3นิ้วปากกล้าขาสั่นโต้ม.112


เพิ่มเพื่อน    

  ศาลยกฟ้อง "แม่จ่านิว" คดีหมิ่นสถาบันตาม ม.112-พ.ร.บ.คอมพ์ "เพนกวิน-อานนท์" พร้อมพวกรับทราบข้อหา ม.112  ชุมนุมหน้าเอสซีบี "อานนท์" ยันไม่มีอะไรน่ากังวล เช่นเดียวกับคดีแม่จ่านิวชัดเจนว่าเป็นการกลั่นแกล้งผู้เห็นต่าง ขู่ฟ้องกลับเอาผิดจนท. "จาตุรนต์" จ่อร้องอัยการสูงสุดถอนฟ้องหลังศาลพิพากษายกฟ้องคดียุยงปลุกปั่น ลั่นอยากใช้เป็นคดีตัวอย่างทวงความยุติธรรม  

    ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 22 ธันวาคม ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.พัฒน์นรี หรือพัชนรี หรือหนึ่งนุช ชาญกิจ มารดาของนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทสถาบันฯ ตาม ป.อาญา มาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โดยเป็นคดีที่โอนมาจากศาลทหาร
    คำฟ้องระบุกรณีจำเลยใช้เฟซบุ๊กแช้ตกับนายบุรินทร์ อินติน มีข้อความหมิ่นประมาทสถาบันฯ โดยจำเลยโพสต์ข้อความโต้ตอบนายบุรินทร์ว่า "จ้า" เท่ากับเป็นการยอมรับและมีส่วนร่วมในการโพสต์ข้อความ จึงเป็นความผิดตาม ป.อาญา และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งนายบุรินทร์ถูกศาลทหารพิพากษาลงโทษจำคุกไปแล้ว สำหรับ น.ส.พัฒน์นรี จำเลยคดีนี้ ให้การปฏิเสธและได้รับการประกันตัว
    ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์จำเลยแล้ว ระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 22.40 น. ของวันที่ 12 มี.ค.2559 จำเลยได้อ่านข้อความเฟซบุ๊กของนายบุรินทร์ หลังจากผ่านไป 5 นาที จำเลยก็ตอบว่า "จ้า" ซึ่งพยานนักวิชาการเบิกความว่า คำว่าจ้าเพียงคำเดียวไม่ได้สื่อความหมายอะไร และฟังได้ว่าการที่จำเลยไม่ได้โพสต์ความอื่นๆ นอกจากคำว่าจ้า หลังจากเว้นช่วงเวลาไปนาน 5 นาที แสดงว่าจำเลยต้องการสิ้นสุดการอ่านข้อความเท่านั้น จากนั้นไม่มีความเห็นอื่นๆ จึงฟังไม่ได้ว่ามีเจตนาหมิ่นประมาทรัชทายาทฯ ตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง โดยหลังฟังคำพิพากษา น.ส.พัฒน์นรีถึงกับร้องไห้
    น.ส.พัฒน์นรีเปิดเผยหลังฟังคำพิพากษาว่า คดีนี้ไม่น่าเป็นคดีมาตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะตนเป็นแม่จ่านิว ถึงถูกดำเนินคดี ตนอ่านเฟซบุ๊กของนายบุรินทร์ในฐานะเพื่อนกันทั่วไปนาน 20 นาที และไม่ได้คุยอะไรนอกจากคำว่าจ้าคำเดียว หลังจากเว้นไป 5 นาที ศาลท่านมองว่าเพียงเท่านี้ ตนไม่มีเจตนากระทำผิด จึงยกฟ้อง ก็รู้สึกโล่งใจถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ขอให้อัยการอย่าได้อุทธรณ์เลย
    ที่ สน.พหลโยธิน นายอานนท์ นำภา พร้อมนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน น.ส.วรรณวลี เอมจิตต์ หรือตี้ พะเยา, นายชินวัตร จันทร์กระจ่าง หรือไบร์ท, นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า รวม 6 คน พร้อมทนายความ เข้ารับทราบข้อหาตามหมายเรียกคดี ม.112 จากการชุมนุมปราศรัยในม็อบ 25 พฤศจิกา.ไปหน้าธนาคารไทยพาณิชย์สำนักงานใหญ่ โดยมี พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.พหลโยธิน ร่วมสอบปากคำ
    ด้านทนายความกล่าวว่า วันนี้มีผู้ถูกหมายเรียกทั้งหมด 7 คน จากการชุมนุมครั้งเดียวกัน โดยมีนายพงศธรณ์ ตันเจริญ หรือ บอย ซึ่งติดธุระอยู่ที่ จ.มหาสารคาม จึงจะขอพนักงานสอบสวนเลื่อนวันนัดหมายออกไปก่อน ขณะที่นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ที่ถูกหมายเรียกก็กำลังเดินทางมา สำหรับการแจ้งข้อหาจะต้องรอพบพนักงานสอบสวนก่อนว่ามีคดีความอื่นอีกหรือไม่
    ภายหลังจากการเข้ารับทราบข้อหา 112 ของกลุ่มแกนนำคณะราษฎร นายอานนท์  นำภา เปิดเผยว่า มารับทราบข้อกล่าวหาที่ขึ้นปราศรัยที่หน้าเอสซีบี วันที่ 25 พ.ย. และห้าแยกลาดพร้าว เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. โดยทั้งหมดให้การปฏิเสธ ไม่มีอะไรที่น่ากังวล เช่นเดียวกันกับกรณีศาลยกฟ้องแม่จ่านิวข้อหา 112 มันชัดเจนอยู่แล้ว การแจ้งข้อหา 112 กับผู้เห็นต่างเพื่อการกลั่นแกล้งและเป็นใบเสร็จที่ชัดเจน
    "คนที่มาแจ้งความดำเนินคดีกับพวกเราและเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินคดีกับพวกเรามันทุเรศ ต่อไปเราจะพิจารณาดำเนินการฟ้องกับคนที่แจ้งเอาผิดและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ปีหน้ายืนยันว่าการชุมนุมเข้มข้นขึ้นแน่ พยายามหาแนวร่วมเพิ่มขึ้น ถึงแม้สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาด กิจกรรมของเราก็จะดำเนินปรับไปตามสถานการณ์ตามยุทธวิธี โควิดไม่ได้ห้ามแสดงสิทธิทางการเมือง" นายอานนท์กล่าว
    ด้านนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ กล่าวว่า ถึงแม้จะมีสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด การเรียกร้องของเราก็จะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ เราเคยต่อสู้มาทุกสถานการณ์ การผูกโบหรือการผูกผ้าตามสถานที่ต่างๆ ก็เป็นขั้นตอนตามยุทธวิธี เราจะต่อสู้ต่อไปด้วยด้วยความเหมาะสมตามสถานการณ์
    ที่ศาลอาญา นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตแกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์หลังศาลพิพากษายกฟ้องคดียุยงปลุกปั่น ม.116 ว่า วันนี้ศาลพิจารณาตัดสินยกฟ้อง ด้วยเหตุผลสำคัญคือว่าการแสดงความเห็นของตนเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพ ซึ่งรับรองโดยกฎหมายทั้งของประเทศไทยและอนุสัญญาระหว่างประเทศ เป็นการแสดงออกโดยสุจริต ไม่ได้เป็นการยั่วยุปลุกปั่น ส่วนความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ฝ่ายโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าการที่ตนโพสต์เฟซบุ๊ก ได้โพสต์ขึ้นในระหว่างที่ตนถูกควบคุมตัวไปอยู่ในคุกแล้วไม่มีเครื่องมือสื่อสารใดๆ ขั้นตอนของตำรวจในชั้นสอบสวนมีการจับกุมและตั้งข้อหาก่อนที่จะสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งที่การรวบรวมพยานหลักฐานเป็นการทำเพื่อสนับสนุนการตั้งข้อหาของพนักงานสอบสวน การใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่ในคดีนี้เป็นไปในลักษณะที่บิดเบือนการใช้กฎหมาย เป็นการทำเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพของผู้เห็นต่าง
    นายจาตุรนต์กล่าวว่า ตนจะดำเนินการ 2 ส่วนคือ 1.ตนกับทนายความจะร่วมกันดำเนินการนำข้อเท็จจริงต่างๆ ที่ปรากฏในการดำเนินคดีสืบพยานและคำพิพากษาของศาล ไปร้องต่ออัยการสูงสุด ให้อัยการสูงสุดพิจารณาถอนฟ้องคดีนี้ ตนไม่ต้องการก้าวล่วงดุลพินิจของพนักงานอัยการ แต่อัยการสูงสุดมีอำนาจที่จะพิจารณาถอนฟ้องคดีนี้ได้ และข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ปรากฏในการสืบพยาน รวมทั้งในคำพิพากษาของศาลมีเหตุผลที่จะพิจารณาใช้ดุลยพินิจโดยใช้หลักนิติธรรมถอนฟ้องคดีนี้ออกไป ซึ่งก็จะไม่มีการอุทธรณ์อีกต่อไป
    2.จะขอเสนอต่ออัยการสูงสุดให้พิจารณากำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการดำเนินคดี การฟ้องคดีที่โอนจากศาลทหารมายังศาลยุติธรรมใหม่ คือไม่ใช่รับคดีมาแล้ว ไม่พิจารณาหลักฐานเพิ่มเติมอะไรเลย ทั้งๆ ที่ในศาลทหารไม่มีพยานหลักฐานอะไรเลย จนถึงขนาดที่ว่าคดีนี้ไม่ควรมาถึงชั้นศาลตั้งแต่ต้น อัยการก็ควรจะต้องพิจารณาสั่งไม่ฟ้องได้ และนี่เป็นอำนาจของอัยการสูงสุด
     "การกระทำอย่างนี้เป็นการใช้กฎหมายพร่ำเพรื่อ และประเทศไทยก็ยังไม่มีวิธีการที่จะป้องกันการกระทำอย่างนี้ ทำให้มีการใช้กฎหมายตามใจชอบเพื่อปิดปากผู้ที่เห็นต่าง สร้างความเดือดร้อน เป็นภาระต่อนักศึกษาและประชาชนหลายร้อยคนในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา จึงมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์การดำเนินคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงเสียใหม่ จะเสนอเรื่องไปยังองค์กรของฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อแก้ไขกฎหมาย และขณะเดียวกันก็ขอเรียกร้องต่อรัฐบาลต่อเจ้าหน้าที่ พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ หรือองค์กรที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทั้งหลาย และอยากจะใช้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง เพื่อเรียกร้องหาความยุติธรรมให้แก่ประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในช่วงที่ผ่านมา" นายจาตุรนต์กล่าว
    เมื่อถามว่าจะมีการดำเนินคดีกับผู้ที่เริ่มคดีนี้ตั้งแต่ต้นด้วยหรือไม่ นายจาตุรนต์กล่าวว่า ต้องรอให้คดีถึงที่สุดก่อน จะนำเอาคำพิพากษาวันนี้ หรือถ้าจะมีคำพิพากษาอื่นๆ มาวิเคราะห์อย่างละเอียด แต่เท่าที่ดูก็เห็นปัญหาชัดเจนว่าพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ดำเนินการทำไปโดยไม่ชอบตามหลักนิติธรรมและกระบวนการ วิธีพิจารณาความอาญาอย่างชัดเจน.


เมื่อวานคุยเล่น  เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ  วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด

อนาคต 'คนนินทาเมีย'
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ'
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง"
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา.
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?"