ฝ่ายค้านยันมติไม่ร่วมวงสมานฉันท์ อ้างรัฐไล่จับกุมแกนนำม็อบ จ่อยื่นซักฟอกรัฐบาลปลาย ม.ค. เล็งเป้าถล่ม 3 ป.พ่วงจุรินทร์ "จตุพร" เดือด "สุนัย" กระทืบซ้ำแพ้เลือกตั้งเชียงใหม่ แฉกลับบิ๊กเพื่อไทยต้ม ปชช.จับมือ พปชร. แย้มเร็วๆ นี้มีอาฟเตอร์ช็อกแน่ ทบ.ออกกฎเหล็กกำลังพลเรื่องการเมือง "5 ได้-7 ไม่ได้" ฮึ่มส่อเสียดสถาบัน-รบ.โดนอาญาทหาร
ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ว่า ในสัดส่วนของฝ่ายรัฐบาลได้แก่ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม, นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประขาธิปัตย์, นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ, นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ส่วนของฝ่ายค้านและผู้ชุมนุมเองยังไม่มีการเสนอชื่อมา และในสัดส่วนผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทยมีมติส่งชื่อมาแล้ว 3 คน ได้แก่ นายสุริชัย หวันแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาสันติภาพและความขัดแย้ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, นายวันชัย วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการหลักสูตรพัฒนาผู้นำและการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยสันติวิธี, นายสมศักดิ์ รุ่งเรือง อธิการบดีวิทยาลัยเซาธ์อีสท์บางกอก ส่วนที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลเสนอชื่อมา 1 คน คือนายวิโรจน์ ลิ้มไขแสง อธิการบดีมหาเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน สำหรับที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏ จะประชุมเลือกผู้แทนในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ รวมถึงวุฒิสภาจะมีการยืนยันวันที่ 23 ธ.ค.อีกครั้ง
ทางด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. ออกมาเสนอให้ประธานรัฐสภา นายกรัฐมนตรี และ ผบ.เหล่าทัพ ร่วมกันสร้างความปรองดอง เพราะการสร้างเวทีปรองดองที่ผ่านมา แม้จะมีรายงานออกมา แต่ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้ว่า สุดแล้วแต่ความเห็น แต่สิ่งที่เป็นทางการขณะนี้และมีความคืบหน้าแล้วก็คือคณะกรรมการสมานฉันท์ 7 ฝ่าย ส่วนที่คนเสนอมองว่าเวทีเช่นนี้ไม่มีผลสัมฤทธิ์ที่เป็นรูปธรรมนั้น ขณะนี้ยังไม่เริ่มต้นประชุม ไม่อยากให้ตีตนไปก่อนไข้ การสร้างความปรองดองของประเทศ ไม่ว่าประเทศไหนก็ต้องฟันฝ่าอุปสรรค เพราะเริ่มนับหนึ่งจากความเห็นที่ไม่ตรงกัน จึงต้องใช้เวลาจนกว่าจะได้ข้อยุติที่เป็นฉันทามติ
ที่ทำการพรรคเพื่อไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้านว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านยังยืนยันมติเดิมไม่เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการสมานฉันท์ จนกว่ารัฐบาลและคู่กรณีความขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่ายจะเข้าร่วม รัฐบาลต้องแสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการสร้างบรรยากาศแห่งความปรองดอง ด้วยการยุติการคุกคาม ยุติการจับกุม คุมขังผู้เห็นต่าง ยกเลิกการตั้งข้อหากับผู้ชุมนุม อย่างขาดหลักแห่งความยุติธรรม
นายธวัชชัย ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ต้องแก้ที่รากเหง้าของปัญหา การจะสร้างความปรองดองได้ต้องยุติการดำเนินคดีทางการเมือง เพราะไม่สามารถนำไปสู่การพูดคุยสร้างความปรองดอง การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ต้องไม่สร้าง ส.ส.ร.ขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจอีก และยุติการสนับสนุนระบอบการเมืองที่มาจากรัฐประหาร
จ่อยื่นซักฟอก 3 ป.
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวว่า รัฐบาลต้องแสดงออกอย่างจริงใจ ต้องแก้รัฐธรรมนูญแก้ไขอำนาจของ ส.ว. และแก้ไขสิทธิเสรีภาพของประชาชน ซึ่งจะเป็นทางออกของปัญหาได้
นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ควรเข้ามาร่วมในคณะกรรมการฯ เชื่อจะช่วยสร้างความปรองดองได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ออกแถลงการณ์ถึงเหตุผลกรณีไม่เข้าร่วมในคณะกรรมการสมานฉันท์ โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งว่า รัฐบาลควรแสดงความจริงใจโดยเร่งหาวิธีแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในประเด็นอำนาจของ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประเด็นที่เป็นปัญหาให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วที่สุด เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และยอมรับให้เกิดกระบวนการเลือก ส.ส.ร.ที่มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนทั้งหมด เพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนเชื่อใจว่าไม่ต้องการสืบทอดอำนาจ และต้องการถอยออกจากอำนาจอย่างแท้จริง
รายงานข่าวจากพรรคร่วมฝ่ายค้านแจ้งว่า ในการหารือของตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้หารือถึงประเด็นความพร้อมการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 มีการหารือเบื้องต้น เตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ช่วงปลายเดือน ม.ค. 2564 ตามขั้นตอน 15 วัน จะมีการตรวจสอบก่อนที่จะมีการบรรจุญัตติกำหนดวันการอภิปราย คาดว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสัปดาห์ที่สองเดือน ก.พ.
สำหรับรายชื่อรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปราย นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ ถือเป็นเป้าหลักแล้ว จะพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี, พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ซึ่งอยู่ในกลุ่ม 3 ป. ที่อยู่ในอำนาจตลอดหลังจากการยึดอำนาจ โดยพรรคก้าวไกลจองกฐินไว้เป็นพิเศษ เนื่องจากเตรียมข้อมูลกลุ่ม 3 ป. ไว้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อต้นปี 2563 แต่ไม่ได้อภิปราย ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลบางคนอยู่ในข่ายที่จะถูกอภิปรายเช่นกัน โดยเฉพาะในกระทรวงพาณิชย์ ที่มีประเด็นถูกจับตาหลายเรื่อง และมีการแจ้งไปยังพรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรค ให้ไปรวบรวมข้อมูล รายชื่อ ประเด็นรัฐมนตรีที่จะอภิปรายแล้วกลับนำมาเสนอต่อที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้านอีกครั้งช่วงต้นเดือน ม.ค.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เฟซบุ๊กไลฟ์ peace talk ตอบโต้นายสุนัย จุลพงศธร อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่กล่าวหาว่าตนเองไปหลอกลวงชาวเชียงใหม่กรณีนายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย ทั้งที่เป็นพวกเผด็จการว่า ขอถามนายสุนัยว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หรือพรรคเพื่อไทย มอบให้เป็นตัวแทนใช่หรือไม่ จะบอกให้ว่ามีพื้นที่ในเชียงใหม่หลายพื้นที่ที่พรรคเพื่อไทยไปจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ และคนพรรคเพื่อไทยไปอธิบายใส่ความนายบุญเลิศนั้น ลองไปตรวจดูหนังสือเดินทางไปต่างประเทศว่าใครไปพบใครมากที่สุด ตลอดจนในประเทศไทยหัวหน้าพรรคการเมืองไหนไปพึ่งพาหรือพูดคุยกับเขามากที่สุด
ตู่เดือดเผาเพื่อไทย
"พอเสร็จเลือกตั้ง ผมยอมรับความพ่ายแพ้ แต่คุณกลับมากระทืบโชว์ ขอให้ไปถามคนที่คุณเป็นโฆษกแทนนั้น โดยถามว่าคนในรัฐบาลที่ไปพบเป็นใคร เพราะสิ่งนี้เป็นวิธีกินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้องเอง คนที่ว่าอยู่พรรคเพื่อไทยเดิม แล้วย้ายไปเป็นรัฐบาลก็ยังไปมาหาสู่กันปกติ ขอถามว่าใครต้มประชาชน ก่อนหน้านี้ ที่ยังไม่อภิปรายไม่ไว้วางใจ และเล่นเกมก่อนพรรคอนาคตใหม่ยังไม่ยุบพรรค กระทั่งมาสู่ไม่สามารถอภิปราย 1 ใน 3 ป.ได้ ใครก็รู้ว่าเกิดอะไร นายสุนัยบอกว่าชนะเลือกตั้งแล้ว ขอถามว่าชนะจริงแล้วหรือ อยากให้ไปตรวจสอบในพรรคเพื่อไทย ไม่กี่วันก็จะเป็นอาฟเตอร์ช็อก อย่างน้อยมีคนไม่เห็นด้วยในกรณีบางเรื่อง และได้ตัดสินใจลาออกแล้ว 2 ตำแหน่งในพรรค เพียงแต่รักษามารยาทไม่ให้สาธารณะรับทราบ พรรคเพื่อไทยต้องแถลง อย่ามารังแกกันนะ ไม่ชอบคนที่รังแกคนล้ม และอย่าข้ามนะจะบอกให้ มนุษย์เราอย่าบีบใครให้จนตรอก เพราะเลือกตั้งยังไม่จบ เพียงแค่ผมเป็นนักกีฬาเท่านั้น และจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในพรรคเพื่อไทย ซึ่งรอให้เขาพูดเท่านั้น ดังนั้นจึงอย่าเหยียบกันมาก" นายจตุพรระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมกำลังพลทหารบกได้ออกข้อควรปฏิบัติและข้อไม่ควรปฏิบัติของกำลังพลสังกัดกองทัพบก โดยอ้างอิงจาก 1.ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยข้าราชการกลาโหมกับการเมือง พ.ศ.2499, 2.คําสั่งกองทัพบกที่ 388/2563 ลงวันที่ 9 ก.ย.2563 เรื่องแนวทางการดำเนินการต่อกำลังพลที่กระทำผิด และหากผู้ใดฝ่าฝืนข้อบังคับกระทรวงกลาโหมและคำสั่งกองทัพบกถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 33, 11 และ 32 ตามแต่กรณี
ทั้งนี้ กองทัพบกได้ทำโปสเตอร์ติดภายในพื้นที่กองบัญชาการกองทัพบก โดยระบุสิ่งที่สามารถทำได้ดังนี้ 1.การสมัครเข้าเป็นสมาชิกในพรรคการเมืองใดต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจนถึงผู้บัญชาการทหารบกทราบ 2.การเข้าร่วมประชุมทางการเมืองในฐานะส่วนตัวได้ แต่ต้องไม่สวมเครื่องแบบและไม่ใช้ในเวลาราชการ 3.ปฏิบัติราชการในหน้าที่ด้วยการวางตนเป็นกลางโดยไม่มุ่งหวังประโยชน์ของพรรคการเมืองใดโดยเฉพาะ แต่ทั้งนี้ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล 4.ลงคะแนนเสียง/แสดงความคิดเห็นส่วนตัวต่อผู้ลงสมัครได้ 5.การแสดงความคิดเห็นทางการเมืองสามารถกระทำได้โดยไม่แต่งเครื่องแบบและไม่ใช้เวลาราชการ ทั้งนี้ ในการเข้าร่วมประชุมในที่สาธารณะนั้นต้องเป็นไปอย่างสงบ
ส่วนสิ่งที่ไม่สามารถกระทำได้ มีดังนี้ 1.ไม่กระทำการใดๆ อันมีลักษณะพาดพิง ส่อเสียด ล้อเลียน สถาบัน รัฐบาล และผู้บังคับบัญชา 2.ไม่แต่งเครื่องแบบหรือชุดอื่นใดรวมถึงใช้ตราสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความเป็นทหารเข้าร่วมประชุมกับพรรคการเมืองหรือไปร่วมชุมนุมในที่สาธารณะ อันเป็นการประชุมที่มีลักษณะทางการเมือง 3.ไม่ประดับเครื่องหมายหรือแต่งเครื่องแบบของพรรคการเมืองเข้าไปในสถานที่ราชการ 4.ไม่บังคับผู้อยู่ในบังคับบัญชา ทั้งโดยตรงหรือโดยปริยายให้เป็นสมาชิกในพรรคการเมืองใดและไม่กระทำการในทางให้คุณหรือให้โทษ 5.ไม่แทรกแซงในทางการเมืองหรือใช้การเมืองเป็นเครื่องมือเพื่อการทำกิจการต่างๆ 6.ไม่แสดงออกโดยตรงหรือโดยปริยายที่จะเป็นการช่วยเหลือสนับสนุนผู้สมัครรับเลือกตั้งในระยะเวลาที่มีการสมัครรับเลือกตั้ง 7.ไม่โพสต์ข้อความทางการเมืองในเวลาราชการในสถานที่ราชการหรือใช้คอมพิวเตอร์ของราชการรวมถึงห้ามใช้ account ของราชการร่วมกิจกรรมทางการเมืองบนสื่อสังคมออนไลน์
ทั้งนี้ มีรายงานว่าข้อกำหนดดังกล่าวได้นำมาติดในพื้นที่กองทัพบก ภายหลังการประชุมหน่วยขึ้นตรงระดับผู้บังคับกองพันขึ้นไป เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยมี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธาน.
เมื่อวานคุยเล่น เรื่องลูกพรรคเพื่อไทย ร้องขอให้ "นายใหญ่" ส่งเมีย "คุณหญิงพจมาน" มาเป็น "ขอนไม้ดุ้นใหม่" ของพรรค ให้ลูกกบ-ลูกเขียดในพรรคได้เกาะ วันนี้ ขอคุยซีเครียดซักนิด |
อนาคต 'คนนินทาเมีย' |
'โควิดคลาย-โรคอิจฉาคุ' |
ไทย"เหนือคาดหมาย"เสมอ |
วิสัยทัศน์"อินทรี-อีแร้ง" |
"การ์ดเชิญ"๒๑ ตุลา. |
เปิดประเทศ"เปิดตรงไหน?" |