานโดยผู้ที่เห็นแก่ตัว เป็นการจ้างงานโดยไม่ต้องจ่ายค่าแรงตามกำหนด รับแรงงานพวกนี้เข้ามาด้วยการมีขบวนการนำส่งเข้ามา วันนี้ตนกำลังรื้อทั้งหมด และติดตามขบวนการเหล่านี้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สิ่งที่กังวลมีเรื่องเดียวตอนนี้ ในบางโรงงานหรือหลายโรงงานที่มีการใช้แรงงานไม่ถูกต้องตามกฎหมายเอาไปปล่อยพื้นที่อื่นหรือไล่ออกจากงาน ตนได้สั่งการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ให้หามาตรการตรงนี้จะทำอย่างไร ซึ่งได้ให้แนวทางไปว่าให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณา สมัยที่เราเคยขึ้นทะเบียนแรงงาน ที่มีวิธีการขึ้นทะเบียนชั่วคราวไปก่อน บัตรสีชมพูก็กำลังดำเนินการตรงนี้ หากเราดำเนินการแบบเข้มข้นเกินไปก็จะมีการนำแรงงานไปปล่อยที่อื่น
"สิ่งสำคัญคือขอความร่วมมือพวกเราทุกคน ในช่วงที่เรากำลังเจอการระบาดโควิด-19 ในขณะนี้ ซึ่งไม่ถึงขั้นร้ายแรงเหมือนกับประเทศอื่นๆ หลายประเทศขึ้นมาแล้วเท่าไหร่ แล้วของเราขึ้นมาแล้วเท่าไหร่ ซึ่งของเราความจริงไม่ควรจะขึ้นถ้าทุกคนร่วมมือ ทุกคนควรพร้อมที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ทำลายขบวน การลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศผิดกฎหมาย ทุกคนรู้หมดว่าเข้าทางไหนออกทางไหน คนพื้นที่ทำไมจะไม่รู้ แต่เจ้าหน้าที่เขาก็อยู่เป็นจุด ลาดตระเวนเป็นพื้นที่ คนที่รู้มากที่สุดคือคนในพื้นที่ ดังนั้นต้องขอข้อมูลจากคนเหล่านี้ ส่งตรงมาที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้เลยจะปกปิดให้ ไม่ต้องกลัว ถ้าทุกคนกลัว คิดว่าธุระไม่ใช่ก็จะเป็นแบบนี้ทุกเรื่อง ไม่ใช่โควิด-19 อย่างเดียว เรื่องการทำผิดกฎหมาย การทุจริตของเจ้าหน้าที่ต่างๆ เหล่านี้ก็ขอฝากไว้ด้วยแล้วกัน" นายกฯ กล่าว
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม โดย พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมว่า นายกฯ ได้สั่งการในที่ประชุมให้ทุกเหล่าทัพลาดตระเวนตรวจเข้มตามแนวชายแดน เพื่อหยุดยั้งการเข้ามาของแรงงานต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย ทั้งทางบกและทางทะเล รวมถึงเพิ่มความเข้มข้นงานด้านการข่าว และดำเนินการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับขบวนการลักลอบนำแรงงานผิดกฎหมายเข้าประเทศโดยต้องจับกุมตัวให้ได้
มี ขรก.เอี่ยวนำเข้าต่างด้าว
"นายกฯ ได้สั่งให้ตำรวจตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาสืบสวนสอบสวนกับบุคคลที่มีส่วนร่วมในการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐในทุกระดับไม่มียกเว้น ขณะเดียวกันสั่งการตำรวจและฝ่ายปกครองตั้งจุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ ที่คาดว่าจะใช้ในการลำเลียงและหลบหนีของแรงงานต่างด้าว เพื่อเป็นการยกระดับแนวทางการป้องกันในจังหวัดที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ซึ่งจะต้องมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่ชั้นใน รวมทั้งยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ตรวจตราตามสถานบันเทิงต่างๆ ให้ปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข" โฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าว
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายว่า ในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้ประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครผ่านระบบเทเลคอนเฟอเรนซ์ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์กำชับให้ตรวจตราอย่างเข้มข้น
"นายกฯ ได้รับรายงานเบื้องต้นว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ พลเรือน อาสาสมัคร นายจ้าง นายหน้า เกี่ยวข้องกับขบวนการแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย จึงกำชับให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและกวาดล้างผู้กระทำความผิด พร้อมเชื่อว่ามีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ยังต้องตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจนก่อน เพราะอาจเป็นการร้องเรียนเพื่อกลั่นแกล้งกัน" นายวิษณุกล่าว
ถามถึงความคืบหน้า?ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.โรคติดต่อ รองนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จากนั้นถึงจะมีการนำส่งเข้าที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะทันในสมัยการประชุมใน? 2? เดือน?หรือไม่? และยังจำเป็นต้องใช้? พ.ร.บ.?โรคติดต่อฉบับเดิม?ควบคู่กับ ?พ.ร.ก?ฉุกเฉินไปพลางก่อน? ซึ่งยังเพียงพอต่อสถานการณ์?ปัจจุบัน? อย่างไรก็ตาม ต้องรอการประเมินสถานการณ์? 7? วัน ตามที่นายกรัฐมนตรีได้บอกไว้ก่อนหน้านี้ จึงจะสามารถดำเนินการเพิ่มหรือลดมาตรการในช่วงปีใหม่นี้ได้? รวมไปถึงต้องรอผลประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)? หรือ? ศบค.?ในวันที่ 24 ธ.ค.นี้?
"สำหรับร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.โรคติดต่อ?อาจจะไม่จำเป็นต้องออกเป็นพระราชกำหนด และไม่ใช่กฎหมายปฏิรูป จึงไม่ต้องรีบดำเนินการ เพราะมีกฎหมายเดิมควบคุมดูแลได้อยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหา แต่ละพื้นที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสามารถตัดสินใจ และบริหารจัดการได้เอง" รองนายกฯ กล่าว
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) เดินทางมาตรวจเยี่ยมกองทัพบก โดยมี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และคณะผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบกให้การต้อนรับ พร้อมรับการแสดงความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ และลงนามในสมุดตรวจเยี่ยม จากนั้น พล.อ.เฉลิมพล เป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อ มอบนโยบายและข้อสั่งการงานด้านความมั่นคง
พล.ท.เชาวลิตร สังฆฤทธิ์ โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า ผบ.ทสส.ได้ขอความร่วมมือกำลังพลและครอบครัว เคร่งครัดในการปฏิบัติตามการป้องกันไวรัสโควิด-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด โดยช่วงนี้ขอให้งดเว้นการจัดกิจกรรม พร้อมทั้งเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของทหารที่ประจำอยู่ในพื้นที่ควบคุมจุดตรวจหรือด่านตรวจต่างๆ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนต้องเคร่งครัดการปฏิบัติ เพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายผู้ที่มีเชื้อเข้ามาในประเทศ พร้อมกันนี้ในที่ประชุมยังได้รับทราบว่าตามที่มีปริมาณผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นการตรวจหาเชื้อในเชิงรุกของกระทรวงสาธารณสุข กลุ่มที่นำมาตรวจเชื้อเป็นแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่มีความเสี่ยงสูงและพักอยู่ในบริเวณเดียวกัน คนเหล่านั้นอยู่ในควบคุมของเจ้าหน้าที่ ไม่สามารถออกมาแพร่เชื้อภายนอกได้
กองทัพปัดทหารไม่เกี่ยวข้อง
พล.ท.เชาวลิตรกล่าวว่า การควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในส่วนของทหารได้ดำเนินการปฏิบัติโดยการเพิ่มทหารให้กับกองกำลังป้องกันชายแดน เพื่อทำหน้าที่เข้มข้นมากขึ้น รวมทั้งได้เน้นย้ำการวางจุดตรวจพื้นที่ที่สำคัญ เพื่อป้องกันการข้ามเข้ามายังประเทศไทย พร้อมทั้งสั่งการให้ใช้เครื่องมือพิเศษตรวจพื้นที่ และประสานกระทรวงมหาดไทย ใช้ชุมชนเข้มแข็งตามแนวชายแดนช่วยตรวจตราแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับทางเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลควบคุมพื้นที่ แม้รัฐบาลจะระงับกิจกรรมช่วงปีใหม่ แต่ทุกจุดตรวจ จุดสกัดจะดำเนินการไปด้วยความเข้มข้น เพราะยังมีประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับภูมิลำเนาอยู่ ทหารที่ทำหน้าที่ต้องเพิ่มความเข้มข้นและเข้มงวดในมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันให้ได้มากที่สุด
ถามว่าขณะนี้มีหลายจังหวัดล็อกดาวน์ ทหารเข้าไปดูส่วนไหนเป็นพิเศษหรือไม่ โฆษกกองทัพไทยกล่าวว่า ในส่วนของ จ.สมุทรสาคร ผบ.ทสส.ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดเป็นกรณีพิเศษ เพราะส่วนใหญ่แรงงานต่างด้าวจะลักลอบเข้ามาทางตอนใต้ น่าจะเข้ามาทางเรือเป็นส่วนใหญ่ เพราะทางแม่ทัพภาคที่ 4 ยืนยันว่ามีการตรวจตราเข้มงวดทางช่องทางธรรมชาติ แต่ต้องยอมรับว่าภาคใต้มีพื้นที่ทางทะเลกว้าง ทำให้มีช่องทางจากทางทะเลขึ้นบกเป็นจำนวนมาก
ซักว่าสรุปแล้วมีการลักลอบเข้าทาง จ.ระนองใช่หรือไม่ พล.ท.เชาวลิตรกล่าวว่า มีความน่าจะเป็นแบบนั้น แต่เมื่อมีข่าวแพร่สะพัดว่ามีการลักลอบเข้ามาทาง จ.ระนอง ทางกองทัพเรือก็ได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราทางทะเลเพิ่มมากขึ้น
พอถามต่อว่า แสดงว่า ศร.ชล.ของกองทัพเรือหย่อนประสิทธิภาพในการทำงานใช่หรือไม่ พล.ท.เชาวลิตรกล่าวว่า เรื่องนี้ตอบยาก เพราะต้องเข้าใจว่าคนที่จะลักลอบเข้ามากับคนป้องกันเป็นเรื่องที่ควบคุมกันได้ยาก
ถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ที่ลักลอบข้ามแดน กองทัพก็ถูกเพ่งเล็งด้วย โฆษกกองทัพไทยกล่าวว่า ในส่วนของทหารได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ตรวจคนเข้าเมืองตามจุดต่างๆ ทุกช่องทาง และมีการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังว่าใครมีประวัติทำนองนี้หรือไม่ ซึ่งเรายืนยันว่ามีการดูแลตรวจตราอย่างใกล้ชิด ในปัจจุบันยังไม่พบข้อมูลมีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่
"เราต้องตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นก่อน ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบไปเรื่อยๆ หากพบข้อมูลก็จะต้องทำตามระเบียบ ขบวนการดังกล่าวมีความซับซ้อนพอสมควร และมีหลายส่วนร่วมมือกัน คาดว่าต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ แต่เท่าที่ตรวจสอบได้ เบื้องต้นในส่วนของทหารยังไม่พบว่ามีเข้าไปเกี่ยวข้อง" โฆษกกองทัพไทยกล่าว
ย้ำว่า สรุปว่าไม่มีทหารและเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องกับการนำแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศใช่หรือไม่ พล.ท.เชาวลิตรกล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ต้องรอผลการสอบสวนของแต่ละส่วนก่อน แต่ยอมรับว่าพบเบาะแสของขบวนการดังกล่าวแล้ว ส่วนรายละเอียดว่าจะมีขบวนการนำเข้าแรงงานต่างด้างหรือไม่นั้น ต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ตอบดีกว่า เพราะถ้าให้ทหารตอบจะกลายเป็นว่าก้าวก่ายในการทำงาน
ด้าน พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวว่า ในการขยายผลสืบสวนขบวนการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ได้มีเบาะแสแล้ว แต่การดำเนินคดีจะต้องมีพยานหลักฐานด้วย ซึ่งเขาก็ดำเนินการอยู่ทั้งฝ่ายตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ก็ช่วยกันดูแล เรื่องนี้นายกฯ ได้มอบ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหมดูแล "เรื่องแรงงานต่างด้าวนั้น เราเน้นเรื่องขบวนการขนคน ไม่ได้เน้นจับตนต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามา เพราะตอนนี้จะหนีหรือไม่หนีนั้นไม่รู้ แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยต้องดูแล และเราต้องทำให้เขารู้สึกว่ารัฐไทยมีมนุษยธรรมที่จะดูแล เพราะถ้าเราไม่ดูแลเขาคนไทยเองก็จะมีปัญหา จึงฝากถึงผู้ใช้แรงงานชาวเมียนมาจะเข้ามาผิดหรือถูกก็เรื่องหนึ่ง แต่ขอให้เชื่อฟังเจ้าหน้าที่ของรัฐ" พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าว
'บิ๊กปั๊ด'ป้องตม.มีข้อจำกัด
ต่อมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ระบุถึงมาตรการป้องกันแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่าจะเน้นพื้นที่ 10 จังหวัดชายแดนภาคตะวันตก ได้แก่ กาญจนบุรี ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี แม่ฮ่องสอน ระนอง และราชบุรี ต้องดูเรื่องการข้ามไปข้ามมาทั้งช่องทางธรรมชาติและด่านตรวจคนเข้าเมืองของทางราชการ ซึ่งตอนนี้มีการแพร่ระบาดและล็อกดาวน์ จ.สมุทรสาครไป ก็ต้องเน้นไปอีก 5 จังหวัด ซึ่งมีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก กรุงเทพมหานคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ นครปฐม และราชบุรี ซึ่งทุกพื้นที่ต้องอยู่ในความควบคุมของคณะกรรมการควบคุมโรคระดับจังหวัดเป็นหลัก
"ในการตัดสินใจเราเป็นผู้สนับสนุน ตำรวจจะช่วยได้มากเรื่องการติดตามหาคน กรณีต้องสอบสวนโรค ซึ่งตอนนี้เราใช้ฝ่ายสืบสวนทั่วประเทศ เชื่อมโยงข้อมูลกันผ่านกองบังคับการสืบสวนของแต่ละภาค ตอนนี้ให้ตำรวจภูธรภาค 7 เป็นหลัก หาข้อมูลจากสมุทรสาครและส่งกระจายไปช่วยติดตามหาคนที่เชื่อว่ามีความเสี่ยง ทุกอย่างต้องหารือกับบุคลากรทางการแพทย์ที่รับผิดชอบ และที่ตำรวจจะช่วยได้อีกอย่างคือการจัดชุดออกไปสุ่มตรวจเชิงรุกร่วมกับสาธารณสุขตรวจพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ซึ่งทางตำรวจนครบาล ก็เริ่มออกตรวจร่วมกับกรุงเทพมหานครไปที่หอพัก ร้านอาหาร หรือแหล่งที่มีแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่จำนวนมาก" พล.ต.อ.สุวัฒน์กล่าว
ถามว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ถูกสังคมมองว่าหละหลวมปล่อยให้มีต่างด้าวลักลอบเข้ามาในประเทศ ผบ.ตร.กล่าวว่า หน้าที่หลักของ ตม.คืออยู่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ไม่ได้รับผิดชอบช่องทางธรรมชาติ ปัญหาที่เกิดขึ้นคือมีการข้ามตามช่องทางธรรมชาติ ฝากให้ความเป็นธรรมเขาด้วย เพราะงาน ตม.ส่วน ใหญ่เป็นเชิงธุรการ การให้บริการ ในส่วน ตม.มีกำลังไปสืบสวนจับกุมก็จริง แต่หากเทียบกับพื้นที่รอบประเทศไทยไม่มีทางพอ
"กำลังหลักต้องเป็นกำลังในพื้นที่ที่รับผิดชอบช่องทางธรรมชาติ ทำงานร่วมกัน 4 หน่วย มีทหาร ฝ่ายปกครอง ตำรวจพื้นที่ และตชด. ที่ต้องขึ้นยุทธการกับฝ่ายทหาร หากมีความบกพร่องต้องไม่ใช่หน่วยเดียว ต้องด้วยกันทั้งหมด เพราะรับผิดชอบด้วยกัน ซึ่งพื้นที่ชายแดนไม่ได้มีแค่เรื่องคนเดินข้ามออก ยังมีเรื่องปัญหายาเสพติดและเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย" ผบ.ตร.ระบุ
ด้านความคืบหน้ากรณีมีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาจากโรงงานพลาสติกแห่งหนึ่งในย่านอำเภอเมืองฯ จ.สมุทรสาคร เจ้าของโรงงานได้นำขึ้นรถยนต์จำนวน 5 คันนำมาทิ้งไว้ในซอยกรีนเลค หมู่ 2 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 22 ธ.ค. จำนวน 14 ราย ซึ่งมีทั้งชายและหญิงที่ไม่เคยผ่านกระบวนการตรวจหาเชื้อโควิด หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบได้นำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดมากักตัวที่สถานพักพิงชั่วคราวที่สนามกีฬาจังหวัดสมุทรปราการนั้น
ล่าสุด พบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเพิ่มอีก 3 ราย เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองและตรวจเก็บเชื้อโควิดร่วมกับ 14 รายก่อนหน้านี้ รวมเป็นทั้งหมด 17 ราย
พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ กล่าวว่า ขณะนี้ทราบแล้วว่ารถตู้ที่นำแรงงานมาทิ้งเป็นรถของบริษัทแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรสาคร ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับอาหารทะเลที่อยู่ในพื้นที่สีแดง จ.สมุทรสาคร ซึ่งจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อหาขัดคำสั่งจังหวัดกรณีห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้ามาในจังหวัด ซึ่งการฝ่าฝืนประกาศนี้จำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมทั้งต้องสืบสวนหากมีใครเกี่ยวข้องอีกก็ต้องดำเนินคดีเช่นกัน
"ขณะนี้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ประสานไปยังบริษัทที่นำแรงงานเมียนมา 17 คน มาทิ้งไว้บางนา-ตราด เพื่อเชิญตัวกรรมการบริษัทมาที่สถานีตำรวจภูธรบางแก้วเพื่อให้ข้อมูลแล้ว" ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการกล่าว.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |