"ไทยภักดี" ขย่มซ้ำ ผลเลือกตั้ง อบจ.ประชาชนทั้งประเทศสั่งสอน "ธนาธร-คณะก้าวหน้า" แพ้หมดรูป  เพราะคนไม่เอาพวกล้มเจ้า แนะม็อบสามนิ้วควรสำนึกกลับไปอยู่บ้าน-เลิกเคลื่อนไหว "สายลมที่หวังดี" พา "ทราย" กระแทก กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ ก่อนขึ้นโรงพักหลังโดนเอาผิดคดี 112

    เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม ที่ สน.บางเขน กลุ่มแกนนำและนักเคลื่อนไหวม็อบสามนิ้ว ประกอบด้วย น.ส.อินทิรา  เจริญปุระ หรือทราย แม่ยกกลุ่มคณะราษฎร, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม,  นายอานนท์ นำภา แกนนำคณะราษฎร 63, นายชินวัตร  จันทร์กระจ่าง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย,  นางณัฏฐธิดา มีวังปลา พยาบาลอาสา, นางพิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ และนายพรหมศร วีระธรรมจารี แนวร่วมคณะราษฎร 63
    โดยทั้งหมดได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรายงานตัว หลังถูกแจ้งข้อกล่าวหาทำผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากกรณีร่วมกันชุมนุมที่หน้ากรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เมื่อวันที่ 29  พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมี นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีต ส.ส.แพร่  และสมาชิกพรรคเพื่อไทย, นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.พรรคก้าวไกล เข้าร่วมสังเกตการณ์
    การเข้าพบพนักงานสอบสวนครั้งนี้ กลุ่มแกนนำที่ถูกออกหมายเรียกได้ตั้งขบวนหน้า สน.บางเขน ก่อนจะเคลื่อนขบวนด้วยการแห่แตรวง โดยมีมวลชนที่ร่วมขบวนแห่และมาให้กำลังใจประมาณ 200 คน แต่เมื่อมาถึงหน้าทางขึ้นโรงพัก พ.ต.อ.อรรถพล มีเสียง ผกก.สน.บางเขน  ได้ประกาศผ่านเครื่องเสียงให้หยุดการชุมนุมเวลา 11.30 น. สร้างความไม่พอใจให้กลุ่มแกนนำและได้เข้าประชิดตัว  พ.ต.อ.อรรถพล โดยเฉพาะนายอานนท์ นำภา ได้ถกเถียงกับ ผกก.สน.บางเขนอย่างรุนแรง
    โดยในช่วงก่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา นายพริษฐ์ได้ขึ้นเวทีที่ทำขึ้นจากรถซาเล้ง 2 คัน กล่าวโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ารับใช้ขี้ข้าเผด็จการ ดำเนินคดีผู้เห็นต่างโดยใช้ ม.112 พร้อมเรียกร้องให้มีการยกเลิก ม.112  พร้อมอ้างว่าที่มาวันนี้ไม่ได้เป็นการชุมนุม แต่มาตามหมายเรียก ขณะเดียวกันนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ที่มาให้กำลังใจเพื่อน กล่าวโจมตีการทำงานของนายอนุทิน  ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข เรื่องการจัดการกับปัญหาโควิดไม่ได้ เป็นแค่ รมต.โชห่วย เอาโควิดมาเป็นข้ออ้างในการห้ามมีการชุมนุม
    จากนั้นนางสาวอินทิรา เจริญปุระ หรือทราย ได้ขึ้นเวทีกล่าวว่า ไม่รู้จะพูดอะไร ขอบคุณผู้ที่มาให้กำลังใจ จากนั้นกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า "กล้ามาก เก่งมาก ขอบใจ"
    ด้านนายอานนท์ปราศรัยว่า เตรียมทนายไว้ดำเนินคดี  157 กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่แจ้งข้อหา ม.112 กับแกนนำ  พร้อมเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ถ้ายังไม่มีการปฏิรูปปีหน้าหนักแน่ ข้อเรียกร้องปีหน้าจะเหลือเพียงข้อเดียวคือข้อ 3 ในการเรียกร้องของกลุ่มตน
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กมากั้นทางขึ้นโรงพัก โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนของ บก.น.2 จำนวน 1 กองร้อยคอยรักษาความสงบ ส่วนมวลชนได้มีการนำปฏิทิน พ.ศ.2564  ซึ่งเป็นรูปใบหน้าของกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกดำเนินคดี ม.112  มาแจกให้มวลชน และยังมีการตั้งซุ้มอาหารของทรายที่นำมาให้รับประทานด้วย  
    หลังเสร็จสิ้นการเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยแกนนำทั้งหมด 8 คนได้ปฏิเสธข้อกล่าวหา และระหว่างที่นางสาวอินทิราเดินออกจาก สน.บางเขน ได้มีมวลชนทำเซอร์ไพรส์วันคล้ายวันเกิดล่วงหน้าให้ ซึ่งทรายเกิดในวันที่  23 ธันวาคม โดยนำเค้กรูปตัวการ์ตูนหญิงที่แทนตัวนางสาวอินทิรามามอบให้ โดยประชาชนอวยพรขอให้มีความสุขมากๆ จากนั้นวงดนตรีเล่นเพลงสายลมที่หวังดี ทำให้ น.ส.อินทิราตื้นตันใจ กลั้นน้ำตา และเดินหลบไปร้องไห้  ก่อนขึ้นรถกลับออกไปจากสถานีตำรวจ จากนั้นแกนนำบางส่วนได้สลับกันขึ้นปราศรัยก่อนทยอยเดินทางกลับ
    ด้าน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานยุทธศาสตร์กลุ่มไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า "#ได้เวลาม็อบกลับบ้าน ผลการเลือกตั้ง อบจ.ทั่วประเทศ ได้สะท้อนถึงความต้องการของประชาชนที่แท้จริงว่า ไม่ต้องการพวกดูหมิ่น จาบจ้วง ล้มเจ้า แม้แต่ผู้สมัครสมาชิก อบจ.ของเครือข่ายล้มเจ้า ในบางพื้นที่ที่สมัครแค่คนเดียวยังแพ้คะแนนโหวตโน สิ่งที่เกิดขึ้นคือคำตอบ ที่ม็อบได้รับจากประชาชนเช่นกันว่า ประชาชนทั้งประเทศยังยึดมั่น การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ไม่ต้องการสาธารณรัฐและคอมมิวนิสต์"
    "ผลเลือกตั้งท้องถิ่นที่ออกมาเช่นนี้ ม็อบน่าจะได้เวลากลับบ้านแล้ว ปล่อยให้รัฐบาลไปทำหน้าที่จัดการโควิด  ดูแลทุกข์สุขของประชาชน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า หลังจากที่ประเทศของเราเสียเวลากับม็อบมานานพอสมควรแล้ว ท้ายนี้ก่อนม็อบกลับบ้าน สิ่งที่แกนนำกำลังเล่นอยู่ อย่าท้าทายศรัทธาของประชาชน น้องไม่ศรัทธาเป็นเรื่องของน้อง แต่ประชาชนเขาศรัทธาของเขา ฝากไว้ว่า อย่าท้าทายศรัทธาของประชาชน" นพ.วรงค์ระบุ.