23ธ.ค.63-นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ส่งหนังสือ เรื่องยกเลิกการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต) ระดับประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 และการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา หรือ วีเน็ต ปีการศึกษา 2563 ให้ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) พิจารณา ว่า หนังสือยกเลิกการทดสอบวีเน็ตมาจากที่ตนไม่ต้องการให้เกิดการซ้ำซ้อนของระบบการทดสอบ เนื่องจากผู้เรียนอาชีวศึกษาเมื่อสำเร็จการศึกษาจะมีการทดสอบสมรรถนะผู้เรียนที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานฝีมือแรงงานของกระทรวงแรงงาน ซึ่งการรันตีรายได้และการมีงานทำให้ด้วย ขณะที่การทดสอบโอเน็ตตนอยากให้มีการนำผลคะแนนไปใช้ให้เกิดประโยชน์ แต่ที่ผ่านมาการทดสอบโอเน็ตกลับเกิดคำถามมากมายว่าเด็กนำคะแนนไปใช้อะไรบ้าง เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่คุ้มค่า ทั้งนี้ยืนยันว่าตนยังให้ความสำคัญกับการทดสอบระดับชาติ แต่การนำผลลัพธ์ไปใช้ต้องตรงเป้าหมายของผู้เรียน  
           
“ผมไม่อยากให้สังคมสับสน ว่า การที่ผมลงนามหนังสือยกเลิกการทดสอบโอเน็ตและวีเน็ตจะเป็นการโยนความรับผิดชอบให้ สทศ. เป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งไม่อยากให้คิดเช่นนั้น แต่เป็นการเซ็นเสนอแนวทางให้ สทศ.บนพื้นฐานข้อมูลที่เป็นจริงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ส่งผลให้การเรียนการสอนทำได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร รวมถึงข้อมูลที่เป็นเสียงสะท้อนจากผู้ปกครองและนักเรียน และความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงเตรียมการสอบ ดังนั้นอยากให้ สทศ.ทบทวนอย่างรอบด้านด้วยความเหมาะสมกับสถานการณ์จริงในปัจจุบันด้วย”รมว.ศธ.กล่าว

นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันหากในอนาคต สทศ.ไม่ได้เป็นผู้จัดสอบโอเน็ตและวีเน็ตแล้วคงไม่มีการลดบทบาทของ สทศ.ลง เพราะ สทศ.ยังต้องเป็นหน่วยงานที่จะจัดทดสอบระดับชาติในหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการทดสอบวัดคุณภาพนักเรียนยังมีอยู่ แต่จะใช้วิธีการรูปแบบไหนนั้นจะมาหารือกันอีกครั้ง เพราะการทดสอบต่างๆ จะต้องใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ลดความซ้ำซ้อน และต้องไม่ทำให้เด็กเกิดความเครียดจากการทดสอบด้วย