8 พ.ค.61 -   สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีกลุ่มวัยรุ่น-เยาวชน อายุประมาณ 15-16 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์กว่า 10 คัน กลับจากเที่ยวในตัวเมืองบุรีรัมย์ มุ่งหน้ากลับบ้าน เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่พอมาถึงบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันปตท. บ้านโสน ตำบลบ้านยาง อ.เมืองบุรีรัมย์ รถจักรยานยนต์ของกลุ่มเด็กเยาวชนดังกล่าวได้พุ่งชนรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีแดง ทะเบียน -4446 บุรีรัมย์ ที่กำลังเลี้ยวเข้าปั๊มถึง 5 คันรวด จนเป็นเหตุให้กลุ่มเยาวชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย ส่วนรถกระบะคู่กรณีบาดเจ็บ 2 ราย รวมเป็นทั้งหมด 8 ราย แต่เยาวชนที่บาดเจ็บสาหัสเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 4 ราย ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น

ล่าสุด ในวันนี้ทางญาติได้มีการจัดพิธีฌาปนกิจศพของ 2 ใน 4 เยาวชนที่เสียชีวิต ที่วัดใน ต.บ้านยาง อ.เมือง แต่ก่อนประกอบพิธีฌาปนกิจศพได้มีกลุ่มวัยรุ่น เยาวชนใน ต.บ้านยาง ทั้งชาย-หญิง พร้อมรถจักรยานยนต์คู่ใจ ที่แต่งซิ่งตามความชอบของแต่ละคน กว่า 10 คัน ได้รวมตัวกันขับขี่รถจักรยานยนต์เร่งเครื่องเสียงดังตามขบวนแห่ศพของ ด.ช.เก๋า อายุ 14 ปี หนึ่งในกลุ่มเด็กแว้นที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

นอกจากขับขี่ตามขบวนแห่ศพจากบ้านมาที่วัดเป็นระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรแล้ว ยังได้ขี่รถจักรยานยนต์บิดรอบเมรุ 3 รอบ ก่อนมาจอดรวมกันที่หน้าเมรุและเร่งเครื่องส่งเสียงดัง เพื่อเป็นการแสดงความอาลัยและส่งดวงวิญญาณให้กับน้องเก๋า ตามความเชื่อเพราะคนตายชื่นชอบความเร็ว ท่ามกลางญาติพี่น้องเพื่อนบ้านมาร่วมพิธีฌาปนกิจจำนวนมาก

ด้าน น.ส.ปิยะธิดา จอมรัมย์ พี่สาวของน้องเก๋า ที่เสียชีวิต บอกว่า ตนกับน้องอาศัยอยู่กับตายายเพราะพ่อแม่แยกทางกัน แม่ไปทำงานที่ต่างประเทศนานๆ จึงจะได้กลับมาหาตนกับน้อง ส่วนตัวน้องชายเป็นคนเงียบพูดน้อย แต่ชอบแต่งรถและชื่นชอบความเร็ว บางครั้งที่เห็นน้องขับรถเร็วจะตักเตือนว่าอย่าขับเร็วให้ระมัดระวัง แต่ไม่รู้ว่าน้องเมื่อขับรถออกจากบ้านแล้วจะขับเร็วหรือไม่ แต่อยากให้กรณีที่เกิดขึ้นกับน้องเป็นอุทาหรณ์กับผู้ที่ชอบขับรถเร็ว หากขับบนท้องถนนควรใช้ความระมัดระวัง หากชื่นชอบความเร็วควรจะไปประลองกันในสนามแข่งที่เขาจัดให้จะได้ไม่อันตราย

ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับน้อง อยากให้ทางคู่กรณีออกมาแสดงความรับผิดชอบ เพราะน้องขับขี่จักรยานยนต์มาทางตรงแต่กระบะเลี้ยวตัดหน้า ทั้งอยากให้คนขับกระบะมาขอขมาศพน้องด้วย

ขณะที่ นายสตางค์ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี เพื่อนในกลุ่มที่ขับขี่รถไปด้วยกันในวันเกิดเหตุ บอกว่า รู้สึกเสียใจกับการเสียชีวิตของน้องเก๋า การขับรถเร็วเป็นความชื่นชอบส่วนตัว ส่วนใหญ่จะไปแข่งกันในสนามที่เขาเปิดพื้นที่ให้ จะไม่ค่อยแข่งกันบนท้องถนนเพราะรู้ว่าอันตราย แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับน้องเป็นอุทาหรณ์ให้กับหลายๆ คนที่ชื่นชอบความเร็วได้ใช้ความระมัดระวังมากขึ้น แต่ที่พวกตนมาขับรถเร่งเครื่องตามขบวนแห่ศพและรอบเมรุในวันนี้ เพราะต้องการแสดงความอาลัยและส่งดวงวิญญาณของน้องให้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ไม่ได้ต้องการจะสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ใคร

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร ต้องรอให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตจัดการงานศพให้เรียบร้อย จึงจะประสานญาติ กลุ่มเพื่อนที่อยู่ในเหตุการณ์และคู่กรณีมาสอบปากคำอีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้ผู้ประสบเหตุบางคนยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์.